ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่959



บทที่959

จ้าวโจวเยว่นอนอยู่กับพื้น เห็นคนขับแท็กซี่ที่มีสีหน้าดุร้าย เหมือนปีศาจ จ้าวโจวเยวตอนนี้ไม่มีสีหน้าที่อวดเก่งและข่มขู่ เหมือนตอนเรียกรถ

เขามองไปที่คนขับแท็กซี่และข้อร้องด้วยความโศกเศร้าว่า “พี่ครับ ผมพึ่งหมดตัวมา ผมไม่เหลืออะไรแล้ว แถมยังติดหนี้ ก้อนโตด้วย และยังถูกซ้อมจนเป็นสภาพอย่างที่เห็น ผมไม่มีเงิน จ่ายค่ารถจริงๆ ผมขอร้องนะครับปล่อยผมไปเถอะครับ!”

คนขับแท็กซี่พูดด้วยความโกรธว่า “คุณติดหนี้ก้อนใหญ่หรือ กูก็ติดหนี้ก้อนใหญ่เหมือนกัน ถ้ามีเงินกูจะมาขับแท็กซี่ทำไม? มึงคิดว่าสี่สิบหน้าหยวนนี้หากันง่ายหรือ? สี่สิบหน้าหยวนนี้ก ต้องใช้กินข้าวสองวันนะ!รีบเอาเงินออกมาจ่ายซะ!!

จ้าวโจ๋วเยวปล่อยโฮร้องไห้หนักออกมา “พี่ครับ ผมไม่มีเงิน จริงๆ ที่สำคัญบนตัวผมก็ไม่มีสิ่งของมีค่าอะไรเลย ผมข้อร้องนะ พี่สงสารผมเถอะครับ!!

คนขับแท็กซี่ตะโกนอย่างเยือกเย็นออกมา “คุณอย่าใช้วิธีกับ ผม ไม่งั้นผมจะโทรแจ้งตำรวจนะ!”

จ้าวโจ๋วเยว่ได้ยินประโยคนี้แล้ว รีบดิ้นและคลานขึ้นมา แล้วไปคุกเข่าโน้มศีรษะต่อหน้าเขาและพูดว่า “พี่ครับ ผมไม่มี เงินจริงๆ ถึงคุณจะฆ่าผม ผมก็ไม่มีเงินจ่าย ผมข้อร้องนะ ผมข้อ น้องเถอะ ผมคุกเข่าโน้มศีรษะให้คุณได้มั้ย? คุณก็ถือว่าผมเป็นลูกคนหนึ่งของคุณ ปีใหม่มาคุกเข่าโน้มศีรษะคารวะคุณ คุณก็ ควรให้ยั่งเปาผมไม่ใช่หรือ?”

คนขับแท็กซี่ไม่เคยพบคนที่หน้าไม่อายแบบนี้มาก่อน เขา โกรธจนตัวสั่น: “คุณ…คุณคนนี้ทำไมหน้าบ้านได้ถึงขนาดนี้? คุณไม่มีพ่อแม่หรือ? ถ้าพ่อแม่คุณรู้ว่าคุณคุกเข่าโน้มศีรษะให้คน อื่นเพื่อเงินสี่สิบห้าหยวนและเพื่อเป็นลูกของคนอื่น พ่อแม่จะมี ความรู้สึกอย่างไร?”

จ้าวโจ๋วเยว่เกือบจะร้องไห้ออกมา: “พี่ครับ ความจริงแล้วผม เป็นเด็กกําพร้า ผมไม่มีพ่อและแม่ตั้งแต่เด็กแล้วครับ ผมเติบโต ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิง ผมทำงานมาหลายปี มีเงินเก็บ แสนสองหมื่น แต่ผมถูกเพื่อนที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหลอกเงิน ไป ไอ้สัตย์นั้นไม่เพียงหลอกเงินผมไปแสนสองหมื่น และยัง หลอกให้ผมกู้เงินดอกเบี้ยโหดจากแอพต่างเป็นเงินห้าแสนอีก ด้วย ตอนนี้ผมเดินมาถึงจุดจบของชีวิตแล้ว……

คนขับแท็กซี่ดูแล้วเหมือนเขาไม่ได้โกหก ในใจรู้สึกตะลึงไม่ น้อย: เขาตั้งใจทำงานเก็บเงินได้ขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงมีคนที่ โชคร้ายแบบนี้ด้วย?”

นึกถึงตอนนี้ เขาเลยไม่กล้าที่จะบังคับให้เขาจ่ายค่ารถเลย

ดังนั้นคนขับคนได้ถอนหายใจและพูดกับจ้าวโจ๋วเยว่ว่า: “ชีวิต คุณน่าสงสารขนาดนี้ สูญเสียพ่อและแม่ไปตั้งแต่เด็ก ครั้งนี้ก็ ถือว่าผมให้คุณนั่งฟรี ถือว่าผมโชคร้ายก็ก้นแล้ว!”

จ้าวโจ๋วเยว่ได้ยินแบบนี้แล้ว รีบคุกเข่าโน้มศีรษะสามครั้งทันทีและพูดด้วยความขอบคุณว่า “ท่านเป็นคนใจดีมาก เป็นพ่อแม่ คนที่สองของผมเลยนะ!”

เขาเงยหน้าไปมองคนขับแท็กซี่และวิงวอน: “ท่าน ท่านก็ให้ ผมนั่งรถฟรีแล้ว มีเงินสักห้าสิบหยวนให้ผมยืมมั้ยครับ ถือว่า เลี้ยงข้าวผมสักมือครับ!”

คนขับแท็กซี่โมโหมาก ใช้ตีนถีบเขาออกไปและด่าว่า “สงสารคนต้องมีจุดที่น่ารังเกียจ คำพูดที่หน้าไม่อายนี่ยังพูดออก มาได้ แม่มึงกูยอมถึงจริงๆ!

พูดจบคนขับได้เดินกลับไปที่รถ และสตาร์ทรถขับออกไป

จ้าวโจวเยวดิ้นรนและคลานขึ้นมาจากพื้น และปัดเดินบนตัว เขาออกไป คิดในใจว่า “ถึงขั้นตอนจะล้มลุกคลุกคลานหน่อย แต่ก็ประหยัดค่ารถได้สี่สิบห้าหยวน”

เอาเปรียบคนขับรถไม่จ่ายค่ารถสี่สิบห้าหยวนแล้ว ถึงทำให้

อารมณ์ของจ้าวโจวเยวดีขึ้นมานิดหนึ่ง

จ้าวโจ๋วเยว่เดินกะโผลกกะเผลกไปที่บ้านของแฟนสาว ในใจ เขาคิดว่าเมื่อเจอแฟน สิ่งแรกที่จะทำก็คือพุ่งเข้าไปกอดเธอและ ร้องไห้ออกมา

แฟนสาวเขาอาศัยอยู่ในกระท่อม โกโรโกโส เป็นกระท่อมที่ สร้างขึ้นเอง และดูเก่าหน่อย

แต่ในสายตาของจ้าวโจ๋วเยว่ นี่เป็นเหมือนเหมืองทอง เพราะ ตอนนี้ทางรัฐบาลกำลังควบคุมเขตกระท่อมโกโรโกโสอยู่ด้วยเขาจะบังคับท่าการรื้อถอน ถ้ารื้อถอนแล้วก็ชดเชยด้วยบ้าน บ้าน หนึ่งแถวที่ดีและที่มีห้องนอนสามห้องนอนและห้องโถงสองห้อง

ดังนั้นเขาถึงอยากจะแต่งงานกับแฟนคนนี้เร็วๆ ถ้าเป็นแบบ นี้ ตัวเขาเองก็สามารถที่จะแต่งงานเข้าไปเป็นลูกเขยแต่งเข้า เมื่อ หลังจากที่รื้อถอนแล้วเขาจะได้มีส่วนแบ่งผลประโยชน์บ้าง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ