ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1717



บทที่ 1717

คำพูดของนางาฮิโกะ อิโตะ ทำให้เยเฉินต้องประหลาดใจไม่ มากก็น้อย

ก่อนอื่น เขาไม่คาดคิดว่า นางาฮิโกะ อิโตะจะเข้าใจเกี่ยวกับ วัฒนธรรมจีนมากขนาดนี้

ประการที่สอง เขาเองไม่คาดคิดว่า นางาฮิโกะ อิโตะจะเอ่ยถึง วัฏจักรแห่งโชคชะตาขึ้นมา

เขาไม่รู้ว่าคนญี่ปุ่นเชื่อในฮวงจุ้ยหรือไม่ แต่ดูเหมือนตอนนี้ คนญี่ปุ่นอย่างน้อยๆก็เชื่อในโชคชะตา

คำพูดของนางาฮิโกะ อิโตะ มองดูแล้วอาจดูเหมือนจะไร้สาระ แต่นั่นก็แฝงด้วยหลักความจริงอยู่บ้าง

ทั้งหมดนี้เขากล่าวมานั้นไม่ได้ถือว่าไร้เหตุผลไปซะหมด เพราะท้ายที่สุดแล้ว โชคชะตาของสิ่งนี้ ไม่มีใครสามารถรู้ได้ จริงๆ

เขานึกถึง ล่ายชิงหวา อาจารย์ฮวงจุ้ยอายุร้อยปีที่ตนบังเอิญ พบในภูเขาเย่หลิงซานผู้นั้นขึ้นมา

ล่ายชิงหวานั้นก็อาศัยหลักแห่งวัฏจักรแห่งโชคชะตา จนท้าย ที่สุดก็พบเจอกับตนเองในภูเขาเย่หลิงซาน

และเป็นเขาที่ทำลายชะตาชีวิตของมังกรติดสันดอนทิ้งไป และทำให้ตนเองนั้นสามารถบินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้

ชายชราผู้นั้น คาดว่าคงมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงวัฏจักร แห่งโชคชะตา

เพียงแต่น่าเสียดายที่ชายชราคนนั้นอยู่อีกฟากหนึ่งของ มหาสมุทร และอาจไม่มีโอกาสได้พบกันอีกในอนาคต

ไม่อย่างนั้น ตนเองก็คิดอยากจะนั่งพบหน้ากับเขา ชิมชา

สนทนา และพูดคุยกันยาวๆ

อย่างไรก็ตาม เย่เฉินในเวลานี้จู่ๆก็นึกถึงสิ่งที่นางาฮิโกะ อิ โตะ เพิ่งพูดออกมา

โชคชะตามีวัฏจักร บางทีในอนาคต ตนเองก็อาจจะได้พบกับ ล่ายชิงหวา อีกครั้ง

ในทํานองเดียวกัน ถ้าวันนี้ตนเองออกจากโตเกียวและญี่ปุ่น

ไป บางทีสักวันหนึ่งในอนาคตตนก็อาจจะได้กลับมาอีกครั้ง

ต่อให้ตนเองจะไม่กลับมา ตนเองก็ยังอาจจะมีโอกาสได้พบกับ อิโตะ นานาโกะ อีกครั้งในเวลาสักเวลาหนึ่ง ในสถานที่สักแห่ง หนึ่ง ภูเขาสายน้ำวนมาบรรจบกัน

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เย่เฉินก็ถอนหายใจเบาๆ และพูดกับนางา โกะ อิโตะว่า “คุณอิโตะ ผมรู้สึกว่า เรื่องนี้ยังคงให้เป็นเรื่องของ อนาคตเถอะ ในเมื่อสุดท้ายแล้ว ทั้งคุณและผมล้วนไม่สามารถ ควบคุม โชคชะตาได้

นางาฮิโกะ อิโตะพยักหน้าและพูดอย่างจริงจังว่า “คุณเย่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประตูใหญ่ของตระกูลอิโตะล้วนเปิดให้แก่ คุณเสมอ ช่วงเวลาจากนี้ระยะหนึ่งในอนาคต ตระกูลอิโตะจะ สะสมพลังความแข็งแกร่ง และจะไม่ร่วมมือกับตระกูลหรือองค์กร ใดในต่างประเทศ หากมีวันหนึ่ง ที่คุณมีความทะเยอทะยาน เพียงพอ และคิดต้องการขยายวิสัยทัศน์ของคุณ ตระกูลอิโตะ สามารถร่วมมือกับคุณได้ตลอดเวลาโดยไม่มีเงื่อนไข

เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณสำหรับเจตนาดีของคุณ โตะ แต่ว่าผมนั้นไม่มีความทะเยอทะยานใด อีกทั้งยังไม่เคย ร่ำเรียนอะไรมา ไม่มีทั้งความทะเยอทะยานและความสามารถ ดังนั้นปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตาเถอะ”

ในความเห็นของเยเฉิน แม้ว่าทัศนคติของเขาที่มีต่อนางา โกะ อิโตะจะเปลี่ยนไปในระดับหนึ่ง แต่นี่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะ ปล่อยให้ตนเองวางการ์ดของตนลงได้

ดังนั้น เย่เฉินไม่ต้องการให้เขารู้แผนการของตนในอนาคต

อันที่จริงแล้ว ในใจของเยเฉิน เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะ สามารถอาศัยบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ทำให้ธุรกิจของเขานั้นยิ่ง ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆได้

นั่นเพราะหากเขาต้องการล้างแค้นให้พ่อแม่ การพึ่งพาแค่ ความแข็งแกร่งส่วนตัวเพียงอย่างเดียวนั้นไร้ประโยชน์ ไม่ใช่แค่ ความแข็งแกร่งส่วนตัวที่ต้องมี แต่ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ นั้นก็สำคัญอีกด้วย!

ไม่อย่างนั้น หากต้องเผชิญหน้ากับตระกูลที่ใหญ่โตอย่างตระกูลซูเข้าจริงๆ ตนเองจะสามารถต่อกรได้อย่างไร?

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แต่การที่ตระกูลสามารถข้ามผ่านเป็น ดั่งมังกรข้ามแผ่นดินและทำให้เจ้าถิ่นอย่างตระกูลมัตสึโมโตะ ถูกฆ่าลงจนหมดเรียบทั้งตระกูลได้ นี่ก็เพียงพอที่จะเห็นแล้วว่า ความแข็งแกร่งเบื้องหลังของตระกูลนี้นั้นมากมายเพียงใด

นี่ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นว่า ตระกูลซูนั้นครอบครองยอดผู้ เชี่ยวชาญจำนวนมากจนน่าทึ่งอยู่ แต่ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขา มีความคล่องตัวสูงมาก เมื่อซื้อเฟยและซูจือหยูเกิดเรื่องใน ญี่ปุ่น พวกเขาก็สามารถส่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากไปที่นั่นได้ ทันที ประสิทธิภาพการลงมือแบบนี้ เทียบแล้วถือว่าไม่ด้อยไป กว่ากองทัพสหรัฐฯ

หากไม่มีความแข็งแกร่งที่มากพอ อาศัยแค่ความสามารถ ส่วนตัวเพียงลำพัง ใครก็ไม่สามารถหลีกหนีจากตระกูลซูได้พ้น

ไม่ต้องพูดถึงประสิทธิภาพการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญหลายร้อย คน แค่ลำพังเพื่อนสนิทและญาติของตน ตนก็ไม่มีความสามารถ ที่จะปกป้องได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ