ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 26 คุณชายเย่



ตอนนี้หม่าหลันตกใจจนกรีดร้อง หลับตาปี เตรียมที่จะโดนตบ ฉับพลันก็พบว่าฝ่ามือใหญ่นั้น ไม่ได้ฟาดลงมา

เธอจึงลืมตาดู ก่อนจะตกตะลึง!

ลูกเขยไร่ค่าของเธออย่างเย่เฉินกลับเข้า มาบังฝ่ามือของอีกฝ่ายให้กับเธอ!

ตอนนี้สมองของเธอขาวโพลนจนคิดอะไร ไม่ออก ทําไมคนไร้ค่าอย่างเย่เฉินถึงใจกล้า ขนาดนี้?

ท่านหงห้าคิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าออกหน้า แทนหญิงแก่คนนี้จึงเอ่ยถามเสียงเย็นยะเยือก “แกเป็นใคร? แกอยากตายอีกคนหรือไง?”

เย่เฉินยิ้มบางๆพลางเอ่ย “ท่านหงห้าใช่ ไหม? เห็นแก่หน้าผมหน่อย สุนัขตัวที่อยู่ข้างๆคุณ จัดการได้เต็มที่ แต่แม่ยายผมไม่ได้!”

ท่านหงห้าเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ามืดครึ้ม “อีแก่น เป็นแม่ยายของแกหรือ? แล้วแกเป็นใคร ทําไม ฉันต้องเห็นแก่หน้าแกด้วย?”

ขณะที่เอ่ยประโยคนี้ไฟโทสะของท่านหง ห้าก็ลุกโชน
ในเมืองจีนหลังนี้มีคนมากมายที่เคารพ ย่าเกรงเขา วันนี้กลับมีคนแล้วคนเล่าที่ไม่ให้ ความเคารพเขา

คนแรกคือหวังเหวินชายที่โหวกเหวก

โวยวายต่อหน้าเขา แล้วยังมีหญิงแก่น่ารังเกียจ อีกคนที่ส่งเสียงน่ารำคาญอยู่ข้างๆ

ตอนนี้ยังมีชายหนุ่มอีกคนที่มาออกคําสั่ง กับเขา คิดว่าท่านหงห้าอย่างเขาเป็นหมาแมวที่จะ ทํายังไงด้วยก็ได้หรือ?

คิดมาถึงตรงนี้เขาก็บันดาลโทสะหันไป ตะคอกใส่คนข้างกายทันที “จัดการไอ้คนที่มันไม่ กลัวตายคนนี้ซะ!”

เย่เฉินได้ยินดังนั้นก็ยิ้มบางๆพลางเอ่ย “อย่าเพิ่งใจร้อนไป ผมขอโทรศัพท์สักครู่ ให้ คนในสายคุยกับคุณก็แล้วกัน”

เอ่ยจบเขาก็หยิบมือถือขึ้นมาแล้วต่อสาย

หาเฉินจื่อข่ายผู้ดูแลแชงกรีลา เมื่อโทรติดอีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นอย่างเคารพ

“คุณชาย มีเรื่องอะไรให้ผมรับใช้หรือครับ?” เย่เฉินจึงเอ่ยถามเสียงเรียบ เมืองจินหลังมี คนที่ชื่อท่านหงห้าอยู่ นายรู้จักไหม?”

เฉินจื่อข่ายรีบตอบกลับทันที “ท่านหงห้าที่ คุณชายพูดถึงผมรู้จักครับ ผู้คนต่างบอกว่าเขา คือเจ้าถิ่นของเมืองจินหลิง ความจริงแล้วก็แค่นักเลงหัวไม้คนหนึ่ง!

ขณะที่เล่าเฉินจือข่ายก็เอ่ยเสริม “ไอ้นี่มันรู้ ว่าผมเป็นคนของตระกูลเย่ คิดหาทางประจบประ แจงผม โดยขอร้องให้ผมไปทานข้าวด้วยหลาย ครั้งแล้ว แต่ผมไม่ได้สนใจ มีอะไรหรือครับ? คุณชายรู้จักมันหรือ?

เย่เฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆ “อืม ตอนนี้ เขาอยากจะฆ่าฉัน”

เฉิน อข่ายที่อยู่อีกฟากของสายก็โกรธ ทันที “ให้ตายเถอะ ไอ้นักเลงหงห้าคนนี้มันไม่ อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วใช่ไหม? ถึงกล้าหาเรื่อง คุณชาย? ตอนนี้คุณขายอยู่ที่ไหนครับ? ผมจะรีบ พาคนไปจัดการไอ้นักเลงที่ชื่อหงห้าคนนี้!”

เย่เฉินตอบกลับ ฉันจะเอาโทรศัพท์ให้เขา นายพูดกับเขาหน่อย

เอ่ยจบเขาก็ยื่นมือถือให้ท่านหงห้า “คุณรับ โทรศัพท์หน่อย” สีหน้าท่านหงห้าเต็มไปด้วยความ

คลางแคลงใจ

เกิดอะไรขึ้น? ไอ้คนนี้ก็ไม่เหมือนคนที่ แกล้งเล่นละครตบตา

หรือว่ามันมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ใหญ่โต จริงๆ?

แต่ก็ดูไม่เหมือนนี่ แต่งตัวก็ธรรมดา ทั้งเนื้อทั้งตัวรวมกันน่าจะไม่ถึงห้าร้อยด้วยซ้ำ แม้แต่มือ ก็เป็นรุ่นที่ราคาไม่กี่ร้อย มันจะใหญ่โตมาจาก ไหนกัน? หรือมีคนคอยหนุนหลัง?

ในใจนั้นเหยียดหยามทว่าท่านหงห้าก็ รับมือถือมาก่อนเอ่ยถามลองใจ “ฮัลโหล ฉันคือ ท่านหงห้า แกเป็นใคร? จะช่วยหนุนหลังให้ไอ้เด็ก คนนี้หรือ?”

เฉินที่อยู่ในสายจึงไม่ยั้ง “หงห้า! แกอยากตายใช่ไหม? ถึงกล้าหาเรื่องคุณชาย ของฉัน? แกเชื่อไหมว่าฉันสามารถฆ่าล้างตระกูล แกทั้งยี่สิบห้าคนได้ภายในคืนนี้เลย!”

ท่านหงห้าจําเสียงนี้ได้ นี่คือเฉินจื่อข่ายคน ที่ตนหาวิธีประจบประแจงอยู่ไม่ใช่หรือ?

อีกฝ่ายบอกว่าตนหาเรื่องคุณชายของเขา? หรือว่าคือไอ้เด็กที่อยู่ตรงหน้าคนนี้?

อีกอย่างแค่เอ่ยปากอีกฝ่ายก็บอกว่าคนทั้ง ตระกูลยี่สิบห้าคนของตน หรืออีกฝ่ายสืบข้อมูล ของตนมาอย่างละเอียดแล้วหรือ?

อีกฝ่ายคือผู้แทนของตระกูลเย่ในเมืองจิน หลิงเชียวนะ! อำนาจของตระกูลเย่นั้นไม่ธรรมดา หากจะฆ่าเขาก็ได้ง่ายๆไม่ต่างจากฆ่ามดตัว หนึ่ง!

ได้ยินดังนั้นเขาก็ตกใจจนวิญญาณแทบ ออกจากร่าง
จึงเอ่ยปากขอร้อง “ผู้จัดการทั่งไปเฉิน อย่า โมโหไปเลย ผมแค่เข้าใจอะไรผิดนิดหน่อย ผม กับคุณชาย…..

“แกหุบปาก!” เฉินจื่อข่ายด่าทอ “ตัวตนของ คุณชายเก็บเป็นความลับสุดยอด หากแกหลุด ปากพูดออกไปล่ะก็ ระวังฉันจะฆ่าล้างตระกูลแก!”

ท่านหงห้ากลัวจนตัวสั่น สั่นหนักกว่าคนที่ เป็นโรคพาร์กินสันเสียอีก รีบร้อนเอ่ยปาก “ผู้ จัดการทั่งไปเฉินผมสมควรตาย! ผมจะจัดการ เรื่องนี้เป็นอย่างดี…

แค่ผู้จัดการทั่งไปเฉินคนเดียวก็เพียงพอให้ เขาคุกเข่าด้วยความกลัวได้แล้ว ส่วนตระกูลเย่ แห่งเย่นจิงที่อยู่เหนือผู้จัดการทั่งไปเฉินนั้นคือ ตระกูลตนไม่กล้าแตะต้องยิ่งกว่า ทั้งชีวิตนี้คงได้ แต่แหงนมองอยู่อย่างนี้…..

ทว่าตอนนี้ตนกลับหาเรื่องคุณชายของ ตระกูลเย่อย่างไม่กลัวตาย?!

คิดมาถึงตรงนี้สายตาของท่านหงห้าก็จับ จ้องอยู่ที่เย่เฉิน เขาทรุดตัวคุกเข่าลงตรงหน้าของ เย่เฉินโดยจิตใต้สํานึก ก่อนจะเอ่ยด้วยความกลัว ถึงขีดสุด “ขอโทษครับคุณเย่ ผมไม่รู้ว่าเธอคือ แม่ยายของคุณ ผมโง่เอง ผมขอโทษ! ยกโทษให้ ผมด้วยเถิด!”

เอ่ยจบเขาก็แข้งขาอ่อนคุกเข่าอยู่ตรงหน้า ของเยเฉิน

ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนตกตะลึงจนอ้า ปากหวอ ท่านหงห้าคุกเข่าให้กับคนไร้ค่าอย่าง เย่เฉินหรือนี่???

แม้แต่คุณชายหวังยังเป็นได้แค่สุนัขตัวหนึ่ง ในสายตาของท่านหงห้า ทว่าชายหนุ่มคนนี้กลับ ทําให้ท่านหงห้าคุกเข่าได้ เขาใหญ่โตมาจาก ที่ไหน?!

ลูกน้องของท่านหงห้าก็ตกใจกันถ้วนหน้า!

ท่านหงห้าคือเจ้าถิ่นของเมืองจินหลิงเขียว

นะ! ชายหนุ่มแบบไหนกันที่ทําให้เขาคุกเข่าได้?!

เย่เฉินเองก็ไม่ได้ต้องการเอาชีวิตของท่าน หงห้า เพราะยังไงคนตบแม่ยายของเขาคือลูก น้องของอีกฝ่าย ไม่ใช่ตัวหงห้าเอง

อีกทั้งพูดตามความรู้สึกจริงๆ เย่เฉินรู้สึก สะใจที่เห็นแม่ยายถูกตบ!

ดังนั้นเขากับท่านหงห้า “ครั้งนี้ผมจะ ให้อภัยคุณ แต่เงินของแม่ยายผมที่คุณโกงไป คุณต้องเอามาคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย!”

ท่านหงห้าโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจาก อก คิดไม่ถึงเลยว่าคุณชายเย่จะให้อภัยตนเอง คนที่รอดพ้นจากความตายอย่างเขาจึงรีบก้มหัว คารวะพลางเอ่ย ท่านวางใจได้ ผมจะไปจัดการ ให้ทันที!”

เอ่ยจบเขาก็รีบหยัดตัวข้นก่อนจะหันไปตะคอกใส่โจว ว น “ยังไม่รีบไปจัดการอีก! ถ้า งซักข้าฉันจะตัดขาแก!”

ด้านหม่าหลันนั้นอึ้งไปแล้ว คนนี้ใช่ลูกเขย ไร้ค่าคนนั้นของตนอยู่หรือเปล่า? ทําไมแม้แต่ ท่านหงห้าผู้มีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือยังต้องก้มหัว คารวะให้?

ฉับพลันหม่าหลันก็รู้สึกว่าในสายตาของตน นั้นภาพลักษณ์ของเย่เฉินดูสูงสง่าขึ้นมาถนัดตา

ส่วนคนที่โดนตบไปหลายทีอย่างหวังเหวิน ข่ายก็อึ้งไม่แพ้กัน เย่เฉินคนนี้คือคนที่มีชื่อเสียง ว่าไร้ค่าไม่ใช่หรือ? ทำไมแม้แต่ท่านหงห้ายังกลัว มัน?

ขณะนั้นเองโจวหัวซินก็ถือกระเป๋าหนังสีดำ ใบหนึ่งเดินเข้ามาด้วยสีหน้าซีดเผือด เมื่อมาถึง หน้าหม่าหลินก็เอ่ยด้วยความกลัว “คุณน้า นี่คือ เงินต้นหนึ่งล้านสามแสนของท่าน แล้วก็ยังมี เงินปันผลที่สัญญาไว้อีกสองแสน รวมทั้งสิ้นหนึ่ง ล้านห้าแสน นี่คือเงินจํานวนสองล้าน ที่เหลืออีก ห้าแสนถือว่าเป็นการไถ่โทษ เชิญรับไปด้วย

หม่าหลันชะงักไปแล้ว!

ลูกเขยขี้ขลาดของตนกลายเป็นคนที่ เก่งกาจแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

เงินตันได้คืนแล้ว เงินปันผลจำนวนสองแสนที่สัญญาไว้ก็ได้คืนแล้ว อีกฝ่ายยังให้เพิ่มอีก ห้าแสน?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ