ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1891



บทที่ 1891

เสียงของทั้งสอง ดึงดูดความสนใจเชียวฉางควา

เขามองไปที่แม่ของตนเอง ด้วยความประหลาดใจจนพูดอะไร ไม่ออก

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงถามเเฉินว่า “ลูกเขย นะ…….. คือแม่ของฉันหรอ? ฉันดูไม่ผิดใช่ไหม?”

เย่เฉินยิ้มเบาๆ คุณพ่อครับ ดูไม่ผิดหรอกครับ คือท่านจริงๆ ครับ”

เชียวฉางควนพูดอย่างตกใจ………..ไมเธอถึงสวมเสื้อกั๊ก ของพนักงานล่ะ? หรือเธอมาทำงานที่นี่!?”

เย่เฉินพยักหน้า ดูท่าน่าจะเป็นอย่างนั้นครับ”

เซียวฉางควนพูดอย่างแปลกใจ “นี่ไม่ใช่สิ อู่ตงไห่อัดฉีดเงิน ให้ตระกูลเซียวไม่ใช่เหรอ?ยังซื้อคฤหาสน์Tomson Riviera ให้ พวกเขาหนึ่งหลังอีกด้วย ตามหลักแล้วพวกเขาทั้งตระกูลน่าจะ ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายถึงจะถูกสิ!”

เซียวฉางควนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมา เขา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหม่าหลันถูกพี่ชายแท้ๆของตนเอง กับหลานชาย แท้ๆลักพาตัวไป ยิ่งไม่รู้ว่าคงไม่ได้ยอมจำนนนำทรัพย์สินส่วน หนึ่งของตระกูลแบ่งออกไปแล้ว และตกเป็นสุนัขตัวหนึ่งของหง ห้า
ดังนั้น จึงไม่รู้ด้วยว่า สถานการณ์ของครอบครัวนายหญิงใหญ่ เซียวเลวร้ายลงในช่วงสองวันที่ผ่านมา

เวลานี้เองเย่เฉินพูดขึ้นมาว่า “ผมได้ยินมาว่า เหมือนอู่ตงไห้จะ ถอนทุนไปหมดแล้วนะครับ

“ถอนทุน? “เซียวฉางควนร้องอย่างตกใจ แล้วพูดขึ้นมาว่า “ ตงไห่คนนี้พึ่งพาไม่ได้เลยจริงๆ คิดจะถอนก็ถอนเลยงั้นเหรอ? แล้วทำไมเขาต้องถอนทุนด้วยล่ะ ฉันเชื่อว่าจากทรัพย์สินของเขา แล้ว คงไม่สนใจเงินเล็กน้อยแค่นั้นที่จะลงทุนกับบริษัทเชียวชื่อ หรอกมั้ง?”

เยเฉินยักไหล่ แล้วพูดอย่างยิ้มๆ เรื่องนี้เราไม่แน่ใจครับ

ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ ก็เห็นจางกุ้ยเฟินใช้ไม้ถูพื้นไปที่ ข้อเท้าของหญิงชราหลายครั้ง แล้วพูดอย่างรังเกียจนั่งแกรีบ หลบไปเลยนะ อย่ามัวแต่ขวางฉันถูพื้น

นายหญิงใหญ่เซียวพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า”กุ้ยเฟิน งานที่ หัวหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตมอบหมายให้ฉัน ก็คือให้ฉันคอยช่วย ลูกค้าดึงถุงพลาสติก ถ้าฉันทำงานไม่ดีจะถูกไล่ออก ถือซะว่าฉัน ขอร้องเธอละ อย่ามีปัญหากับฉันเลย ได้ไหม?”

จางกุ้ยเฟินทำเสียงหีอย่างเย็นชา เดิมทีฉันก็เกียรติหล่อนอยู่ หรอก แต่สุดท้ายหล่อนทำอะไรลงไปบ้าง หล่อนน่าจะรู้ตัวดีนะ นี่ เรียกว่าทําตัวเองย่ะ!”

พูดจบ จางกุ้ยเฟินก็หัวเราะอย่างเย้ยหยัน กัดฟันพูดออกมา ว่า”ฉันจะบอกอะไรให้นะนั่งแก่ หล่อนอย่ามองว่าคนอย่างฉันเป็นแค่ผู้หญิงบ้านนอกไร้การศึกษานะ แต่คนอย่างฉันน่ะกระดูกแข็ง นะเว้ย อีกทั้งฉันยังไม่ชอบให้คนอื่นดูถูกฉันด้วยถึงหล่อนจะเคย ทำร้ายฉันก็ช่างเถอะ แต่หล่อนไม่ควรเหยียดหยามฉัน!”

พูดจบ เธอเก็บไม้ถูพื้นกลับ และในตอนที่เดินผ่านหญิงชราไป นั้น จงใจกระแทกไปที่หล่อนหนึ่งครั้ง จนทำให้นายหญิงใหญ่ เขียวกระแทกไปที่ชั้นวางสินค้า เจ็บจนหล่อนร้องด้วยความเจ็บ ปวด

แต่ทว่า เมื่อจางกุ้ยเฟินชนเธอเสร็จ ก็ไม่ได้ยุ่งกับเธอต่อไป ถือ ไม้ถูพื้นขึ้นมาแล้วไปจัดการพื้นที่อื่นต่อ

นายหญิงใหญ่เซียวยืนอยู่กับที่ ยิ่งคิดยิ่งเสียใจ

เธอแอบคิดในใจด้วยความเจ็บปวดและโกรธฉันใช้ชีวิตอยู่ ในตระกูลเซียวอย่างอยู่ดีกินดีมานานหลายปีขนาดนี้ ฉันเคยถูก รังแกแบบนี้เมื่อไรกัน? นี่มันไร้เหตุผลซะจริงๆ!!

“สิ่งที่ยิ่งรับไม่ได้เลยคือ อายุเยอะปูนนี้อย่างฉัน ยังต้องออก มาทำงานพาร์ทไทม์ที่ไร้ศักดิ์ศรีแบบนี้อีก!”

“หลายปีมานี้ ฉันอยู่ในตระกูลเซียว ฉันไม่เคยต้องล้างแม้แต่ แก้วน้ำชาแก้วเดียว!ตอนนี้ล่ะ กลับต้องมาอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต คอยดึงถุงพลาสติกให้ลูกค้า เพื่อไม่ให้พวกเขาเสียเวลา”

“แต่ว่า ถ้าฉันไม่ทำฉันจะไปทำอะไรได้อีก?”

“ถ้าฉันไม่ทำ ก็จะไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้อิ่มท้อง…….

“ฉันทํางานพาร์ทไทม์ที่นี่ อย่างน้อยหนึ่งวันก็สามารถแลกได้หนึ่งร้อยหยวน ช่วงกลางวันยังมีอาหารให้หนึ่งมือ…….

“ถ้าฉันไม่ทำ ไม่ว่าจะเฉียนหงเล่น หรือจางกุ้ยเฟิน ก็จะไม่ให้ ฉันกินข้าวแม้แต่ค่าเดียว…….

“ถึงเวลานั้นก็ต้องหิวตายน่ะสิ”

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ นายหญิงใหญ่เซียวก็รู้สึกเศร้าใจมากยิ่ง ขึ้น ยืนอยู่ข้างๆชั้นวางสินค้าคนเดียว แล้วเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น

เซียวฉางควนที่เห็นแบบนั้น เขารู้สึกทนไม่ได้ จึงเอ่ยปากพู ดกับเย่เฉินว่า“เย่เฉิน ฉันว่ายาของนายดูน่าสงสารจริงๆนะ ถ้าไม่ จำใจจริงๆ หล่อนคงไม่มาทำงานในสถานที่แบบนี้หรอก…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ