ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1092



บทที่ 1092

เฉินจือข่ายขมวดคิ้ว เอ่ยว่า “นายน้อย หากว่าตระกูลขง ต้องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ ก็ไม่จำเป็นต้องเล็งไปที่ตระกูลซ งก็ได้นี่ครับ”

เย่เฉินเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “จุดสำคัญขึ้นอยู่กับว่าสรุปแล้ว คุณชายขงที่ถูกส่งมาคนนี้มีฐานะอย่างไรในตระกูลขง หากว่า เขาเป็นทายาทสายตรงของตระกูลขง ถ้างั้นความเป็นไปได้ที่จะ เกิดขึ้นจริงก็มีน้อยมาก แต่ถ้าเขาเป็นแค่หนึ่งในลูกหลานที่มีอยู่ มากมายของตระกูลขง แถมอาจเป็นคนที่ไม่ค่อยมีหน้ามีตาด้วย ถ้าส่งเขามาแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลซ่ง ตระกูลขงก็ไม่ เสียหายอะไรใช่ไหมล่ะ?”

เฉินจือข่ายเอ่ยอย่างมีความคิด “จากที่คุณเอ่ยมา ก็ไม่เสีย หายจริงๆ ครับ ดูเหมือนตระกูลขงจะมีลูกหลานพรั่งพร้อมมาก ทายาทหนุ่มสาวในรุ่นนี้ของพวกเขา น่าจะมีทายาทชายอยู่หก เจ็ดคนได้”

เย่เฉินกล่าวไปว่า “การแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ก็เหมือนการแทง ม้านั่นแหละ การที่อีกฝ่ายมีขุมอำนาจมากกว่าคุณ ไม่ได้แปลว่า ม้าทุกตัวของเขาจะแข็งแกร่งกว่าม้าที่ดีที่สุดเพียงตัวเดียวของ คุณ เป็นไปได้ว่าม้าในสังกัดของเขาอาจจะด้อยกว่าม้าชั้นดีของ คุณก็ได้”

เฉินจือข่ายพยักหน้ารัวๆ “นายน้อย คำพูดของคุณมีเหตุผลมากเลยครับ กระผมได้รับการสั่งสอนแล้ว!

เย่เฉิน โบกมือ เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุณบ่มเพาะอยู่ในจินหลงมา นานหลายปี จากเหตุผลในข้อนี้แล้ว ผมเชื่อว่าคุณจะมองออก ต่อให้ไม่เข้าใจไปชั่วขณะ แต่ถ้าสะกิดไปสักประโยคคุณก็คิดได้ กระจ่างแล้ว”

ตอนนี้ไม่ไกลออกไปนักพอลที่ยืนถือแก้วไวน์เอ้อระเหยอยู่คน เดียว มองเย่เฉินด้วยความชื่นชมอย่างแท้จริง

เขารู้สึกว่าเย่เฉินได้สร้างภาพจำอันน่าประทับใจครั้งใหม่ของ

ตนให้เขาอีกแล้ว

เนื่องจากไม่ว่ายังไงเขาก็คาดไม่ถึงเลยว่า คนในวงสังคมชั้น สูงของเมืองจินหลิงจะให้เกียรติยกย่องเย่เฉินเป็นอย่างยิ่ง

คนที่ติดตามอยู่ข้างกายเย่เฉิน กระซิบกระซาบคุยกับเขาอยู่

คือตัวแทนของตระกูลเย่สาขาเมืองจีนหลัง

แม้แต่เขาก็ยังให้ความนับถือเเฉินขนาดนี้ นี่แสดงให้เห็น ว่าที่แท้แล้วเย่เฉินมีอิทธิพลในเมืองจินหลิงมากน้อยเพียงใด

ในเวลานี้ จู่ๆ ใครบางคนในห้องจัดเลี้ยงก็ตะโกนขึ้นมาว่า “คุณชายสามของตระกูลขงแห่งเย่นจิงมาแล้ว!

ด้วยประโยคนี้ ยิ่งทำให้ทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยงมีเสียงฮือฮาไปทั่ว

ตระกูลขงแห่งเย่นจิง ติดท้อปสิบในอันดับผู้ทรงอิทธิพลของ เย่นจิง มูลค่าทรัพย์สินโดยรวมกว่าห้าแสนล้านหยวน ภูมิหลัง ของตระกูลล้ำลึกยิ่ง อำนาจเหนือชั้น
ในแง่ของทรัพย์สินเพียงอย่างเดียว อย่างน้อยตระกูลขงก็ เหนือกว่าตระกูลส่งไปห้าเท่าแล้ว

คุณชายสามของตระกูลขงมาเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของคุณ หนูใหญ่ตระกูลข่งที่เมืองจินหลิง นี่ยิ่งทำให้คนรู้สึกถึงกลิ่นที่ไม่ ชอบมาพากลอย่างหนึ่งได้

บางครั้งถึงขั้นร้องอุทานออกมา “หรือว่าตระกูลขงคิดจะ แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลซึ่ง?”

ละมีบางคนเอ่ยว่า “เป็นไปได้สูง คุณหนูซึ่งสวยขนาดนี้ มี คุณสมบัติถึงขนาดนี้ แถมยังมีความสามารถขนาดนี้ แต่ใน สายตาของคนตระกูลขงแห่งเย่นจึงแล้ว ก็เป็นสะใภ้ที่ดีเลิศเด็ด ขาดแน่นอน!”

เฉินจือข่ายคุยกับเย่เฉิน “นายน้อยครับ คุณชายสามตระกูล ขงคนนี้ ฐานะในตระกูลขงยังคงไม่เลวเลยจริงๆ ครับ”

“เย่เฉินสอบถามอย่างสนอกสนใจ “ไหนเล่า?”

เฉินจือข่ายเอ่ยชี้แจง “ตระกูลขงรุ่นก่อนมีทายาทชายสี่คน ใน บรรดาพวกเขาแต่ละคน ลูกกันอย่างน้อยๆ สองคน แถมแต่ล่ะ คนยังมีลูกชายทั้งนั้น คุณชายสามคนนี้เป็นบุตรชายโทนของ นายท่านสองตระกูงขง ถึงแม้ลำดับศักดิ์จะอยู่ที่สาม แต่อำนาจ และอิทธิพลกลับอยู่ในลำดับที่สอง

เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ดูทรงแล้ว ตระกูลขงคงคิด จะใช้ม้าชั้นกลางของพวกเขา มาเทียมม้าชั้นสูงของตระกูลซ่ง”
เฉินจือข่ายยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง “ผมคิดว่าคุณหนูซึ่งอาจจะไม่ ถูกใจเขาก็ได้”

เย่เฉินถามอย่างอยากรู้ “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ?”

เฉินจือข่ายตอบอย่างจริงจัง “นายน้อย คุณก็น่าจะดูออก ครับ ในสายตาของคุณหนูซ่ง ส่องประกายให้กับผู้ชายอย่างคุณ คนเดียวตลอดมา ผมเชื่อว่าคุณหนูซึ่งจะต้องชอบคุณมาก แน่นอน เมื่อน้ำมาเทียบกับคุณแล้ว อย่าว่าแต่คุณชายสาม ตระกูลขงเลยครับ ต่อให้คุณชายทั้งหมอของตระกูลขงแห่กันมา ก็ไม่อาจสู้คุณได้”

เย่เฉิน โบกมือ “ต่อไปอย่าพูดจาแบบนี้ส่งเดชอีก คุณหนูหวั่น ถึงยังไม่ได้แต่งงานเลย แต่ผมเป็นผู้ชายที่ผ่านการแต่งงานมา แล้ว คุณพูดแบบนี้ถ้าหากว่าข่าวแพร่ออกไปล่ะก็ จะส่งผลกระทบ ต่อชื่อเสียงของเธอได้

“เข้าใจแล้วครับ” เฉินจือข่ายตอบด้วยสีหน้าที่ได้รับการอบรม แล้ว “นายน้อยครับ คุณวางใจได้เลย คำพูดแบบนี้ผมเอ่ยแค่กับ คุณครับ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ