ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่1407



บทที่1407

พร้อมกับเสียงตะโกนเดือดดาลของหลินหว่านชิว ชายคนนั้นที่ เป็นหัวหน้าของอีกฝ่ายเอ่ยขึ้นเสียงเย็นด้วยสีหน้าเหยียดหยาม เล็กน้อย “พี่สะใภ้ นี่เป็นบ้านของพี่ใหญ่ผม น้องชายอย่างผมมา ที่นี่ยังต้องขออนุญาตคุณด้วยเหรอ?”

หลินหวานซิวกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางไม่น่าดู “กู้เย็นเจิ้ง ฉัน กับพี่ชายแกเป็นสามีภรรยากัน บ้านนี้เป็นของฉันครึ่งหนึ่ง หาก แกบุกเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน แบบนี้เขาเรียกว่า บุกรุกเคหสถาน!”

กู้เย็นเจิ้งเบะปาก มองสำรวจหลินหว่านชิวขึ้นลงแวบหนึ่ง กล่าวด้วยสีหน้าดูถูกว่า “โธ่เอ๊ย พี่สะใภ้ คุณยังรู้ว่าคุณเป็นสามี ภรรยากับพี่ใหญ่ผมด้วย? แต่คุณทำหน้าที่ภรรยาคนหนึ่งอย่าง สุดความสามารถหรือยัง?”

กู้เย็นจงยืนขึ้นมาอย่างกินแรงอยู่บ้าง ก่อนจะกล่าวอย่าง ตำหนิว่า “เย้นเจิ้ง ทำไมถึงพูดจากับพี่สะใภ้แกแบบนี้? พี่สะใภ้ คนโตเปรียบเสมือนมารดา หลักการนี้แกไม่เข้าใจหรือ?”

“พี่สะใภ้คนโตเปรียบเสมือนมารดา?” กู้เย็นเจิ้งยิ้มเย็นพลาง เอ่ยขึ้นว่า “พี่ใหญ่ พี่อย่าลืมสิ เธออยู่ในตระกูลสุดท้ายก็คือ คนนอก อีกทั้งเธอในฐานะสะใภ้คนโตของตระกูล กลับไม่ สามารถให้กำเนิดหลานชายคนโตกับตระกูลได้ ทำให้ตอนที่ พ่อแม่ของเราจากโลกนี้ไป ไม่มีแม้กระทั่งหลานชายคนโตที่จะโบกธงนำส่งวิญญาณ เธอนี่แหละคือคนบาปของตระกูลเรา!”

พอหลินหวานชิวได้ยินเช่นนี้ สีหน้าก็พลันเปลี่ยนเป็นไม่น่า อย่างยิ่งทั้งยังเจือไปด้วยความไม่เป็นธรรมหลายส่วน

กู้เย็นจงที่อยู่ด้านข้างโกรธจนสั่นไปทั้งตัว คว้าชามกระเบื้อง ใบหนึ่งขึ้นมา ก็เหวี่ยงลงกับพื้นอย่างแรง ชามกระเบื้องตกลง แทบเท้าเย็นเจิ้งเสียงดังเพลง

จากนั้น เขาก็ตะโกนด่าโพล่งออกมาว่า “กู้เย็นเจิ้ง! แกเลิกเอา เรื่องนี้มาแต่งเป็นนิยายเสียที! พี่สะใภ้แกตอนคลอดหนานหนาน ก็เสี่ยงกับภาวะคลอดยากจนเกือบเสียชีวิต หลังจากนั้น ฉันก็ สาบานว่าจะไม่ให้เธอตั้งท้องลูกคนที่สองอีก ในจุดนี้ก่อนพ่อ แม่ตายก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเช่นกัน ขนาดผู้อาวุโส อย่างพวกเขาสองคนยังไม่ว่าอะไร แล้วแกมีสิทธิ์อะไรถึงมา วิจารณ์คนอื่นอยู่ที่นี่!?”

กู้เย็นเจิ้งพูดอย่างดูถูกว่า “พี่ใหญ่ พ่อแม่บอกว่าเคารพพวกพี่ อันที่จริงไม่รู้ว่าในใจจะเสียใจต่อเรื่องนี้มากแค่ไหน! ก็แค่เห็นแก่ หน้าพี่เลยไม่แสดงออกมาเท่านั้นเอง!!

นิ่งไปเล็กน้อย กู้เย็นเจิ้งก็พูดอีกว่า “ยิ่งไปกว่านั้น บอกตาม ตรง ผมถึงขั้นสงสัยว่าที่พ่อแม่จากไปเร็ว เพราะตรอมใจจนป่วย กับเรื่องนี้ คงจะมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก ว่ากันถึงที่สุดแล้ว ยัง คงเป็นพวกพี่สองคนนั่นแหละที่ทำร้ายพวกเขา!

ตอนแรกกู้ชิวรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้น้อย ดังนั้นจึงนอดกลั้น ความโกรธไม่พูดแทรก แต่เวลานี้เห็นอารองพูดจาเกินกว่าเหตุเช่นก็พลันปากตะโกนว่า อารองคุณอย่าพูดไปนัก เป็นบ้านของ! ยังถึงให้คุณมาเอะอะโวยวายอยู่ที่นี่”

กู้เย็นเจิ้งยังไม่ได้พูดอะไร ชายอ่อนกว่าเขาปีหนึ่งพูดจาเคลือบแฝงเจตนาร้ายว่า โธ่เอ๋ย หลานคนดีของฉัน ยังไงกัน ตอนนี้ดาราดังก็เก่งกาจแล้ว ไม่อารองของแกในสาย

คนที่พูดคือน้องชายคนสามของกู้เย็นจง และเป็นอาสามของ กู้ชิวกู้เย้นกาง

สามคนพี่น้องของตระกูล แบ่งเป็นเส้นจง เย้นเจิ้ง เย้นกาง ก็ลูกชายทั้งนายท่านใหญ่ตระกูลฝากความหวังพวกเขาเป็นซื่อตรง จริงใจ และเข้มแข็ง

เพียงแต่ เจ้ารองกับเจ้าตั้งให้เป็นคนคู่ควรกับมันอยู่บ้างๆ

เวลานี้ ด้านข้างของเย้นกาง ยังมีชายหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ คนหนึ่ง เอ่ยขึ้นไฟนั่นสิ บรรพบุรุษตระกูลเราเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า ทายาทรุ่นหลังตระกูล ห้ามอาชีพชั้นต่ำเก้าอย่าง”

อีกทั้งการเป็นนักแสดงอดีตแม้อาชีพชั้นต่ำเก้าอย่าง ยังไม่จัดเข้าไปเป็นหนึ่งนั้นด้วยซ้ำ กลับมาสู่หน่อย จากที่ไม่นับเป็นอาชีพ ถึงฝืนจัดเข้าเป็นอาชีพขั้นอย่างอย่างเสียไม่ได้ นี้เป็นนักแสดง ไม่เท่าทำให้บรรพบุรุษของตระกูลเราอับอายขายหน้าหรอกหรือ?

กู้ซิวอี้ฟันกรอด พูดด้วยความโมโหว่า เหว่ยกวง ลูกผู้ดี แต่กินดื่มเที่ยวผู้หญิง เกาะพ่อแม่กินอย่างนาย ถือดีอะไร มามือไม้ใส่ฉันอยู่ที่? ฉันบอกให้นะ ที่นี่ยังไม่ที่ให้นาย พูด!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ