ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1813



บทที่ 1813

เมื่อเชียวไห่หลงได้ยินคำพูดเหล่านี้เขาเกือบจะสติแตกเลย!

เขามองเห็นบอดี้การ์ดหลายๆคนของอู่ตงไห่เดินมาหาตัวเอง เขาหวาดกลัวจนเดินถอยหลัง และตะโกนด้วยความ ประหม่า: “ประธาน คุณจะทำอะไรเหรอ! พวก…พวกเราทำทุก อย่างเพราะคุณ…คุณไม่รับน้ำใจของพวกเราก็ไม่เป็นไร แต่ ทำไมคุณต้องหักแขนทั้งสองข้างของฉันด้วย?”

อู่ตงไห่โกรธจัดและด่าออกมาทันที “แม่งเอ๊ย ถ้าคุณยังกล้า พูดว่าทำเพื่อฉัน ฉันจะหักขาทั้งสองข้างของคุณด้วย!”

เซียวไห่หลงหวาดกลัวมากๆ ยังไม่ทันได้หนีได้ไกล เขาก็ถูก

บอดี้การ์ดร่างใหญ่หลายๆคนกดไว้กับพื้น

บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆของอู่ตงไห่ไม่ใช่คนที่ต่อกรได้ง่าย เมื่อ เจ้านายสั่งการ พวกเขาจะไม่ลังเลเลย

ดังนั้น เมื่อเซียวไห่หลงโดนกดไว้ที่พื้น ก็มีคนหยิบก้อนอิฐขึ้น มาจากพื้นทันที และใช้ก้อนอิฐทุบไปที่ไหล่ของเขา

เขียวไห่หลงร้องด้วยความเจ็บปวด ยังไม่ทันที่เขาจะกรีดร้อง จบ ไหล่อีกข้างหนึ่งก็มีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรง ความเจ็บ ปวดเหล่านี้ทำให้เขาเกือบจะหมดสติ

เมื่อเซียวฉางเฉียนเห็นว่าลูกชายตัวเองถูกทำร้ายจนอยู่ใน สภาพน่าสังเวช เขาก็รีบอ้อนวอนทันทีและพูดว่า “ประธานอู๋…ประธาน! ลูกชายของฉันทำเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะหวังดีกับคุณ ถึงแม้ความหวังดีนี้จะกลายเป็นเรื่องไม่ดี คุณก็ไม่ควรทำกับเขา แบบนี้…”

อู่ตงไล่กัดฟันตัวเองและด่า “พวกคุณสองพ่อลูกพูดมากเกิน ไปแล้ว! พวกเจ้ามานี่ จัดการหักแขนทั้งสองข้างของเขาด้วย!”

อู่ตงไห่ในเวลานี้ เขารู้อยู่แก่ใจว่าเรื่องนี้ไม่สามารถปิดบังได้ ดังนั้นเขาก็เลยเลือกที่จะอยู่ข้างเยฉางหมิ่น

เขาแค่ต้องการพิสูจน์ทุกอย่างให้เช่ฉางหมิ่นเห็นว่า ตัวเอง

เป็นผู้บริสุทธิ์ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเองเลย

ดังนั้นในเวลานี้ เซียวฉางเฉียนยังกล้าพูดว่าทำเรื่องนี้เพราะ หวังดีกับเขา นี่ไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายสีเขาเหรอ?

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็อย่าหาว่าเขาใจร้ายละกัน

การหักแขนของพวกเขา มันเป็นการพิสูจน์ตัวเองต่อหน้าเ ฉางหมิ่น

ถ้าเยฉางหมิ่น ใจอ่อนและได้ระบายความโกรธ หายโกรธ ปัญหาที่ยุ่งยากของตัวเองอาจจะน้อยลงทันที

เซียวฉางเฉียนคาดไม่ถึงจริงๆ ไอ้สารเลวอย่างตงไห้ไม่เพียง แค่หักหลังพวกเขา แต่ยังจะหักแขนของลูกชายตัวเอง หลังจาก นั้นก็จะหักแขนของตัวเองด้วย!

เมื่อเห็นว่าลูกชายตัวเองโดนทำร้ายและร้องคร่ำครวญกลิ้งอยู่ ที่พื้น ความคิดแรกของเขาก็คือรีบหนีไปอย่างรวดเร็ว
แต่เขาแก่จนจะกลายเป็นชายชราแล้ว เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ บอดี้การ์ดวัยกลางคนเหล่านั้นของอู่ตงไห้อย่างแน่นอน

ดังนั้น เมื่อเขาวิ่งหนีไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็โดนกดลงไปอยู่ที่พื้น หลังจากนั้น เขาก็โดนทุบสองครั้งด้วยอิฐก้อนเดิม เซียวฉาง เฉียนก็เหมือนหมูที่โดนเชือด และโดนโยนไปใกล้ๆกับลูกชาย ตัวเอง พ่อลูกสองคนร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดดังก้องไป ทั่ว โกดัง

เสียงคร่ำครวญอันเจ็บปวดนี้ดังมากๆจนเฮลิคอปเตอร์บินมา ถึง แต่คนด้านใน โกดังไม่ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์เลย

ในเวลานี้ พ่อลูกคู่นี้ มีเลือดไหลเต็มแขน พวกเขาดูน่าสังเวช มากๆ

เมื่ออู่ตงให้เห็นว่าพ่อลูกคู่นี้โดนหักแขนทั้งสองข้าง เขาเดินไป ด้านหน้าของเยฉางหมิ่นและพูดด้วยความประสบสอพลอ “คุณผู้ หญิงเย่ ฉันได้สั่งสอนไอ้เดรัจฉานสองคนนี้แล้ว ผมหวังว่าคุณจะ หายโกรธ…”

เยฉางหมิ่น โล่งอกทันที แต่อดไม่ได้ที่จะบ่นว่า “คุณรีบแก้มัด

ให้ฉันหน่อย!”

“โอ้ได้ๆๆ!”อู่ตงไห่รีบแก้เชือกที่มัดอยู่บนร่างกายของเยฉาง หมิ่นทันที

เย่ฉางหมิ่นถูกแก้มัดและเป็นอิสระ เธอรีบกระโดดขึ้นจากพื้น ทันที โดยไม่สนใจปัสสาวะที่อยู่ในร่างกายของตัวเอง ความคิดแรกของเธอก็หันหลังและจับเส้นผมของหม่าหลับขึ้นมา และตบ หน้าหม่าหลันอย่างหนัก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ