ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 30 มานี่



ต่งวิ่งหลินตกตะลึงเล็กน้อย

คิดไม่ถึงเลยว่าเขียวไห่หลงจะมีเส้นสายใน เมืองจีนหลังจริงๆ เมื่อเทียบกับเย่เฉินแล้วถือว่า แกร่งกว่ามาก

เห็นทีว่าหากสนิทกับเขาสักหน่อย การ จัดการธุระต่างๆของตนในเมืองจินหลังคงง่ายขึ้น ไม่น้อย

ชายชุดด่าคนนั้นพาทุกคนเดินมาหยุดอยู่ หน้าห้องระดับไดมอนด์อย่างนอบน้อม

จากนั้นเขาก็หยิบบิลขึ้นมายื่นให้กับเย่เฉิ นพลางเอ่ยเสียงเบา “รบกวนเซ็นชื่อด้วยครับ”

ห้องระดับไดมอนด์นี้ถูกเตรียมไว้ให้กับเย่ เฉินโดยเฉพาะ เขาจึงต้องเซ็นชื่อยืนยัน

เย่เฉินเผยยิ้มพลางหยิบกระดาษกับปากกา มา ขณะที่กำลังจะเซ็นชื่อตัวเองลงไป ฉับพลัน เสียงของเขียวไหหลงก็ดังขึ้น

“ให้ตายเถอะ วางปากกาลงเดี๋ยวนี้!”

เซียวไห่หลงเดินหน้ามืดครึ้มเข้ามา ก่อนจะ แย่งกระดาษและปากกาไปจากมือเย่เฉินแล้วเซ็น ชื่อตัวเองลงไปแทน อีกทั้งยังหันไปตะคอกใสเยี่ เฉิน “หน้าไม่อาย ใครเป็นคนจองห้องแกไม่รู้ หรือ? แกมีสิทธิ์อะไรมาเซ็นชื่อ!”
ขายชุด เห็นดังนั้นก็อึ้งไป ก่อนจะหันไป มองเปเฉินและส่งสายตาตั้งคำถามว่าต้องการให้ ผมลงมือสั่งสอนไอ้สารเลวคนนี้ให้ไหม

เย่เฉินเอ่ยเสียงเรียบ “ไม่เป็นไร เขาอยาก เซ็นก็ให้เขาเซ็น”

เย่เฉินไม่อยากให้มันเป็นเรื่องวุ่นวายต่อ หน้าตงรั่งหลิน เพราะยังไงอีกฝ่ายก็เป็นเพื่อนรัก ของภรรยาตน

ไม่นานทุกคนในห้องก็นั่งลง

เซียวไห่หลงจัดให้ต่งรั่งหลินนั่งหัวโต๊ะ ส่วน เย่เฉินนั่งอยู่ตรงมุมคนเดียว มีเพียงต่งรั่งหลินที่ หันไปคุยกับเขาเป็นระยะ

ชั่วอึดใจอาหารชั้นเลิศและสุราชั้นเยี่ยมก็ ถูกยกเข้ามาเสิร์ฟโดยบริกร

อาหารทั้งหมดล้วนทำมาจากวัตถุดิบอย่าง ตี เป่าฮ้อเกรดพรีเมี่ยมและกุ้งมังกรออสเตรเลีย ห้ากิโลกรัมยังเป็นเพียงแค่อาหารจานรองเท่านั้น

แม้แต่สุรายังเป็นสุราที่หมักนานกว่าร้อยปี แค่ขวดสองร้อยห้าสิบมิลลิลิตรสามารถขายได้ ถึงแสนกว่า

คนที่เห็นโลกกว้างมามากพอสมควรอย่าง ต่งรั่งหลินยังตะลึงกับความหรูหราของอาหารมื้อ นี้

หวังเหวินเฟยเอ่ยถามอย่างตกใจ “ไหหลงราคามาตรฐานของมื้อนี้อยู่ที่เท่าไหร่?”

เขียวไห่หลงเอยอย่างได้ใจ “อาหารมื้อนี้

ของฉันมาตรฐานอยู่ที่สามแสน”

หวังเหวินเฟยอุทานอย่างตกตะลึง “นี่ไม่ใช่ มาตรฐานราคาสามแสนนี่ แค่สุราขวดนี้ก็ไม่ต่ำ กว่าสามแสนแล้ว”

เซียวไห่หลงแอบตกใจ ฉับพลันก็เริ่มรู้สึก ถึงความผิดปกติ และย้อนนึกถึงท่าทีที่ชายชุดดำ มีต่อเขา หรือว่าท่านหงห้ามีสิทธิพิเศษอะไรให้กับ ตน

ทว่าตนไม่รู้จักเขาเสียหน่อย

ต่งรั่งหลินดวงตาเป็นประกายพลางหันไป

มองเซียวไหลลง “ขอบคุณมากนะไหหลง!”

เซียวไห่หลงได้ยินดังนั้นก็ยิ้มหน้าบาน “ไม่ หรอก นี่เป็นสิ่งที่ผมสมควรทำอยู่แล้ว”

ขณะที่เอ่ยเซียวไหหลงก็หันไปถามเย่เฉิน “เย่เฉิน ชีวิตนี้แกคงไม่เคยกินอาหารดีๆแบบนี้ใช่ ไหม?” เย่เฉินแค่นยิ้ม “นายเอาความมั่นใจมาจาก ไหนกัน?”

เซียวไห่หลงเอ่ยดูถูก “กินของฉันแล้ว ปาก พล่อยๆนั่นก็ยังแข็งเหมือนเดิม! หากก่อนหน้านี้ แกเคยได้กินอาหารหรูหราขนาดนี้มาก่อน ฉัน ยอมเด็ดหัวตัวเองมาให้นายเตะแทนลูกบอลเลย!”

เย่เฉินยิ้มบางๆ ชีวิตในวัยเด็กของเขาหรูหราอย่างที่คนธรรมดาทั่วไป ดไม่ถึงเลยล่ะ สำหรับตระกูลเย่แล้วอาหารอย่างในมื้อนี้เป็น เพียงอาหารของคนรับใช้เท่านั้นแหละ

เขียวเวยเวยเห็นว่าเปเฉินไม่ยอมก้มหัวสิง เอ่ยอย่างมีน้ำโห “เย่เฉิน สวะอย่างแกพูดจากับพี่ ชายฉันยังไง? เชื่อไหมว่าฉันเฉดหัวแกออกไป ตอนนี้เลย! อุตส่าห์ให้กินข้าวฟรียังไม่สํานึกอีก! ไอ้คน น า!”

และในขณะนั้นเอง!

ประตูใหญ่ของห้องอาหารก็ถูกถีบออก ตาม มาด้วยเสียงอันโหดเหี้ยม “พวกแกเสนอหน้ามา จากไหนกัน ใครอนุญาตให้พวกแกเข้ามาในห้อง

สิ้นเสียงก็มีชายคนหนึ่งสวมชุดสูทยี่ห้อ อาร์มานี สวมสร้อยทองเส้นใหญ่ บนใบหน้ามีรอย แผลเป็นรูปตะขาบพาดตั้งแต่หางตาจนถึงคาง เดินเข้ามา

ชายคนนี้มือข้างหนึ่งถือบิล อีกข้างถือท่อน ไม้ สีหน้าโหดเหี้ยมดุดันเป็นอย่างมาก!

ตามมาติดๆด้วยชายร่างบึกบึนสักลายสิบ กว่าคนเดินเรียงแถวเข้ามาแล้วล้อมทุกคนเอาไว้

ทุกคนล้วนชะงักและเกิดความตื่นกลัวเป็น อย่างมาก นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

คนที่เป็นหัวหน้าชื่อพี่เปียว เป็นคนสนิทของท่านหงห้าตั้งแต่เริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยกัน ถือว่าเป็นอีกคนที่มีชื่อเสียงในเมืองจีนหลัง

ครั้งนี้ท่านหงห้ากำชับเขาว่าผู้มีเกียรติ สูงสุดอย่างคุณ จะใช้ห้องระดับไดมอนด์ของ เทียนเซียงฟู่ ให้เขาจัดการให้ดี

แต่คิดไม่ถึงว่าขณะที่กำลังตรวจสอบการ ใช้งานของห้องอาหารกลับพบว่าห้องระดับ ไดมอนด์ถูกเซ็นชื่อเข้าใช้โดยไอ้คนเหลือขอที่ชื่อ ว่าเขียวไห่หลง เขาทั้งโมโหทั้งกล้า

โมโหที่คนที่สมควรตายอย่างเดียวไห่หลง มาใช้ห้องที่เขาเตรียมไว้ให้แขกผู้ทรงเกียรติ

กลัวที่ห้องอาหารระดับไดมอนด์มีเพียงแค่

ห้องเดียว หากแขกตัวจริงมาแล้วจะทำอย่างไร?

ขณะนั้นเองเซียวไห่หลงก็หยัดตัวขึ้นพลาง เอ่ย “พวกแกทําอะไร? ห้องนี้ฉันจองแล้ว พวกแก บุกเข้ามาสร้างความวุ่นวายได้ยังไง?”

พี่เปียว หน้าเซียวไหหลงพลางเอ่ยถาม “แกคือเซียวไหหลงสินะ?”

เซียวไห่หลงพยักหน้าเอ่ยอย่างถือดี “ฉัน เอง!”

พี่เปียวเอ่ยเสียงเย็นยะเยือก “ลากมันมาให้ ฉัน!”

ชายรูปร่างบึกบึนสองคนได้ยินดังนั้นก็หิ้ว ปีกเขียวไห่หลงแล้วลากเข้ามา
“พวกแกจะทําอะไร? ปล่อยฉัน!”

“พูดมาก!”

ชายบึกบินคนหนึ่งจึงเตะบริเวณเข่าของ เขา เขียวไห่หลงจึงคุกเข่าลงตรงหน้าของพี่เปียว ด้วยความเจ็บปวด

สายตาเย็นยะเยือกของพี่เปียวมองสํารวจ เซียวไห่หลงหลายครั้ง สายตานั้นแหลมคม ราวกับมีดทำให้คนถูกมองหนาวได้

พริบ!

บิลที่เซ็นแล้วถูกโยนใส่หัวของเซียวไห่หลง

พี่เปียวดาอย่างไม่ไว้หน้า “ใครให้สิทธิ์แก มาใช้ห้องนี้?”

เขียวไห่หลงทําเป็นใจดีสู้เสือ “เข้าใจผิด แล้ว ห้องระดับโกลด์นี้ฉันจองล่วงหน้าแล้ว เงิน มัดจําสามแสนก็จ่ายไปแล้ว!”

หวังเหวินเฟยพูดแทรกขึ้นมา “พวกแกท่า อะไรน่ะ? ห้องนี้ไห่หลงจองแล้ว พวกแกยังมีกฎมี ระเบียบอยู่ไหม?”

พี่เปียวถ่มน้ำลายครั้งหนึ่ง ก่อนจะตบหน้า เขียวไห่หลงพลางเอ่ย “ห้องระดับโกลด์หรือ? นี่ มันห้องระดับไดมอนด์ที่เตรียมไว้สำหรับแขก ผู้ทรงเกียรติ! ขยะอย่างแกมีสิทธิ์ใช้หรือ?!”

พอประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมาทุกคนในห้องนี้ก็ชะงักไป

ห้องระดับไดมอนด์อย่างนั้นหรือ?

มิน่าล่ะห้องนี้ถึงได้ดูหรูหราขนาดนี้ อาหาร และสุราล้วนเป็นของชั้นเลิศ ที่แท้มันไม่ใช่ห้อง ระดับโกลด์นี่เอง!

หวังเหวินเฟยเหงื่อซึมทันที ห้องระดับ

ไดมอนด์ที่ทรงเกียรติขนาดนี้ ฐานะอย่างตนไม่มี สิทธิ์เหยียบเข้าไปอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะ ได้ใช้เลย

เซียวเวยเวยรีบเอ่ยขึ้น “พี่รู้จักท่านหงห้า ไม่ใช่หรือ รีบอธิบายให้พวกเขาฟังเร็ว”

เซียวไห่หลงคร่ำครวญไม่หยุด ก่อนเอ่ย อย่างรีบร้อน “หุบปาก พูดเพ้อเจ้ออะไร ฐานะ อย่างฉันจะไปรู้จักท่านหงห้าได้ยังไง” เซียวเวยเวยเอ่ยขึ้น แต่เมื่อกี้พี่บอกว่า……

ปฏิกิริยาของทั้งสองพี่น้องตกอยู่ในสายตา ของต่งรั่งหลิน จะยังไม่รู้ได้ยังไงว่าคำพูดเมื่อสัก ครูของเซียวไห่หลงคือการคุยโว

จึงเกิดความรู้สึกผิดหวังพอสมควร

พี่เปียวแสยะยิ้มเย็น “นี่แกกล้าอ้างชื่อท่าน หงห้าหรือ แกไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม!”

พี่เปียวเอ่ยพลางหยัดตัวขึ้นยืน ก่อนจะหัน ไปสั่งลูกน้อง “จับมือของไอ้นี่ไว้! ฉันจะสั่งสอนมันลักหน่อย

เขียวไห่หลงจึงถูกจับไว้แน่นจนขยับตัวไม่

ได้

ชั่ววินาทีต่อมา!

ท่อนไม้ที่พี่เปียวถืออยู่ก็ฟาดลงมาอย่างไม่ ลังเล

“อ้าก…..มีอฉัน มีอฉันใช้การไม่ได้แล้ว!”

เขียวไห่หลงร้องอย่างบ้าคลั่ง เหงื่อเย็นๆซึม

ทั่วร่างกาย และมีกลิ่นเหม็นๆลอยออกมาจากป่า กางเกง ก่อนจะหมดสติไปอย่างน่าอับอาย เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ หวังเหวินเฟยและ เซียวเวยเวย หน้าซีดเผือดด้วยความกลัว

เซียวไห่หลงที่เมื่อสักครู่ยังมีสติอยู่ ฉับพลัน ก็ถูกตีจนสลบ ใครจะไม่กลัวบ้าง?

ต่งรั่งหลินก็ตกใจจนแทบหายใจไม่ออก สั่น

ไปทั้งตัวและไปหลบอยู่หลังเย่เฉินพลางเอ่ยด้วย ความกลัว “จะทํายังไงดี? พวกเขาจะไม่ฆ่าคนใช่ ไหม?”

เย่เฉินตบไหล่ต่งรั่งหลินเบาๆพลางเอ่ย ปลอบใจ ไม่ต้องกลัว มีผมอยู่ตรงนี้ ไม่มีใครกล้า ทําอะไรคุณหรอก”

ต่งรั่งหลินมองหน้าเย่เฉินอย่างตื้นตันใจ ถึง แม้จะรู้ว่าเย่เฉินจะไม่สามารถจัดการปัญหาแบบ192039026_4355636267788447_7546283362704226581_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ