ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1806



บทที่ 1806

“พูดโกหก!”ครั้งนี้หม่าหลันยังไม่ทันได้เอ่ยปาก ตงไฟก็ด่าเย ฉางหมิ่นและตบหน้าเธออีกครั้ง “คุณคิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบ หรือไง? เย่เฉินเคยแต่งงานแล้ว คุณไม่รู้เหรอ?”

“ฉันรู้เรื่องนี้ “เฉางหมิ่นพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น เพราะฉันรู้ เรื่องนี้ ดังนั้นฉันก็เลยใช้แผนการนี้ ทำให้เยเฉินกับเชียวชูหน หย่ากัน ทำอย่างนี้ลูกสาวของฉันถึงจะมีโอกาส

อู่ตงไห่พูดอย่างเย็นชา “คุณเป็นผู้หญิงที่ดูไม่ค่อยซื่อสัตย์เลย ฉันมองจากสายตาของคุณและรู้ว่าคุณไม่ได้พูดความจริงกับ ฉัน!”

เยฉางหมิ่นรู้สึกประหม่ามากๆ

อันที่จริงเธอไม่ได้มีจิตใจที่หนักแน่น เมื่อสักครู่ที่เธอหยิ่งยโส ไม่ใช่เพราะจิตใจของเธอหนักแน่น แต่เพราะอาศัยบารมีของตระ กูลเย่ ทำให้เธออวดเก่ง ไม่กลัวใครเลย เพราะไม่มีใครกล้าคิด ร้ายกับเธอ

อย่างไรก็ตาม ที่นี่ไม่ใช่เล่นจึง

เธอยังประเมินความเกลียดชังที่อู่ตงไห่มีต่อเย่เฉินต่ำเกินไป อู่ตงไห่ในขณะนี้ แค่อยากสั่งสอนเเงินก่อน จากนั้นค่อยหาโอกาสฆ่าเย่เฉิน
ดังนั้น ตงไห้ไม่พูดกับเย่างหมิ่นด้วยเหตุผลอย่างแน่นอน

ถ้าหากเปฉางหมิ่นไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าเธอ ไม่ใช่อาหญิงของเเฉิน ถ้างั้นคงไม่จะฆ่าผิดคน ก็ยังดีกว่า ปล่อยตัวไป!

ดังนั้นเย่างหมิ่นพูดด้วยเสียงสะอื้นว่า “คุณผู้ชาย ในเมื่อคุณ เกลียดชังเย่เฉิน คุณก็ต้องรู้อย่างแน่นอนว่าเเฉินเป็นเด็ก กำพร้ามาตั้งแต่เด็กและเติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ฉันจะ เป็นอาหญิงของเขาได้ยังไง? ถ้าฉันเป็นอาหญิงของเขาจริงๆ ฉัน จะยอมปล่อยให้หลานตัวเองอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าหลายๆ ปีได้ยังไง คุณคิดว่าฉันพูดถูกไหม?”

อู่ตงให้เปล่งเสียงเย็นชาออกมาและกัดฟันแล้วพูด “อะไรก็มี ความเป็นไปได้? ไอ้สารเลวอย่างน้องเขยของฉัน ตอนที่เขาเสีย ชีวิตยังทิ้งเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไว้เลย และเด็กผู้หญิงคนนั้นก็เป็น หลานสาวของภรรยาฉัน เด็กคนนั้นก็เรียกภรรยาฉันว่าอาหญิง ภรรยาของฉันอยากจะรับเธอมาเลี้ยง แต่ฉันปฏิเสธ ตอนนี้เด็กผู้ หญิงคนนั้นก็อาศัยอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มันเหมือนกับสิ่งที่ คุณพูดมาเมื่อสักครู่เลย?”

เย่ฉางหมิ่นอึ้งไปเลย และเธอก็ไม่รู้จะทำยังไง

ในเวลานี้ เซียวไห่หลงที่อยู่ข้างๆก็ค้นกระเป๋าของเยฉางหมิ่น และหยิบบัตรประจำตัวประชาชนของเธอออกมาจากกระเป๋า สตางค์ และยื่นให้อู่ตงไห้ด้วยท่าทางประจบประแจง และพูด ว่า “ประธานอู๋ คุณดุสิ ผู้หญิงคนนี้ชื่อว่าเช่ฉางหมิ่น เป็นคนเช่นจิง!”

อู่ตงไขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

คนที่ใช้นามสกุลเยถึงจะมีไม่มาก แต่ก็มีไม่น้อย ดังนั้นเขาไม่ ได้คิดว่าเยฉางหมิ่นมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเยีแห่งเย็นจึง

ตรงกันข้าม เมื่อเขาพบว่าผู้หญิงคนนี้นามสกุลเย่ เขาก็สรุปได้ ในทันที ผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นอาหญิงของเยเงินอย่างแน่นอน!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขากัดฟันแล้วจ๊กเส้นผมของเยฉางหมิ่น และ ตบหน้าเธอหลายครั้ง ตบจนเยฉางหมิ่นเลือดไหลเต็มปาก และ เขาก็พูดอย่างเย็นชา “คุณกล้ามากๆ ยังกล้ามาหลอกฉันอีก คุณ คิดว่าฉันตงไห่หลอกง่ายนักใช่ไหม?!”

เย่ างหมิ่นโดนตบจนหน้ามืดตามัว เธอแทบจะสติแตก เธอ ร้องไห้และพูด:”คุณอู๋ ฉันขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่ได้มี ความแค้นอะไรกับพวกคุณ ทำไมคุณต้องมาทำร้ายฉัน ด้วย…คุณมีความแค้นกับใคร ก็ไปล้างแค้นที่เขา ในเมื่อเย่เฉินมี ความแค้นกับคุณ คุณก็ไปฆ่าเขาได้เลย อย่ามาทำร้ายผู้หญิง อย่างฉันเลย ฉันขอร้อง…”

ถ้าไม่ถึงที่สุด เฉางหมิ่นไม่กล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัว เอง เพราะถ้าเขาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง อาจจะทำให้อู่ตงไห ตัดสินใจหนักแน่นที่จะฆ่าเธอปิดปาก

ดังนั้นเธอจึงต้องอดทนให้ถึงที่สุด!

ถ้าไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ เธอค่อยเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง

ในเวลานี้ อู่ตงไห่หัวเราะออกมา “คุณพูดว่าฉันไม่ได้มีความ แค้นกับคุณ?! ฉันจะบอกคุณ ไม่ว่าใครที่เป็นญาติหรือเพื่อนสนิท ของเย่เฉิน ทุกคนจะเป็นศัตรูของฉันทั้งหมด! พวกคุณสองคน คน หนึ่งเป็นอาหญิงของเยเฉิน ส่วนอีกคนเป็นแม่ยายของเยเฉิน ไม่ ว่ายังไงพวกคุณสองคนก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว!”

เมื่อพูดจบ เขาก็รีบตะโกนใส่บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆ “อาเม่า น่าตัวอาหญิงของเยเฉินออกไปก่อน แล้วยิงเธอให้ตายในนัด เดียว!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ