ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1629



บทที่ 1629

เหตุผลที่เย่เฉินต้องแยกตัวออกจากเฉินจือข่ายกับหงห้าและ คนอื่นๆ เพื่อหาโอกาสที่จะลงมือเพียงคนเดียว และลองต่อสู้กับ นินจาของญี่ปุ่นที่ตามสะกดรอยตัวเอง ดูว่าพวกเขามีความ สามารถมากน้อยแค่ไหน

ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้ดีอยู่แก่ใจ ในเมื่ออีกฝ่ายตามสะกดรอยตัว เองมาถึงโรงแรม พวกเขาคงคิดไม่ว่าตอนนี้ตัวเองจะไปที่ไหน สุดท้ายก็ต้องกลับไปโรงแรมอย่างแน่นอน

ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่พวกเขาทั้งสี่คนจะไม่สะกดรอย ตามตัวเองทั้งหมด

ไม่ใช่ว่าเย่เฉันกลัวพวกเขาร่วมมือกัน แต่เขารู้สึกว่าคนพวกนี้ ตามสะกดรอยมาตั้งแต่โตเกียว มีเพียงแค่สี่คน ถ้าหากตัวเองฆ่า พวกเขาสี่คนจนหมด ทากาฮาชิมา คงไม่มีลูกน้องให้ใช้งานอีก แล้ว

ถ้าฆ่าอีกฝ่ายทั้งหมดในคราวเดียว เวลาที่เหลือของเขาที่ต้อง อยู่ในญี่ปุ่น คงน่าเบื่ออย่างแน่นอน

ดังนั้น เย่เฉินหวังว่าจะกำจัดพวกเขา”ทีละคน

มีเพียงการกำจัดทีละคนเท่านั้น ที่จะทำให้อีกฝ่ายเกิดความ หวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ และทำให้ทากาฮาชิมาเกิดความกลัว มากขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน
เมื่อออกจากร้านอาหาร เช่เฉินก็สังเกตเห็นแล้วว่าอีกฝ่ายส่ง คนมาสะกดรอยตามตัวเองเพียงแค่คนเดียว

ดังนั้นเขาก็เลยวางแผนที่กำจัดผู้ชายเพียงคนเดียวที่สะกด รอยตามเขาก่อน

ผู้ชายคนเดียวที่สะกดรอยตามเขามีชื่อว่าฟูจิบายาชิโอตะ เป็นญาติห่างๆกับตระกูลรองของฟูจิบายาชิ สมัยเด็กเขาก็ ติดตามพ่อของฟูจิบายาชิมาสะเพื่อเรียนรู้วิชานินจา ดังนั้นเขา กับฟูจิบายาชิมาสะจึงเรียกอีกฝ่ายว่าศิษย์พี่กับศิษย์น้อง

ในบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งสี่คนของฟูจิบายาชิมาสะ ถึง แม้ว่าฟูจิบายาชิโอตะจะไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด แต่เขามีพรสวรรค์ มากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาชำนาญด้านสะกดรอยและการ อำพรางตัว หลายปีมานี้ ไม่ว่าเขาจะไปสะกดรอยตามใคร ก็ไม่ เคยปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปได้

ฟูจิบายาชิโอตะสะกดรอยตามเเฉินตลอดทาง และติดตาม เย่เฉินจนออกไปจากย่านใจกลางเมืองและย่านที่อยู่อาศัยที่ แออัด เขารักษาระยะห่างจากเยเงินประมาณหนึ่งร้อยเมตรถึง สองร้อยเมตรเสมอ

เขาอำพรางตัวได้อย่างแนบเนียน เขากำหนดลมหายใจได้ อย่างดีมาก ถ้าคนที่มีความสามารถไม่พอ อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เขากําลังสะกดรอยตามอยู่

หลังออกจากตัวเมือง เย่เฉินก็ตรงไปที่สวนสาธารณะที่อยู่ริม แม่น้ำ
เนี่องจากเป็นช่วงดึก อากาศหนาวเย็น และอยู่นอกเมือง ทําให้สวนสาธารณะไม่มีใครเลยสักคน

เมื่อเห็นว่าเป็นกำลังจะเดินเข้าไปในสวนสาธารณะ ฟูจิบา ยาชิโอตะที่สะกดรอยตามมาตลอดทาง ก็ไม่ลังเลและเดินตาม เข้าไป

แต่ก็เกิดสิ่งที่เขาไม่คาดคิดขึ้นมา เยเฉินที่ถูกเขาสะกดรอย ตามมาโดยตลอดทาง เมื่อเดินเข้าไปในสวนสาธารณะแล้วก็ หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

ในฐานะสุดยอดนินจาที่มีฝีมือฟูจิบายาชิโอตะมีประสาท สัมผัสที่ไวกว่าบุคคลทั่วไปมากๆ เช่นการได้ยิน การมองเห็นและ การได้กลิ่น เสียงที่คนทั่วไปไม่ได้ยิน แต่เขาได้ยิน สิ่งที่คนทั่วไป มองไม่เห็น แต่เขามองเห็นเสมอ

สิ่งที่เขาเก่งที่สุด คือการได้ยินเสียงต่างๆ ที่คนทั่วไปไม่ได้ยิน

นินจาสะกดรอยในตอนกลางคืน ก็จะอาศัยประสาทสัมผัส ด้านการได้ยินมากที่สุด

ในรัศมีสองถึงสามร้อยเมตร ฟูจิบายาชิโอตะสามารถได้ยิน เสียงจิ้งหรีดคลานอยู่ในทุ่งหญ้า และการเคลื่อนไหวของมดที่ คลานออกมาจากรัง

เนื่องจากเขามีประสาทสัมผัสด้านการได้ยินที่ดีขนาดนี้ ทำให้ เขาสามารถได้ยินเสียงคนหายใจและจังหวะการเต้นของหัวใจ ในรัศมีห้าร้อยเมตรอย่างชัดเจน
ขณะที่คนกำลังอำพรางตัว เขาสามารถอยู่นิ่งๆได้ และไม่พูด ได้ แต่เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการหายใจและหยุดการเต้นของ หัวใจได้ ดังนั้นคนทั่วไปจะหลบหนีจากการสะกดรอยของฟูจิบา ยาชิโอตะได้ยากมากๆ

แต่เมื่อสักครู่ เย่เฉินอยู่ในรัศมีประสาทสัมผัสการได้ยินและ การมองเห็นของเขา แต่เขากลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มี เสียงฝีเท้า ไม่มีเสียงหายใจ และไม่มีเสียงการเต้นของหัวใจ ด้วย!

การกลั้นหายใจช่วงสั้นๆได้นั้นไม่ยาก แต่มนุษย์สามารถหยุด การเต้นของหัวใจได้เหรอ? เห็นได้ชัดว่านี่มันอยู่เหนือการ ควบคุมของมนุษย์ไปแล้ว!

สิ่งเหล่านี้ทำให้ฟูจิบายาชิโอตะรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที เพราะเขาตระหนักได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ธรรมดาแล้ว!

เขารีบก้าหนดลมหายใจของตัวเองให้แผ่วเบาที่สุดและระแวด ระวังขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็หยุดนิ่งและไม่ขยับ และฟังเสียง รอบข้างอย่างละเอียด

ในขณะเดียวกัน เขาก็หยิบมีดคในสีดำสองเล่มออกมาจาก หน้าอกของตัวเอง

มีดคุไนเป็นหนึ่งในอาวุธที่นิยมใช้กันอย่างมากของนินจา อาวุธนี้มีความยาวประมาณสิบห้าเซนติเมตร มีความคมทั้งสอง ด้านและมีด้ามจับสั้นๆ ซึ่งดูเหมือนมีดสั้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ