ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 852



บทที่ 852

พูดจบก็ได้ถามต่อว่า “ฉันนึกขึ้นมาได้ ฉันยังไม่ได้ถามนาย เลย นายอยู่เมืองไห้ไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมถึงมาที่จินหลังเร็วได้ ขนาดนี้?”

จ้าวเท้ายิ้มแล้วตอบว่า “เป็นเพราะความบังเอิญมากกว่า ทาง หน่วยงานส่งให้ฉันมาปฏิบัติงานนอกสถานที่ ฉันจึงถึงเย็นนี้เอง และพึ่งจะลงจากรถทัวร์ ฉันเห็นนายคุยในกลุ่มแชท ฉันก็เลยมา ทีนี่ทันที”

เย่เฉินถามไปด้วยความสงสัยว่า: “นายทำธุรกิจส่วนตัวไม่ใช่ หรือ? ทำไมถึงกลับมาทำงานได้?”

จ้าวเท้ายิ้มอย่างลำบากใจและพูดว่า “ช่วงนี้ธุรกิจตกต่ำ ทำ ธุรกิจไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดนะ และสองปีที่ผ่านมาเศษกิจไม่ค่อยดี ทําอะไรก็ไม่ง่ายไปหมดเลย

พูดจบ เขาได้มองไปหาเซียวซูหนแล้วยิ้ม: “เย่เฉิน คนนี้คือ ภรรยาของนายหรือ?”

เย่เฉินพยักหน้าและตอบว่า: “คนนี้คือภรรยาของฉัน เซียวซูห รัน”

และเย่เฉินก็ได้แนะนำว่าจ้าวเท้าให้เซียวซูหน : “ซูหน คน นี้คือจ้าวเท้าเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันตอนอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

จ้าวเท้าหัวเราะแล้วพูดว่า “เย่เฉิน นายโชคดีมากเลยนะที่ได้ภรรยาที่สวยแบบนี้”

เซียวซูหนหัวเราะและพูดว่า “ขอบคุณค่ะ”

จ้าวเห้าพยักหน้าแล้วทำเป็นบ่นกับเย่เฉินว่า: “เย่เฉิน นายไม่ จริงใจเลยนะ! หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยติดต่อพวกเราเลย หลัง จากที่ป้าหลี่เป็นโรคโลหิตมีสารของปัสสาวะ ป้าหลี่บอกว่านาย ไปเยี่ยมป้าหลี่หลายครั้งมาก แต่นายกลับหลบหน้าเพื่อนพี่น้อง อย่างพวกฉัน นายทำแบบนี้ทำไม?”

เยเฉินหัวเราะเหอะๆ และตอบอย่างจริงจังว่า “ช่วงนั้นชีวิต ลำบากอยู่ เลยไม่อยากไม่คนอื่นเห็น

เย่เฉินก็มีเกียรติในตัวเองเหมือนกัน หลังจากที่แต่งงานกับ เซียวซูหน ก็มีคนพูดเสียดสี ว่าเขาเป็นคนไม่มีค่า เป็นไอ้ยาจก เป็นลูกเขยแต่งเข้า ถึงเขาจะไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองเขาอย่างไร แต่สำหรับพี่น้องในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว เขาไม่อยากให้พี่ น้องที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กเห็นสภาพที่ลำบากยากแค้นของตัว เอง”

จ้าวเห้าพูดอย่างจริงจังว่า “เพื่อนรักของฉัน เมื่อหลายปีก่อน เราก็นอนอยู่ที่เพิ่งของสถานที่ก่อสร้างด้วยกันนานหลายปี หมั่น โถวยังฉีกเป็นสองชิ้น แบ่งคนละครึ่งได้เลย นายยังจะเกรงใจ อะไรต่อหน้าฉันอีก? ที่สำคัญ เพื่อน หลายปีที่ผ่านชีวิตฉันก็ไม่ได้ ราบรื่นนะ แต่นายดูฉันสิ ก็ยังเฮฮาได้ไม่ใช่หรือ?”

เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ ตอนนี้หลี่เสี่ยวมีสีหน้าที่ทำแล้วจ้องมองข้าวเจ้า “พี่เค้าชื่อทำไมพี่ไม่ทักทายฉันสักที? ”

จ้าวเห้าถึงมองไปที่หลี่เสี่ยวเฟิน และจ้องหน้าเธออยู่พักใหญ่ ถึงได้พูดออกด้วยความตกใจว่า “เธอ……เธอคือเสี่ยวเป็น หรือ?!”

จ้าวเท้าก็เหมือนกับเย่เฉิน เขาออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตอนอายุสิบแปดและไม่ได้กลับมาอีกเลย

ตอนนั้นหลี่เสี่ยวเฟินพึ่งอายุสิบสามสิบสี่เอง ตอนนั้นยังเป็น เด็กน้อยอยู่เลย แต่หลี่เสี่ยวเฟิน ในตอนนี้ กลายเป็นสาวสวย แบบเต็มตัวแล้ว ความแตกต่างมีไม่น้อย

หลี่เสี่ยวเฟินหัวเราะและพูด: “นี่ฉันเอง มีอะไร นายต้องทำ หน้าตกใจขนาดนี้ด้วย?

จ้าวเท้าหัวเราะฮ่าๆ ออกมา “เธอเป็นผู้หญิงที่มีความ เปลี่ยนแปลงเยอะมาก ตอนนั้นเธอผอมและผิวเหลือง แถมยัง เตี้ยอีกด้วยดูอย่างไงก็เหมือนทอม แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นสาว สวยไปแล้ว!”

หลี่เสี่ยวเฟินตอบด้วยความเป็นว่า: “จ้าวเจ้า นายอย่าชมฉัน

เกิดจริงนะ ตอนนี้พี่สะใภ้อยู่ด้วย ฉันจะถือว่าสวยได้อย่างไง ระหว่างที่พูด เธอก็มองเซียวซูหน ความอิจฉาก็ปรากฏบน ใบหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น

จ้าวหัวเราะและพูดว่า: “เธอก็อย่าดูถูกตัวเองขนาดนี้ ตอนนี้ เธอก็เป็นสาวสวยหนึ่งในแสนเลยนะ”
ตอนนี้หลี่เสี่ยวเฟินเขินอายจนพูดอะไรไม่ออก ก็ได้มีโทรศัพท์

โทรเข้ามา

เมื่อเธอรับสาย ก็ปรากฏสีหน้าที่ร้อนรน และบอกทุกคนว่า “เมื่อกี้เจ้าของร้านอาหารโทรมา บอกว่าระบบไฟฟ้าที่ร้านอาหาร เก่าแล้ว แล้วมันเกิดไฟฟ้าลัดวงจร วันนี้คงซ้อมไม่เสร็จ น่าจะต้อง

รอพรุ่งนี้ วันนี้อาจจะไม่ได้เปิดร้าน……..…….

“อา?” จ้าวเห้าพูดโพล่งออกมา “งั้นเราก็ต้องหาร้านอาหาร ใหม่กะทันหันสินะ!”

หลี่เสี่ยวเฟินพูดออกมาด้วยความลนลานว่า “ช่วงนี้เป็นช่วง เวลาที่คนเขากินข้าวกัน หาที่นั่งในร้านอาหารกะทันหันแบบนี้คง ไม่ใช่เรื่องง่าย….……

เมื่อเย่เฉินได้ยินแบบนี้แล้ว เขาจะลองโทรไปถามหงห้า เทียน เซียงฝูยังมีโต๊ะว่างมั้ย

ขณะเดียวกันรถเบลล์สีดำได้มาจอดอยู่ข้างๆ ทุกคน…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ