ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2300



บทที่ 2300

สีหน้าของนายท่านใหญ่ซูเปลี่ยนเป็นหน้าเสีย

คำพูดของซูโสเต๋อ ทำให้เขารู้ชัดว่า ถ้าหากตัวเองตัดสินใจ ลงมือกับตู้ไหชิง ถ้าอย่างนั้น ทั้งครอบครัวของลูกชายคนโต อย่างซูโสเต้า จะต้องหันมาเกลียดตัวเอง

แต่ว่า ในใจของเขารู้ดี ถ้าหากตัวเองไม่ลงมือกับตู้ไม่ชิง ศักดิ์ศรีของตระกูลซูจะต้องหายใจ!

ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร จะไม่มีทางปล่อยให้ไม่ชิงบังอาจ อย่างนี้ต่อไป

เมื่อไรที่ศักดิ์ศรีของตระกูล สามารถถูกคนหญิงอย่างนี้

บังอาจเหยียบย่ำ ตระกูลจะรักษาตำแหน่งและศักดิ์ศรีของตัวเอง

อย่างไร?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็พูดอย่างเย็นชาออกไปว่า “รอเรื่องนี้สิ้น สุดลง ก็ให้ถือเฟยไปพบพี่ใหญ่ของแกที่อยู่ออสเตรเลีย หลังจาก นี้ไปอย่าให้เขากลับมาอีก!

ซูโสเต๋อที่ได้ยินอย่างนั้น เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

“พ่อจะให้ถือเฟยไปเจอพี่ใหญ่ที่ออสเตรเลีย นั่นก็เท่ากับว่าถูก เนรเทศน่ะสิครับ พ่อลูกคู่นี้จะไม่สามารถแย่งชิงการสืบทอดของ ตระกูลซูได้อีกต่อไป จะต้องใช้ชีวิตอย่างรอวันตายที่ ออสเตรเลีย!
“ด้วยวิธีนี้ ฉันจะเป็นตัวเลือกของผู้สืบทอดที่ดีที่สุดในสายตา ของคุณพ่อ มีความสุขจริงๆเลย! มีความสุขจริงๆ!

ในขณะเดียวกัน

ใกล้ถึงเวลาสิบโมงตรงแล้ว

ณ งานประมูล มีคนนั่งอยู่ประมาณสิบกว่าคนแล้ว

ผู้ประมูลที่เข้าร่วมการประมูลของสำนักอัยการในวันนี้

สิ่งที่พวกเขาต้องตา ส่วนใหญ่เป็นพวกบ้านมือสองและ รถยนต์

เพราะทรัพย์สินที่สำนักอัยการเอามา แทบจะทั้งหมดมีความ เกี่ยวข้องกับคดีความ และความสัมพันธ์ซับซ้อน ดังนั้นคน ธรรมดาส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยสนใจมากนัก

เมื่อก่อนมีคดีจํานวนมาก ยกตัวอย่างเช่นบ้านที่สำนักอัยการ นำมาประมูล แต่เจ้าของบ้านเก่าปฏิเสธที่จะย้ายออกไป สุดท้าย ทำให้คนที่ซื้อไปถึงกับปวดหัว คิดว่าจะสร้างกำไรอะไรได้ สุดท้ายก็รักษาไว้ไม่ได้จนต้องทิ้งไป

ด้วยเหตุนี้ บ้านที่ยึดมาแล้วประมูล จะมีราคาที่ต่ำกว่าท้อง ตลาดเล็กน้อย ถ้าหากไม่กลัวมีปัญหา สามารถประหยัดเงินได้ อยู่บ้าง

ดังนั้นทุกคนจึงมาเพื่อเก็บลาภ เพราะฉะนั้นการประมูลด้วยสำนักอัยการจึงไม่ได้มีความคึกคักเหมือนกับการประมูลทั่วไป

การประมูลภายนอกนั้น ในบางครั้งจะมีสองฝ่ายหรือหลาย ฝ่ายพากันแย่งของชิ้นเดียว จากของไม่กี่แสน สุดท้ายเพราะพา กันทำราคาให้สูงขึ้น ต่อสู้กัน จนสุดท้ายตัวอย่างที่จบลงที่ราคา หลายล้านก็มีให้เห็นทั่วไป

การร่วมประมูลในงานประมูลของสำนักอัยการ ทุกคนต่าง อยากประหยัดเงินแล้วเก็บลาภ บ้านที่ราคาตามท้องตลาดหนึ่ง ล้าน ทุกคนต่างอยากต่อราคาลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ยกป้าย ยังไงก็ต้องลดสิบเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ถ้าหากต่ำกว่าสิบเปอร์เซ็นต์ ความสนใจจะถูกลดลงทันที

ดังนั้น การประมูลแบบนี้จึงไม่มีความหมายอะไรมากนัก เวลาสิบโมงตรง พิธีกรประมูลเข้าสู่งาน

เนื่องจากทุกอย่างง่ายและรวดเร็ว ดังนั้นจึงไม่มีพิธีรีตองอะไร ที่เพิ่มเข้ามา ทันทีที่พิธีกรประมูลขึ้นเวที ก็ตรงเข้าสู่ประเด็น พูด ขึ้นมาว่า “ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้าร่วมการประมูลของสำนัก อัยการ วันนี้ของสิ่งแรกที่เราจะทำการประมูลคือ รถออดี้ ภาย ใต้ชื่อของบริษัทป์อเวยของเมืองจินหลิง ป้ายทะเบียนอายุสามปี เลขไมล์คือ113,000ไมล์ ราคาเริ่มประมูล150,000หยวน การ เสนอราคาขั้นต่ำหนึ่งพันหยวน เริ่มได้ครับ”

ราคาซื้อขายรถมือสองแบบนี้และรถมือสองในสภาพเดียวกัน ในตลาดปกติโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 210,000หยวน

เพราะเพดานของมันคือ 210,000หยวน ดังนั้นทุกคนจึงเสนอราคาอย่างสมเหตุสมผล

หลังจากที่เสนอราคาไปหลายครั้ง ราคาถูกเสนอจนถึงหนึ่ง แสนแปดหมื่นหยวน คนที่เสนอราคาต่างค่อยๆพากันยอมแพ้ มี เพียงสองคนเท่านั้นที่ยังคงยืนหยัด

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ราคาใกล้บีบจนถึงเพดานแล้ว คน ที่เหลือทั้งสองคนจึงเสนอราคาอย่างระมัดระวัง หลังจากผ่านไป หลายนาที หนึ่งในนั้นจึงเสนอราคาถึง195,000หยวน อีกคน หนึ่งก็ไม่ได้ตามไปอีก

พิธีกรประมูลประกาศ ของชิ้นแรกที่ประมูล ตกลงกันใน

ราคา195,000 หยวน

ในห้องวีไอพี เฉินจือข่ายพลิกเปิดดูทรัพย์สินในการประมูล อย่างไม่ใส่ใจ แล้วพูดกับเยเฉินว่า “คุณชายครับ วันนี้มีรถเข้า ร่วมการประมูลทั้งหมดสิบเอ็ดคัน หลังจากที่ประมูลรถหมดก็จะ เริ่มประมูลอสังหาริมทรัพย์ครับ อสังหาริมทรัพย์จะถูกประมูล เป็นชิ้นแรก จะเริ่มประมูลในราคา880,000หยวน

“ผมได้บอกกับคนขับรถแล้ว ไม่ว่าราคาจะเสนอไปถึงเท่าไร เขาจะต้องตามให้ถึงที่สุด จะต้องช่วยคุณประมูลบ้านหลังนี้ให้ ได้! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ