ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2506



บทที่ 2506

ขณะพูด เย่อหย่วนเจียงก็ถอนหายใจและพูดว่า “อันที่จริงเมื่อ มีเงินถึงระดับหนึ่งแล้ว เงินสำหรับฉันมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร แล้ว สภาพชีวิตของฉัน ตั้งแต่ตอนที่ฉันได้เงินปีละห้าแสน ดอลลาร์มันก็คงที่แล้ว จนถึงฉันได้รับเงินปีละสิบล้านดอลลาร์ สภาพชีวิตของฉันก็ไม่ได้ต่างจากตอนที่ฉันได้เงินปีละห้าแสน ดอลลาร์เลย

“ถึงแม้ฉันจะไม่ใช่คนที่มีฐานะร่ำรวย แต่ฉันทำงานมาตั้ง หลายปี ฉันก็มีเงินเก็บหลายสิบล้านดอลลาร์ และบวกกับฉัน ลงทุนหุ้นด้วย ในมือของฉันยังมีหุ้นบางส่วนของบริษัทแอปเปิล และบริษัทเทสลาอยู่ ถ้าขายหุ้นทั้งหมด จะมีมูลค่าสองถึงสาม ร้อยล้านดอลลาร์ ถึงแม้เงินจำนวนนี้จะเทียบกับเหากรุ๊ปของ คุณเยไม่ได้ แต่ฉันก็ไม่รู้จริงๆว่าจะใช้เงินพวกนี้เพื่อซื้ออะไร

“บ้านที่ฉันพักอยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้แพงนัก ราคาของมันน่าจะมี มูลค่าหนึ่งล้านดอลลาร์ บ้านที่มีราคาแพงฉันก็ซื้อไหว แต่ฉันแค่ รู้สึกว่าถ้าซื้อบ้านแพงๆจะยุ่งยาก และมันก็ไม่มีความจำเป็น ขนาดนั้น”

“รถยนต์ที่ฉันขับก็คือเทสลา เป็นรถยนต์รุ่นที่ธรรมดาที่สุด ของรุ่นนั้น มันประหยัดคุ้มค่าและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เงิน ทั้งหมดที่ลงทุนไป ถ้าคิดเป็นเงินดอลลาร์ก็ประมาณหกหมื่น ดอลลาร์”
“ส่วนค่าใช้จ่ายทุกเดือนของฉัน ฉันใช้เงินแค่หลายพัน ดอลลาร์ก็พอแล้ว และเงินที่ใช้จ่ายตรงนี้ แค่เงินเดือนตอนนี้ของ ฉันก็เพียงพอแล้ว สำหรับเงินที่เหลือ ฉันก็ออมเงินเข้าไปในบัญชี ทำให้เงินสูญเสียการเคลื่อนไหว ถึงฉันจะหาเงินได้มากกว่านี้ ใน อนาคตก็คงต้องบริจาคให้การกุศลทั้งหมด ดังนั้น สำหรับฉัน ฉัน รู้สึกว่าตัวเองตั้งใจสอนหนังสืออยู่ตรงนี้จะดีกว่า”

เยเฉินถามอย่างประหลาดใจ “คุณไม่คิดจะทิ้งเงินก้อนใหญ่ไว้ ให้ลูกหลานบางเหรอ?

เฮ่อหย่วนเจียงพูดด้วยรอยยิ้ม “เรื่องนี้ฉันไม่เคยคิดเลย ลูกสาวของฉันอายุพอๆกับคุณ เธอมีชีวิตเหมือนๆกับฉัน เธอ หาเงินเก่งมากๆ แต่เธอไม่รู้จักวิธีการใช้เงิน และเธอก็ไม่มีแรง จูงใจในการใช้เงิน”

เมื่อเย่เฉินได้ยินเรื่องพวกนี้ เขารู้สึกลำบากใจมากๆ

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเฮ่อหย่วนเจียงไม่ใช่คนที่เห็นแก่เงิน เขา อยากจะสอนหนังสือและพัฒนาคนรุ่นใหม่ เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวเอง จะเอาอะไรไปดึงดูดเขา ทำให้เขายอมมาทำงานให้กับตัวเอง?

เย่เฉินครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก็คิดไม่ออกจริงๆว่าจะมีวิธีไหน

แต่บนผนังในห้องทำงานของเฮ่อหย่วนเจียงมีภาพวาดขาวดำ ดึงดูดความสนใจของเขาทันที

แต่ภาพวาดนั้นเป็นภาพวาดง่ายๆ ที่เป็นรูปทรงต้นไม้ เมื่อมอง ดูแรกๆแล้วไม่ได้มีความพิเศษอะไร และคนส่วนมากก็ไม่ สามารถบอกชนิดของต้นไม้นี้ได้จากการมองภาพวาด
แต่เยเฉันยังคงมองภาพวาดนี้ และพูดด้วยความสนใจ “ต๊อก เตอร์เฮ่อ ภาพวาดนี้ เป็นฝีมือของคุณ ใช่ไหม?

เฮ่อหย่วนเจียงถามด้วยความประหลาดใจ “คุณรู้ได้ยังไง?

เพราะฉันก็ไม่ได้ลงชื่อในภาพวาดนี้

เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม:”เพราะว่าฉันรู้จักต้นไม้ชนิดนี้ “อ้อ?”เฮ่อหย่วนเจียงรีบถามเขาทันที “ถ้าคุณรู้จักต้นไม้ชนิดนี้

คุณช่วยอธิบายต้นไม้ชนิดนี้หน่อย?

เย่เฉินพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม:”ด็อกเตอร์เฮ้อ ต้นไม้ที่ คุณวาดนี้ มันก็คือต้นเรดวูดของแคลิฟอร์เนียในอเมริกา”

เฮ่อหย่วนเจียงอึ้งไปชั่วครู่ และในเวลานี้เเฉินก็พูดอีกว่า “อัน ที่จริงภาพวาดของคุณ น่าจะมาจากโลโก้ของมหาวิทยาลัยส แตนฟอร์ด ถ้าฉันจำไม่ผิดละก็ ตรงกลางโลโก้ของมหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ดน่าจะเป็นต้นเรดวูด”

เฮ่อหย่วนเจียงถามด้วยความดีใจ “คุณเย่ จบจากมหาวิทยา ลัยสแตนฟอร์ดเหรอ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ