ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1941



บทที่ 1941

กว่านายหญิงใหญ่เซียวจะได้กินอิ่มนอนหลับแบบนี้ได้ก็ใช่ว่า จะมีบ่อยครั้ง

แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ประตูห้องจะถูกจางกุ้ยเฟืนถีบเข้ามาอย่าง กรุ่น โกรธตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้!

นายหญิงใหญ่เซียวยังไม่ทันได้ตั้งตัว จางกุ้ยเงินก็พุ่งเข้ามาที่ เตียง ตวัดฝ่ามือลงบนหน้าของเธอ พร้อมกับสบถค่าอย่าง เดือดดาลว่า “อีแก่ แม้แต่ข้าวในกระถางธูปของพระโพธิสัตว์ยัง กล้าขโมย แกยังเป็นคนอยู่ไหม?”

นายหญิงใหญ่เซียวโดนตบจนหน้ามืด ในตอนที่เห็นใบหน้า ที่ห่างกันแค่คืบของจางกุ้ยเฟินเต็มไปด้วยความกรุ่น โกรธ เธอก็ ตกใจกลัวสติกระเจิงในทันที หลุดปากอ้อนวอนออกไปว่า “กุ้ย เฟิน ฉันขอโทษกุ้ยฟิน! ฉันไม่ได้อยากขโมยของของแก แต่ฉัน หิวมากจริงๆ…..

จางกุ้ยเฟินกราดเกรี้ยว กัดฟันเอ่ยพูดเสียงเหี้ยมว่า “แกหิวก็ เรื่องของแก มันเกี่ยวอะไรกับฉัน? กระถางธูปนั้นฉันเอาไว้บูชา พระโพธิสัตว์ แกขโมยข้าวในนั้น ก็เท่ากับแกดูหมิ่นพระ โพธิสัตว์! ถ้าหากพระโพธิสัตว์พิโรธขึ้นมาล่ะก็ มันเป็นเพราะแก หาเรื่องซวย ให้ฉัน!

นายหญิงใหญ่เซียวสะอื้นออกมา “กุ้ยเฟิน….วันตรุษจีน นี้….แกคงทนมองคนแก่อย่างฉันหิวตายอยู่ในนี้ไม่ได้หรอกใช่ไหม? แกบอกมา ถ้าฉันหิวตายอยู่ในนี้จริงๆ หลังจากนี้แกจะ อยู่ที่นี่ยังไง? แกจะนอนอยู่ในห้องชั้นบนทุกวัน ทั้งๆที่ห้องชั้นล่าง มีฉันนอนตายอยู่แบบนี้ แกรับได้จริงๆเหรอ?”

นายหญิงใหญ่เซียวร้องไห้ทั้งน้ำตาพร้อมพูดออกมาว่า “ย เฟิน…..แกถือซะว่าช่วยชีวิตคนแก่อย่างฉันเถอะนะ พระโพธิสัตว์ ท่านกล่าวไว้ไม่ใช่เหรอ? ว่าการช่วยชีวิตคนหนึ่งครั้ง มีบุญยิ่ง กว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น ถือซะว่าเป็นการสะสมบุญกุศลเถอะ นะ!”

แม้ว่าสีหน้าของจางกุ้ยเงินจะอ่อนลงบ้างแล้ว แต่ก็ยังเอ่ยพูด ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “เพราะเห็นแก่คำสอนของพระโพธิสัตว์ หรอกนะ ฉันจะให้อภัยเรื่องที่แกขโมยข้าว แต่แกต้องรับผิด ชอบการกระทำของตัวเอง ต้องชดใช้กับสิ่งที่แกทำ

นายหญิงใหญ่เซียวเอ่ยถามอย่างร้อนใจว่า “กุ้ยเฟิน แก อยากให้ฉันชดใช้อะไร?”

จางกุ้ยเฟินเอ่ยพูดเสียงเย็น “วันนี้แกต้องซักผ้าให้พวกฉัน สามคน แล้วฉันจะทำเป็นไม่เห็นว่าเรื่องนี้เคยเกิดขึ้น!

เมื่อนายหญิงใหญ่เชียวได้ยินดังนั้น ก็รีบอ้อนวอนขึ้นมาว่า “กุ้ยเฟิน เมื่อวานฉันไม่สบาย ไม่มีแรงไปทำงานที่ตลาด ฉันก็ เลยขโมยข้าวของแก วันนี้ยังไงฉันก็ต้องไปทำงาน ไม่อย่างนั้น วันนี้คงไม่มีข้าวกินแน่ๆ…

“ฉันไม่สน!” จางกุ้ยเฟินเอ่ยพูดอย่างหงุดหงิด “แกจะซักผ้าให้ ฉัน หรือแกจะหาข้าวมาคืนฉัน ฉันจะบอกไว้ให้นะ แกกินไปเท่าไหร่ ก็เอาคืนมาเท่านั้น เอามาคืนให้กระถางธูปเต็มเหมือน เดิม! ”

นายหญิงใหญ่เซียวร้องไห้ออกมาอย่างเศร้าโศก เอาข้าวทั้งหมดลงต้มไปหมดแล้ว ตอนจะให้ฉันเอา อะไรมาคืนแก? เอาอย่างนี้ได้ไหม วันแกให้ฉันทำงานตลาด ถ้าฉันหาเงินได้แล้วรีบซื้อข้าวมาแกทันทีเลย ดี ไหม?

“มาคืนให้ฉัน คืนมาตอนนี้ ไม่อย่างนั้น ก็หัวไปซักให้ ฉันซะๆ

พูดจบ จางกุ้ยเฟินเอ่ยขึ้นอีกว่า ถ้าบอกแล้วยังฟัง อย่าฉันใจร้ายแล้วกัน

เมื่อนายหญิงใหญ่เซียวเห็นใบโหดเหี้ยมของจางกุ้ย

ได้ในทันทีว่าผู้หญิงคน

ตอนนี้เธอมีหัวเดียวกระเทียมลีบ จะไปสู้อีกฝ่ายได้ยังไง?

ดังนายหน้า พูดกลั้ว สะอื้นว่า ได้ฉันจะ…ฉันจะไปซักให้เดี๋ยวนี้

วันเฉลิมฉลองใหญ่นี้ นายหญิงใหญ่เชียวแทบไม่ข้าวตก

ถึงปาก

จางกุ้ยเฟินทิ้งกองเสื้อผ้ากับผ้านวมสกปรกให้นายหญิง ใหญ่เซียว พร้อมทั้งออกคำสั่งว่าต้องซัก ให้เสร็จวันนี้
ดังนั้นนายหญิงใหญ่เซียวจึงไม่มีเวลาออกไปหาเงินเลย

ด้านเซียวเวยเวย ต้องดูแลเขียวฉางเฉียนและเขียวให้หลงที่ ได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนติดเตียง จึงเฉียดเวลาออกไปไหนไม่ ได้เหมือนกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ