ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 874



บทที่ 874

พอคนนั้นได้ยิน ก็พูดว่า “พี่หมิง ผมด้วย เอาผมไปอีกคน! ”

ป้าหลี่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาตลอด แต่พอได้ยินถึงจุดนี้ เธอก็พูด อย่างกังวลว่า “เจียงหมิง ตอนนี้ข่าวเขาก็เสนอข่าวพวกแหล่งเงิน กู้ดอกเบี้ยสูงอยู่นะ ดอกเบี้ยของมันนั้น สูงจนน่ากลัว ป้าว่าถ้าไม่ จำเป็นจริงๆ ก็อย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวเลยนะ

เจียงหมิงไม่คิดเลยว่า ว่าป้าหลี่จะมาทำเสียแผนตนเองแบบนี้ จากนั้นเขาก็รีบพูดว่า “ป้าหลี่ครับ พวกแพลตฟอร์มที่ป้าพูดถึง นั้น ดอกเบี้ยมันสูงจริงครับ แต่แพลตฟอร์มที่เพื่อนของผมดูแล อยู่นั้น เป็นไปอย่างถูกต้องครับ ดอกเบี้ยไม่ได้สูงขนาดนั้น เมื่อ เทียบกับดอกเบี้ยที่ได้รับจากเงินปันผลกองทุนแล้ว ดอกเบี้ยที่ ต้องจ่ายเงินกู้ มันน้อยนิดไปเลยครับ”

นิ่งไปครู่หนึ่ง เจียงหมิงก็พูดอีกว่า “จริงๆ โดยปกติแล้ว ผมจะ ไม่ทำเรื่องแบบนี้หรอกนะครับ เสียแรงเปล่าๆ ไม่มีความหมาย อะไร แต่ว่าเห็นแก่พี่น้องที่เติบโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามา ด้วยกัน ผมทนที่จะเห็นพวกคุณยากจนกันอีกไม่ได้แล้ว ดังนั้นมี อะไรช่วยได้ก็ช่วยกันครับ”

จ้าวโจ๋วเยวก็รีบพูดว่า “พี่หมิง พี่ไม่ต้องสนใจอย่างอื่นครับ พี่ รีบเอาชื่อแอปพลิเคชันที่ใช้กู้เงิน มาให้ผมเลยครับ ผมจะรีบไปกู้ เงินเดี๋ยวนี้เลย แล้วก็จะรวบรวมให้พี่เลย! เย่เฉินที่เงียบมาตลอด ในตอนนี้ก็มองเจียงหมิง แล้วก็ถามในเครือของเคยธุรกิจเกี่ยวกับเงินกองทุนอะไร?

ว่า เย่เฉิน ไม่ใช่ผมดูถูกกิจการตระกูลหวังมากมาย กิจการแทบทุกสาขา ไม่มีอะไร ที่พวกเขาทําหรอก กระจอกอย่างนายจะไปรู้อะไร? ”

เฉินไม่โกรธ แล้วถามว่า งั้นก็สิว่า บริษัท ออะไร

เจียงหมิงก็บอกว่า “บริษัทผมว่า กองทุนประกันการ ลงหัวซิน”

พูดเจียงหมิงควักเอานามบัตรของตนเองมา ด้านบน

ประทับตราบริษัท และตำแหน่งของเจียงหนึ่ง เป็นตำแหน่ง ผู้

อ่านวยการฝ่ายการกองทุน

เย่เฉินก็รู้สึกบริษัทกองทุนประกันการทุนหัวซิน ทำไมมัน ชื่อคุ้นๆ

พอคิดดูๆ เขานึกออก มันคือบริษัทเคยแม่ตนเอง ไปเมื่อคราวก่อนไม่ใช่หรือนี่เจ้าของบริษัทมีชื่อว่า หัวซิน คนหนุนหลังก็คือ ท่านทั้งห้า

โจวหัวจะหลอกเอาเงินมาลงทุนกับบริษัทตนเอง โดย เฉพาะ ลงทุนคืน ผู้ลงทุนที่ได้รับความเสียหายมา บริษัทก็ไม่ประโยชน์อะไร ช่วยอยู่ ก็เลยใครกล้าทำอะไรซิน
ไม่คิดเลยว่า เจียงหญิงคนนี้ จะทำงานให้กับบริษัทของโจวหัว ชิน!

แต่ครั้งก่อนที่ไปช่วยแม่ยายทวงเงินมา ก็ไม่เห็นเขาอยู่ด้วย ถ้าตอนนั้นเขาเห็นตนเองล่ะก็ ขั้นตอนนี้พอเห็นเขา ก็คงจะต้อง นอบน้อมจนแทบคุกเข่าอย่างแน่นอน

พอคิดถึงจุดนี้ เขาก็มองเจียงหนึ่งอย่างสนใจ แล้วถามอย่าง สงสัยว่า “เจ้าของบริษัทของนายชื่อว่า โจวหัวซิน ใช่ไหม? แต่ เขาเหมือนจะไม่ใช่คนตระกูลหวังนะ! นี่นายมั่วรึเปล่าเนี่ย? ”

เจียงหมิงก็ไม่นึกเลยว่าเย่เฉินจะรู้จักบริษัทตนเอง แถมยังรู้จัก ชื่อเจ้านายของตนเองอีกด้วย ในใจเขาก็เริ่มกังวลขึ้นมา

ถ้าหากว่าเย่เฉินรู้จักบริษัทตนเองล่ะก็ งั้นเขาก็ต้องรู้แน่นอนว่า

บริษัทตนเองทํางานเกี่ยวกับอะไร? และคงรู้ว่าที่ตนเองพูดกับ

จ้าวโจ๋วเยวนั้น ล้วนเป็นการหลอกลวง

ตอนนี้ในใจเจียงหมิงก็กังวลมาก ในตอนที่ไม่รู้ว่าจะอธิบาย อย่างไรนั้น จ้าวโจ๋วเยสแกนที่อยู่ด้านข้างก็โมโก ใส่เย่เฉิน ดุไป ว่า “เย่เฉิน นายหมายความว่าไง? พี่หมิงเขาอุตส่าห์ใจดี จะพา พวกเราไปหาเงิน นายมาสงสัยอะไรที่นี่? หรือคิดว่าพี่หมิงไม่พา นายไปหาเงิน ก็เลยไม่พอใจห้ะ? ”

เย่เฉินก็มองจ้าวโจวอย่างแปลกใจ แล้วก็ยิ้มในใจ ไอ้โง่ โง่ จนฉุดไม่อยู่จริงๆ ตัวเองไม่มีความรู้เอง ไม่รู้จักคิดวิเคราะห์ แยกแยะ กูก็ใจดีจะดึงมึงออกมาจากหลุมพราง แต่ถึงกลับสะบัด มือกทิ้ง แล้วจะกระโดดลงหลุมอีก
ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ตามใจเถอะ

ดังนั้นเขาก็รีบพูดกับเจียงหนึ่งว่า “ผมอาจจะจำผิดไป โทษที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ