ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1503



บทที่ 1503

ได้รับการตอบกลับที่แน่นอนของเเฉิน กู้ซิวอี้ดีใจจนกระโดด โลดเต้น ทั้งวิ่งทั้งกระโดดกลับไปถึงห้อง รีบเปลี่ยนเป็นชุดกัน หนาวขนสัตว์ทรงยาวหนาๆ ในทันที

เพื่อไม่ให้คนดูตนเองออก เธอยังตั้งใจสวมผ้าปิดปากกัน หนาวโดยเฉพาะ รวมไปถึงหมวกที่ขนปุกปุย มีหูกระดาษที่น่ารัก สองข้าง

นอกจากนี้ ในมือของเธอยังถือแว่นตากรอบดำทรงกลม หลัง จากสวมเข้าไปแล้ว ทั้งคนก็คือสาวน้อยสไตล์แอ๊บแบ๊วน่ารัก เทียบกับชิวที่ทำให้ผู้ชายทุกคนหลงใหลอย่างบ้าคลั่งคนนั้น แล้ว จากสไตล์ก็มีความผิดเพี้ยนที่เยอะมาก

ที่จริงแล้ว ในส่วนลึกของจิ๋ว ก็คือเด็กผู้หญิงน่ารักที่ฉลาด แสนซนคนหนึ่ง

เธอจิตใจบริสุทธิ์ และไม่ได้มีประสบการณ์ความรักอะไรไม่ได้ มีความรู้ในการคบหากับเพศตรงข้ามอะไร ยิ่งไม่ได้มีความคิด สกปรกที่ไม่อาจแพร่งพรายได้อย่างเด็กผู้หญิงที่อยู่ด้านนอก เหล่านั้น

เยเฉันมองเห็นเงาในวัยเด็กจากบนใบหน้าของเธอ ตอนนี้คิด ย้อนกลับไป ชิวก็คือภาระอันหวานชื่น ในวัยเด็กของตนเอง

เหตุผลที่บอกว่าคือภาระอันหวานชื่น นั่นก็เพราะ ตนเองแม้ว่าจะไม่อยากให้เธอตามติดทุกวัน เรียกตนเองว่าพี่เเฉินอย่างกับ หนอนตามกัน แต่ส่วนลึกภายในจิตใจก็ยังเพลิดเพลินกับความ รู้สึกที่เธอวนไปเวียนมาอยู่ที่รอบกายของตนเองเป็นอย่างมาก

กู้ชิวอี้เห็นเเฉินมองดูตนเองอย่างค่อนข้างที่จะเหม่อลอย ใบหน้าที่งดงามก็แดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย เอ่ยขึ้นอย่างเขินอาย ว่า “พี่เย่เฉิน ทำไมมองฉันแบบนี้คะ…”

เย่เฉินได้สติกลับคืนมา เก้อเขินแต่ยังยิ้มเพื่อไม่ให้เสีย มารยาทพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “ก็แค่อยๆคิดถึงเรื่องวัยเด็กขึ้นมา ก็ เลยละความสนใจไปหน่อย

กู้ชิวในใจหวานชื่นทั้งยังดีใจ หลุบตาลงเล็กน้อย เอ่ยขึ้น ด้วยเสียงที่แผ่วเบาว่า “พวกเรารีบไปกันเถอะค่ะ!

เพื่อปิดบังตัวตนของชิวอี้อย่างมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เย่ เฉินกับเธอก็ยังคงขับรถวอลโว่รุ่นเก่าที่ไม่สะดุดตาคันนั้น ขับ จากเขตคฤหาสน์ไปทางใจกลางเมือง

ทะเลสาบโหวไห่อยู่ที่โซนใจกลางของเมืองเป็นจิง สามารถ พูดได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ๆเจริญรุ่งเรืองที่สุดของทั้งเมืองเป็น จิงเลยก็ว่าได้

อีกทั้งที่นี่กลับไม่ได้ถูกพัฒนามากจนเกินไป เรือนสี่ประสาน เก่าแก่ยังคงรักษาได้อย่างเหมาะสมเป็นอย่างมาก อยากเห็น ชีวิตคนท้องถิ่นของเมืองเป็นจิง ก็ต้องมายังสถานที่แบบนี้

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงกว่า ชิว ขับรถเข้ามาในซอยๆหนึ่ง บริเวณใกล้ๆทะเลสาบโหวไห่ จากซอยที่ดูค่อนข้างแคบนี้ ยากมากที่จะดูออกว่าทุกบ้านที่พักอาศัยอยู่ด้านในคือบ้านคน ธรรมดา หรือว่าบ้านคนมีเงินกันแน่

ที่เป็นจิง คนที่พักอาศัยในเรือนสี่ประสาน มีสองแบบ

แบบแรกคือคนที่จนมาก อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียวที่เก่าแก่ ภายในบ้านอาจจะแม้แต่ห้องน้ำก็ยังไม่มี ต้องไปแก้ปัญหาที่ ห้องน้ำสาธารณะทุกวัน ต่อให้เป็นกลางดึกของฤดูหนาวเดือนสิบ สองตามปฏิทินจันทรคติช่วงที่หนาวสุดของปี ก็ต้องลุกขึ้นมาไป ห้องน้ำสาธารณะแบบนั้น

แล้วก็อีกแบบ ก็คือคนที่ร่ำรวยมาก

อยากจะอาศัยในเรือนสี่ประสานให้ดี อันดับแรกคือต้องมีเงิน ที่มากพอ ปรับปรุงเรือนสี่ประสานให้น่าอยู่เต็มร้อย เพราะว่าเรือนสี่ประสานส่วนใหญ่ล้วนเป็นสิ่งก่อสร้างชั้นเดียว

ดังนั้น ดูจากภายนอก ใครก็ดูไม่ออกว่าด้านในเป็นสภาพแบบ

ไหนกันแน่ มีเพียงอย่างเดียวคือเข้ามา ถึงจะพบว่าแต่ละที่ไม่

เหมือนกัน

เรือนสี่ประสานบางที ด้านในแออัดเป็นอย่างยิ่ง ถ่านอัดแท่ง รถจักรยาน ไหดองผักกองเต็มทางเดิน เดินก็ยังลำบากมาก ด้านในยังมีกระท่อมที่สร้างขึ้นมามั่วๆ มีอันตรายที่ซ่อนอยู่ มากมาย

แต่ก็มีเรือนสี่ประสานบางที่ ดูจากภายนอกแล้ว ไม่โดดเด่นไม่ หวือหวา ไม่สะดุดตาเลยแม้แต่น้อย แต่หลังจากเข้าไปถึงได้พบ ว่าด้านในมีโลกอีกใบอยู่
เรือนสี่ประสานของบ้านกู้ซิวอี้ ก็เป็นเช่นนี้

เรือนสี่ประสานของคนอื่นสภาพแวดล้อมแออัดคับแคบ ยุ่งเหยิงเป็นอย่างยิ่ง แต่เรือนสี่ประสานของตระกูล ยิ่งใหญ่ทรง พลัง มีกลิ่นอายของความงามแบบคลาสสิก

ด้านในไม่เพียงแต่มีกำแพงบังตาที่แกะสลักด้วยหินหยกขาว ทั้งสิ้น ด้านบนแกะสลักรูปมังกรผงาดที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังในเก้า อิริยาบถที่แตกต่างกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ