ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2399



บทที่ 2399

เช้าตรู่

ณ หมู่บ้านชุมชน ในเมืองจีนหลัง

เยฉางหมิ่นที่ผอมลงอย่างรวดเร็วอย่างน้อยหลายกิโล เดิน ออกจากตรอกมืดๆด้วยมือเปล่า

ห้านาทีก่อนหน้านี้ ลูกน้องของหงห้าได้เปิดห้องของเธอออก แล้วบอกกับเธอว่าเธอสามารถออกไปได้แล้ว

วินาทีนั้น เยฉางหมิ่นร้องไห้อย่างปวดใจ

เธอหมดความอดทนกับสถานที่ทั้งหนาวและทรุดโทรม แล้ว ยังมืดมิดเปียกชื้นอย่างหมู่บ้านชุมชน ในเมืองจีนหลังแล้ว

เธออยู่ในสถานที่ทรุดโทรมมานานหลายวันขนาดนี้ ทั้งเนื้อทั้ง ตัวมีเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นอับ กลิ่นแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึก พะอืดพะอมอยู่ตลอดเวลา

เดิมทีเธอสามารถออกจากที่นี่ได้ตั้งนานแล้ว แต่เย่เฉินกลับ เลื่อนเวลาออกไปหลายวันให้เธออย่างไร้เหตุผล หลังจากนั้นก็ เพิ่มเวลา จากเดิมเป็นเจ็ดวัน

ความจริงแล้ว ถ้านับขึ้นมาจริงๆ ตอนนี้ผ่านเช้าตรู่มาแล้ว เท่ากับว่าล่าช้าอีกแล้ว

แต่ว่า คราวนี้เย่ฉางหมิ่นได้เรียนรู้แล้ว จึงไม่กล้าโวยวายเเฉิน กระทั่งคนที่เฝ้าตัวเองพวกนั้นแม้แต่คำเดียว

ดังนั้น ในวินาทีที่ได้รับอนุญาต เธอแทบจะไม่คิดอะไรเลย รับ ออกมาทันที

หลังจากที่วิ่งออกมาแล้ว เธอพึ่งนึกขึ้นได้ว่า ตึกขนาดนี้ ไม่รู้ ด้วยซ้ำว่าตัวเองควรไปที่ไหน

เธอจึงอยากรับกลับเย่นจิง แต่ว่าไม่มีเที่ยวบินในขณะนี้ ถ้าจะ ให้เครื่องบินส่วนตัวของครอบครัวตัวเองเดินทางจากเย็นจึงมาที่ นี่ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสองสามชั่วโมง แล้วเวลาที่เหลืออีก สองสามชั่วโมง ตนควรจะไปที่ไหนดีล่ะ?

เมื่อคิดได้ดังนั้น เธอจึงรีบโทรหาเงินจือข่ายทันที

เธอคิดว่า เฉินจือข่ายมีเครื่องบินส่วนตัวในจินหลิง ตัวเอง สามารถให้เงินจือข่ายเอาเครื่องบินส่งตัวเองกลับ

แต่ว่า เธอคิดไม่ถึงว่า มือถือของเฉินจื้อขายจะปิดเครื่อง

เฉินจือข่ายรู้ว่าคืนนี้หงห้าจะปล่อยตัวเยฉางหมิ่น จึงทำการ เปิดโหมดห้ามรบกวนในมือถือแต่แรกแล้ว

ภายใต้โหมดห้ามรบกวน มีเพียงแค่สายจากเย่เฉินที่สามารถ โทรติดได้ เบอร์โทรศัพท์อื่นๆจะขึ้นเตือนว่าปิดเครื่อง

เยฉางหมิ่นเห็นว่าโทรไม่ติด ก่นด่าสารพัด “ไอ้บ้าเฉินจือข่าย ทําไมมือถือถึงปิดเครื่องได้ล่ะ? หรือว่าเขาจงใจหลบหน้าฉัน? ไอ้สารเลวเอ้ย!”
โมโหก็ส่วนโมโห ตอนนี้เยฉางหมิ่นไม่มีเวลามานั่งโกรธ เฉินจือข่าย เรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้ก็คือ รีบกลับ เย่นจิง

ดังนั้น เธอจึงวิดีโอคอลหาคุณท่านเยโจงฉวน

ขณะนี้ คุณท่านเย่กำลังนอนหลับ เมื่อรับสาย เขาก็ถามอย่าง งัวเงียว่าฉางหมิ่น โทรมาดึกขนาดนี้มีเรื่องอะไร? ”

เยฉางหมิ่นร้องไห้ไปด้วยพูดไปด้วยว่า “พ่อคะ! ไอ้สารเลวเ เฉิน มันปล่อยหนูออกมาแล้วค่ะ แต่ตอนนี้หนูกลับเย่นจึงไม่ได้ เฉินจือข่ายไอ้เหี้ยนั่นก็ปิดเครื่อง พ่อรีบส่งเครื่องบินมารับหนูสัก สําเถอะค่ะ………

เย่โจงฉวนตอบรับอ๋อ แล้วพูดว่า”ถึงเวลาที่เฉินเอ๋อกำหนด แล้วหรอ? เอาอย่างนี้นะ ลูกโบกแท็กซี่ไปที่สนามบินก่อนนะ เดี๋ยวพ่อจะส่งเครื่องบินสักลำไปรับหนูนะ”

เยฉางหมิ่นพูดอย่างสะอึกสะอื้น พ่อคะ! พ่อคงจะไม่ได้ให้หนู โบกแท็กซี่ไปที่สนามบินเองหรอกใช่ไหมคะ หนูโตมาขนาดนี้ยัง ไม่เคยนั่งรถแท็กซี่เลย รถแท็กซี่มันทั้งเก่าและทรุดโทรมอยู่แล้ว รถทั้งคันยังสู้สี่ล้อของรถหนูไม่ได้เลย อีกทั้งไม่ว่าคนอะไรก็นั่งไป แล้ว มันสกปรกมากเลยนะคะ”

เยโจงฉวนพูดอย่างเบื่อหน่ายฉางหมิ่น! ตอนนี้ลูกอยู่ในช่วง ไม่ปกติ อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชุมชนที่ทั้งสกปรกวุ่นวายมานาน หลายวันขนาดนี้ ยังกลัวที่จะนั่งรถแท็กซี่อีกหรอ? ”

เยฉางหมิ่นร้องไห้ออกมาทันที “พ่อคะ! ครั้งนี้หนูมาที่จีนหลังตามคำขอของคุณพ่อ หนูได้ผ่านความยากลำบากที่ทั้งชีวิตนี้ไม่ เคยเจอมาหมดแล้ว………

เยโจงฉวนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย จึงเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า เอา ล่ะๆ มีอะไรลูกพูดดีๆได้ไหม อายุเยอะขนาดนี้แล้ว อย่าเอะอะ อะไรก็ร้องไห้ได้ไหม การร้องไห้มันแก้ปัญหาอะไรไม่ได้

พูดจบ เขาก็หาวหวอดๆ แล้วพูดอย่างไม่มีแรงว่า “เห้อ พ่อม่วง แล้ว คนเรานะ พออายุมากแล้ว ถ้ายังไม่นอนหลับพักผ่อนดีๆล่ะ ก็จะมีผลต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง ดังนั้นพ่อไม่อยากพูดอะไรกับ ลูกแล้ว หาโบกรถไปที่สนามบินนะ ผมนอนก่อนล่ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ