ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1265



บทที่ 1265

และเพราะกำลังคิดเรื่องอื่นในหัวอยู่ ดังนั้นอิโตะ นานาโกะ เลยโดนคู่ต่อสู้ของเธอบีบจนถอยร่นไม่หยุด

เธอในตอนนี้ไม่มีความอยากเอาชนะการแข่งขันนี้มากเท่า ก่อนนี้แล้ว

เพราะเธอรู้สึกได้แล้วว่า วิทยายุทธ์ที่ตนฝึกฝนมานานหลายปี เมื่ออยู่ต่อหน้ายอดฝีมือที่แท้จริง แทบจะสู้ฝ่ามือเบาๆของอีกฝ่าย ไม่เลยด้วยซ้ำ

มันเป็นการทําลายความมั่นใจของเธอมากจริงๆ

ที่จริงแล้วไม่ว่าใครเจอเรื่องแบบนี้ ก็ต้องได้รับผลกระทบกัน ทั้งนั้น

ที่โดนทำลาย ไม่เพียงแต่ความมั่นใจของตนเท่านั้น ยังมี ความเชื่อตลอดมาของตนอีกด้วย

มันเป็นเวลาที่นานมาก อิโตะ นานาโกะรู้สึกว่าระดับสูงสุดของ วิทยายุทธ์ที่ตนอยู่ห่างนั้นอย่างมากก็แค่ยี่สิบปี

พอยี่สิบปีผ่านไป ตนต้องสามารถเติบโตเป็นยอดฝีมือเต่าระ ดับท็อปของโลกแน่ หรืออาจจะกลายเป็นอาจารย์เต่าเหมือน กับยามาโมโตะ คาซึกิซึ่งเป็นอาจารย์ของเธอ

แต่ว่า เมื่อกี้เย่เฉินกลับทำให้เธอพบว่า อาจารย์เต่าในดวงใจของเธอ ที่แท้เมื่ออยู่ต่อหน้ายอดฝีมือที่แท้จริงก็ไม่ต่าง อะไรกับมดตัวหนึ่งเลย

ที่แท้หลายปีมานี้ตนเป็นเหมือนกบในกะลา ตอนนี้เธอพึ่งจะค้นพบว่า โลกเต๋าที่แท้จริงมันอยู่เหนือกว่า

ความรู้ความเข้าใจของตนมากนัก

เมื่อก่อนเธอคิดว่า โลกมันก็แค่โลกเท่านั้นเอง ระยะทางที่ไกล ที่สุด ก็แค่จากซีกโลกนี้ไปอีกซีกโลกหนึ่งเท่านั้น

แต่วันนี้เธอถึงได้รู้ว่า ที่แท้แล้วนอกโลกใบนี้ยังมีระบบสุริยะ ระบบแกแล็คซี่รวมถึงทั่วทั้งจักรวาลอยู่อีก

วินาทีนี้ เธออดคิดถึงคำถามหนึ่งขึ้นมาไม่ได้ว่า ตนยังต้องใช้ เวลาอีกเท่าไหร่ถึงจะสามารถเป็นยอดฝีมือระดับท็อปที่แท้จริง อย่างเย่เฉินได้

พอคิดถึงฝ่ามือนั้นที่เย่เฉินปล่อยออกมา ถึงจะทำให้อาจารย์ผู้ มีพระคุณของตนกลายเป็นคนพิการ แต่ฝ่ามือนั้นกลับส่งผลกระ ทบต่อตน ในด้านระดับเต่า ประหนึ่งแสงเดือนเจิดจ้าสาดใส่ อย่างจัง!

พอคิดแบบนี้แล้ว เธอยิ่งโฟกัสไม่ได้เลย และคู่ต่อสู้ของเธอก็อาศัยจังหวะนี้โจมตีเข้าใส่เธอไม่หยุดเลย รอบแรก อิโตะ นานาโกะเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด ผู้ชมด้าน

ล่างเวทีพากันนิ่งอึ้ง
ใครต่างไม่คิดไม่ฝันว่า นักแข่งตัวเก่งเบอร์หนึ่งของการ แข่งขันนี้อย่างอิโตะ นานาโกะจะมาพ่ายแพ้ให้กับนักแข่งที่ไร้ อันดับในการแข่งรอบแรกของรอบสี่คนสุดท้ายแบบนี้

ตอนกรรมการประกาศผลการแข่งขันรอบแรกเสร็จ คู่ต่อสู้ฝั่ง ตรงข้าม โห่ร้องอย่างดีใจ

เธอไม่คิดไม่ฝันเลยว่า การแข่งที่เธอคิดว่าแพ้แน่แล้วกลับจะ ได้ชัยชนะแรกมาอย่างเหนือความคาดหมายแบบนี้

ดูท่าสภาพ ในวันนี้ของอิโตะ นานาโกะจะมีปัญหานิดหน่อย แต่ว่ามันเป็นโอกาสที่ดีมากของตนจริงๆ

ตอนอิโตะ นานาโกะเดินมาที่เขตพักผ่อนข้างเวที สมองเธอยัง อยู่ในสภาพมึนงงอยู่เลย

การแพ้ชนะการแข่งขันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เพราะความเชื่อ

ของเธอพังทลายไปแล้ว

เวลานี้ ทานากะซังผู้ช่วยของเธอกำลังพูดกับเธอด้วยสีหน้า ร้อนใจว่า “คุณหนูใหญ่ คุณจะมาท้อแท้แบบนี้ไม่ได้นะ! ตอนนี้ กําลังเข้าสู่รอบการตัดคนแล้ว ถ้าคุณแข่งแพ้ งั้นการแข่งก็จบลง แค่นี้แล้วนะ!”

อิโตะ นานาโกะยิ้มเศร้า พึมพำว่า “ทานากะซัง คุณก็เห็นฝีมือ น่ากลัวของคุณเย่คนนั้นแล้วนี่ เอาฉันไปเทียบกับเขานะ เหมือน กับเอาหิ่งห้อยไปเทียบกับแสงจันทร์ คุณรู้ไหมว่าประเทศจีนมีคำ พูดโบราณคำหนึ่งว่า หิ่งห้อยหรือจะหาญกล้าเทียบเทียม แสงจันทร์ได้”
ระหว่างพูด เธอถอนหายใจยาวออกมาหนึ่งที่พลางว่า “ฝีมือ ของเขาเหมือนจันทร์กระจ่างสว่างกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ส่วน ฉันก็แค่หิ่งห้อยตัวน้อยในดงหญ้าเท่านั้นเอง…

สีหน้าทานากะซังบ่งบอกความเข้าใจเหมือนกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ