ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1812



บทที่ 1812

ผ่านไปชั่วครู่ เขียวฉางเฉียนยังคงพูดเรื่องนี้ต่อ “ประธาน คุณคิดดูสิ ถ้าเยฉางหมิ่นเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเข่แห่งเย่น จึงจริงๆ ทำไมเธอต้องมาที่เมืองจีนหลังด้วย? นอกจากนี้ เธอ บอกเรื่องชาติกำเนิดของเยเฉิน มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อเลย! ไอ้ ยากจนอย่างเย่เฉิน ก่อนที่จะแต่งเข้ามาในตระกูลของฉัน เขา เป็นเพียงคนงานชั่วคราวในไซต์งานก่อสร้าง เขากินและอาศัย อยู่ในไซต์งานก่อสร้างด้วย เขายากจนมากๆ! ฉันจะพูดคำพูดที่ น่าเกลียดหน่อย บางทีตอนนั้นเขาอาจจะไม่มีเงินซื้อกระดาษเช็ด ดูดด้วยซ้ำ เขาจะเป็นคุณชายของตระกูลผู้ร่ำรวยได้ยังไง? ตระกูลร่ำรวยที่ไหนยอมให้หลานชายตัวเองทนทุกข์ทรมานอยู่ ภายนอกตั้งหลายปีเหรอ?”

สีหน้าของอู่ตงไห่ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา และไม่ สนใจเรื่องที่เขาพูดด้วย

ถึงแม้คําพูดของเซียวฉางเฉียนฟังแรกๆอาจจะรู้สึกสมเหตุสม

ผล แต่เขาก็ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันเรื่องนี้ได้เลย แต่เมื่อสักครู่อู่ตงไห่มองเห็นสมุดเช็คและตราประทับส่วนตัว

ของเยฉางหมิ่นกับตาตัวเอง

สมุดเช็คเป็นของจริง ตราประทับส่วนตัวก็เป็นของจริงด้วย

เมื่อบวกกับกระเป๋าHermesรุ่นลิมิเต็ด มันสามารถยืนยันได้

ว่าเธอคือเยฉางหมิ่นจริงๆ
ตอนนี้ปัญหาที่กวนใจ ตงให้มากที่สุดคือเขาจะทำยังไงกับเข่ จางหมิ่น

เขาไม่อยากจะเชื่อคำพูดของเยฉางหมิ่นเลย ความคิดของคน

ชั้นสูงเป็นอย่างไร เขารู้ตัวดี ปากพูดว่าจะไม่เอาเรื่อง แต่ถ้าปล่อยเธอเป็นอิสระจริงๆ สิ่งที่ เธอจะทําเรื่องแรกก็คือฆ่าตัวเองให้ตายอย่างแน่นอน

แต่ถ้าฆ่าเธอตอนนี้เลย มันก็อันตรายมากเกินไป

เนื่องจากเซียวฉางเฉียนกับเซียวไม่หลงท่าเรื่องนี้ได้ไม่ค่อย ระมัดระวังเลย เมื่อจับคนแล้วก็ขับรถตู้มาที่นี่เลย และไม่ได้ เปลี่ยนรถตู้ระหว่างทางด้วย ถ้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดอย่าง เข้มงวด ก็จะสามารถติดตามเส้นทางของรถตู้ได้

บางที คนพวกนั้นอาจจะมาถึงที่นี่เร็วๆนี้ก็ได้

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อู่ตงไฟประหม่ามากๆจนหนังศีรษะชาไปหมด

จากนั้น เขาก็ครุ่นคิดในใจ” ในเมื่อเย่นางหมิ่นคนนี้ฆ่าไม่ได้ งั้นก็ต้องหาทุกวิถีทางเพื่อกอบกู้และพลิกสถานการณ์คืนมาให้ ได้!”

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว เขาก็รีบพูดกับเซียวฉางเฉียนว่า “ไป

ตามฉันเข้าไป”

เซียวฉางเฉียนรีบพยักหน้าทันที และตามหลังเขาอย่าง กระตือรือร้น และเดินเข้าไปในโกดัง
ทันทีที่ลงให้เดินเข้ามาในโกดัง ก็เดินไปหาเฉางหมิ่นอย่าง รวดเร็ว ขณะที่เขายังไม่ทันเดินไปถึงด้านหน้าของเธอ เขาก็พูด ด้วยความละอายใจว่า “อุ๊ย คุณผู้หญิงเย่ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นเรื่องเข้าใจผิด เซียวฉางเฉียนกับเซียวไห่หลงสองพ่อลูก พวกเขาอยากจะสั่งสอนหม่าหลันที่เป็นแม่ยายของเยเฉิน ก็คือผู้ หญิงที่อยู่ด้านหลังคุณ คิดไม่ถึงจริงๆว่าไอ้สารเลวสองคนนี้จะจับ คุมตัวคุณมาด้วย พวกเราต้องขอโทษจริงๆ!”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เยฉางหมิ่นก็โล่งอกทันที…

ในเวลานี้ เธอดีใจมากๆ จนเกือบจะร้องไห้เสียงดังออกมา เซียวไม่หลงที่อยู่ข้างๆเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ถามด้วยสีหน้า ประหลาดใจ “ประธาน คุณกำลังพูดอะไรอยู่?

“พูดอะไรอยู่เหรอ?!”อู่ตงไห่จับคอเสื้อของเซียวไม่หลงทันที จากนั้นก็ตบหน้าเขาหนึ่งครั้งอย่างแรงและด่า: “คุณยังมีหน้ามา พูดอีกเหรอ? เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นก็เพราะพวกคุณสองพ่อลูก! ถ้า ไม่ใช่พวกคุณสองคนไปจับตัวหม่าหลัน ก็คงไม่ต้องดึงคุณผู้หญิง เย่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย!”

เมื่อตบหน้าเสร็จ อู่ตงไห่หวาดผวาและตะโกนด่าด้วยความ โกรธ: ยังดีที่วันนี้ฉันไม่ได้ตาฝาด ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้มาดู เหตุการณ์ที่นี่ และถ้าพวกคุณทำอะไรที่ล่วงเกินคุณผู้หญิงเย่มาก จนเกินไป ถึงแม้ฉันจะฆ่าพวกคุณสองคนก็ไม่สามารถระงับความ แค้นได้!”

เขียวไห่หลงพูดด้วยสีหน้างุนงงว่า “ประธาน คำพูดของคุณหมายความว่ายังไง? ที่พวกเราสองคนจับตัวหม่าหลัน ทั้งหมดก็ เพราะคุณ!”

“เพื่อฉันเหรอ?!”อู่ตงไหล่าด้วยความโกรธ “พูดจาไร้สาระ เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับฉัน!”

เมื่อพูดจบ เขาตะโกนออกคำสั่งกับบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆด้วย ความโกรธ “พวกเจ้ามาน จัดการหักแขนทั้งสองข้างของไอ้ สารเลวคนนี้!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ