ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 658



บทที่ 658

“อิ่ม” เซียวซูหนกล่าวว่า “ฉันจะไปอาบน้ำก่อน

ขณะที่เย่เฉินและเชียวหรับเตรียมตัวจะพักผ่อน บนท้องฟ้า ของเมืองซูหาง มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่ง

พ่อลูกตระกูล ใช้เวลาสองชั่วโมงบนเฮลิคอปเตอร์ ในที่สุดก็ มาถึงคฤหาสน์สุดหรูของตระกูล ในเมืองซูหาง

เวลานี้คนทั้งหมดของตระกูล กำลังรออยู่ที่สนามหญ้าขนาด ใหญ่ของคฤหาสน์ คนในตระกูลรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ที่เมืองจีนหลิง เวลานี้พวกเขาต้องการที่จะพบและปลอบโยนพวก เขาอย่างรวดเร็ว

เวลานี้อู๋ฉีตามแม่ของเขา ไปรออยู่ที่ด้านข้างของสนามหญ้า

อู๋ตงไห่และอู๋ซินที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์บิน ลงต่ำอย่างต่อเนื่อง เมื่อเห็นญาติของพวกเขารออยู่ที่พื้น ทั้งสอง คนน้ำตาไหลนองหน้า

สิ่งที่ประสบพบเจอในเมืองจีนหลิงเป็นเหมือนนรก ทำให้พวก เขาสองคนเกิดความทุกข์ทรมานอย่างมาก

ในที่สุดพวกเขาก็กลับมาถึงบ้าน ทั้งสองคนก็ถอนใจด้วย ความโล่งอก!
เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลงจอด ประตูเปิดออก คนรับใช้ของตระกูล กรีบช่วยพยุงสองพ่อลูกและพวกจางจื่อโจวทั้งห้าคนลงจาก เฮลิคอปเตอร์

เมื่อเห็นว่าทั้งสองพ่อลูกขาหัก มือของอู๋ซินยังหักอีกด้วย สอง พ่อลูกร้องไห้จนตาแดง คนทั้งตระกูลต่างก็ตกใจ

พวกเขายังไม่ทราบสาเหตุว่า เพราะเหตุใดลูกชายคนโตและ หลานชายคนโตของตระกูลอู๋ไปที่เมืองจินหลิง ทำไมถึงได้นำ สังเวชเช่นนี้ ราวกับว่าพวกเขาประสบกับภัยพิบัติ………

เมื่อทุกคนเห็นตัวหนังสือที่สลักบนหน้าผากของพวกจางจื่อโจ วทั้งห้า ทุกคนต่างก็ตกตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก!

เมื่อเห็นคำว่า “อู่ชอบกิน” สลักอยู่บนหน้าผากของคน หนึ่งในบรรดาห้าคน เขาก็แทบคลั่ง รีบวิ่งเข้าไปเตะที่ท้องของ เขา แล้วก็ด่าว่า “ไอ้เหี้ย คำที่สลักบนหน้าผากของแกคือเชีย อะไร? รีบไปเอามีดมา ฉันจะตัดเนื้อหนังบนหน้าผากของเขาออก ให้หมด!”

ชายคนนั้นร้องไห้และกล่าวว่า “คุณชาย ทั้งหมดนี้สลักโดยหง ห้าที่เมืองจีนหลัง อีกอย่างเขาสลักอย่างลึก สลักลึกจนถึงกระดูก แล้ว……..

อู๋ตงไห่ก็รีบกล่าวว่า “เสี่ยว อย่าหุนหันพลันแล่น! ไม่สามารถ เตะต้องคนห้าคนนี้และตัวอักษรบนหน้าผากของพวกเขาได้!”

“เตะต้องไม่ได้?อู๋ฉีโกรธจนเกือบเป็นบ้า คำว่า “ทำไมถึง เตะต้องไม่ได้? บนหน้าผากของเขาสลักตัวอักษรคำว่าฉันกินนี่เป็นการดูหมิ่นฉัน!”

อู่ตงไห่กล่าวว่า “โฆษกของตระกูลเยู่ที่เมืองเย็นจึงกล่าวว่า ห้ามทําร้ายพวกเขา ห้ามละเลยพวกเขา และห้ามลบตัวอักษรบน หน้าผากของพวกเขา ไม่เช่นนั้นตระกูลเยู่ที่เมืองเย่นจึงจะไม่ ปล่อยพวกเราไป!”

“ตระกูลเย่ที่เมืองเย่นจิง!” ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ตก ตะลึงจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก

อู๋ฉีก็มึนงงเช่นกัน

ตอนที่โรคไม่ทําเริบ เขาก็เป็นเหมือนคนธรรมดา ฉะนั้นเขาจึง รู้ว่าตระกูลเยู่ที่เมืองเย่นจึงมีอำนาจมากเพียงใด เป็นตระกูลที่ ตระกูล สามารถล่วงเกินได้

เพียงแต่เขาคิดไม่ออกว่า ทำไมตระกูลเย่ที่เมืองเป็นจึงถึงพุ่ง เป้ามาที่ตระกูล? ตระกูลอู่ทำอะไรผิด?

เมื่ออู่ตงให้เห็นภรรยาตนเอง เธอก้าวมาข้างหน้า ตาแดง แล้วกล่าวว่า “คุณสามี คลิปวิดีโอบนตึกต็อกมันช่างเหยียด หยามเกินไป บอกว่าฉันเป็นผู้หญิงแพศยา ……………..

อู่ตงไห้กอดภรรยาตนเองไว้ในอ้อมแขนด้วยความสงสารและ กล่าวอย่างจำใจว่า “คุณภรรยา เรื่องคลิปวิดีโอบนตึกตอกฉันได้ พยายามแก้ปัญหาแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่า ตระกูลเยู่ที่เมืองเป็นจิง จะซื้อบริษัทติ๊กต็อก โดยตรง อีกอย่างยังได้ตั้งค่าให้คลิปวิดีโอ นั้นอยู่หน้าสุด ฉันก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้อีกแล้ว คุณก็อย่า คิดมาก ถึงอย่างไรพวกนั้นมันก็เป็นเรื่องไร้สาระ คนที่มีสมองจะรู้ว่ามันไม่เป็นความจริง”

หลังจากนั้นอู่ตงไห้ก็กล่าวต่อไปว่า “พวกคุณวางใจได้ ฉันได้ ส่งคนไปตามล่าไอ้หมาเบี้ยสองตัวที่บันทึกวิดีโอแล้ว คืนนี้พวก เขาคงไม่รอดแน่!”

อู่ตงเจียงน้องชายของอู่ตงไห่กล่าวด้วยสีหน้าเป็นทุกข์ว่า “พี่ ชาย คุณรีบไปพบพ่อก่อน หลังจากโรคหัวใจกำเริบ ก็ยังไม่ สามารถลุกขึ้นได้ นอนรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยหนักของ ครอบครัวเรา…….

อู่ตงไห่รีบกล่าวว่า “เร็ว ช่วยพยุงฉันหน่อย ฉันจะรีบไปดูพ่อ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ