ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2018



บทที่ 2018

เย่เฉินนึกเรื่องบางอย่างออก ก็พูดกับนางาฮิโกะ อิโตะอีกว่า “ใช่แล้วคุณอิโตะ ผมยังจะรบกวนคุณ ช่วยผมอีกเรื่องหนึ่ง

นางาฮิโกะ อิโตะรีบพูดว่า: “คุณได้โปรดพูด”

เย่เฉินพูดว่า: “รองประธานบริษัทนิปปอนสตีที่เทียบท่ากับ หวั่นถิง ชื่ออะไรนะ? ฮาชิโมโตะ ชินอิจิใช่มั้ย?”

“ใช่” นางาฮิโกะ อิโตะพยักหน้า: “ก็คือฮาชิโมโตะ ชินอิจิ

เย่เฉินแสยะยิ้ม และพูดว่า “คุณส่งนินจาหลายคน ลักพาตัว เขาให้ผม แต่ว่าหลังจากที่ลักพาตัวแล้วไม่ต้องส่งมาที่นี่ ส่งตรง ไปที่ท่าเรือให้ผม ถึงเวลายัดเข้าไปในห้องโดยสารเรือ ผมจะพา ไอ้เดรัจฉานนี้ไปที่เมืองจินหลิง!!

นางาฮิโกะ อิโตะพูดโดยไม่ลังเลแม้แต่ว่า: “ได้ครับคุณเย่ ผม จะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”

แม้ว่าฮาชิโมโตะ ชินกิจจะเป็นผู้บริหารของบริษัทนิปปอนสตี ก็ถือว่าเป็นคนมีเกียรติมีชื่อเสียง แต่เขาเทียบกับตระกูลอิโตะขึ้น มา ยังห่างไกลอยู่มาก

ปกติอย่างมากเขาก็แค่พาคนขับรถหนึ่งคนและพาบอดี้การ์ด สองคน แต่นินจาชั้นยอดของประเทศญี่ปุ่นแบบนี้อยู่ เขาคงจะ จ้างไม่ไหวอย่างแน่นอน ดังนั้นส่งนินจาหลายคนไปลักพาตัวเขา ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายอย่างแน่นอน
นางาฮิโกะ อิโตะจัดเตรียมการทั้งสองเรื่องอย่างเป็นระบบ

เขาให้นินจาของบ้านตัวเองไปลักพาตัวฮาชิโมโตะ ชินอิจิ ใน เวลาเดียวกันตัวเองก็โทรหาวาตานาเบะ ชินอิจประธานของ บริษัทนิปปอนสตี เชิญเขามาพูดคุยที่บ้าน

แม้ว่าวาตานาเบะ ชินอิจิจะเป็นประธานของบริษัทนิปปอนสตี แต่ก็เคารพต่อนางาฮิโกะ อิโตะเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินเขาเรียก

ก็รีบขับรถไปในทันที

ยิ่งไปว่านั้นทั้งสองคนก็อาศัยอยู่ใกล้กันมาก ดังนั้นสิบนาทีต่อ มา เขาก็มาถึงในบ้านของนางาฮิโกะ อิโตะ

ทันทีที่วาตานาเบะ ชินอิจิเข้ามา ก็เจอกับนางาฮิโกะ อิโตะ และเร่งรีบเดินไปข้างหน้า แล้วพูดด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน เล็กน้อยว่า: “พี่อิโตะ ไม่ทราบว่าดึกขนาดเรียกหาผม มีเรื่อง อะไรที่จะสั่งการเหรอ?”

นางาฮิโกะ อิโตะยิ้มเล็กน้อย และพูดด้วยใบหน้าหยอกล้อว่า “ดึกขนาดนี้เรียกนายมา ไม่รบกวนโลกสองต่อสองของนายและ ภรรยาใช่มั้ย?”

วาตานาเบะ ชินอิจิยมอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อย สีหน้า ท่าทางก็ซึมเซาเล็กน้อย

แม้ว่าปีนี้วาตานาเบะ ชินอิจิอายุจะพอๆกันกับนางาฮิโกะ อิ โตะ สภาพร่างกายก็ดีกว่า แต่เรื่องระหว่างชายหญิงอย่างเดียว ค่อนข้างเป็นเรื่องในใจที่พูดยากมาก
เขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ ร่างกายก็ดีทุกด้าน แต่

สมรรถภาพทางด้านนั้นยิ่งอยู่ยิ่งแย่ เดิมที เขากับภรรยาอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์มีอะไรกันสามครั้ง

ขึ้นไป ถือได้ว่าทั้งสองคนยังลงรอยกันได้ แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ความต้องการและสมรรถภาพทาง

ด้านนั้นก็ลดลง

จากสามครั้งต่อหนึ่งอาทิตย์ ถึงอาทิตย์ละครั้ง สองอาทิตย์ หนึ่งครั้ง

ตอนนี้ เขาถึงสภาพขั้นที่ว่าหนึ่งเดือนก็ยากมากที่จะมีหนึ่งครั้ง

วาตานาเบะ ชินอิจิเคยไปโรงพยาบาลมากมายหลายแห่งและ หาผู้เชี่ยวชาญมากมาย แต่ผลตอบรับที่พวกเขาให้มาก็คือ สมรรถภาพทางด้านนี้ บางครั้งไม่เกี่ยวข้องกับสภาพโดยรวม ของร่างกาย

บางคนสภาพแข็งแรงดีมาก ถึงขนาดเรียกได้ว่าแข็งแกร่ง แต่ ทางด้านนี้ไม่ได้เรื่อง

แต่บางคนทั้งที่ดูท่าทางเหมือนอ่อนปวกเปียก แต่ทางด้านนั้น ดันแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ

คุณสมบัติทางร่างกาย กับสมรรถภาพทางด้านนั้น ไม่สามารถ เทียบเท่ากันได้

ยิ่งไปกว่านั้น สมรรถภาพทางด้านนั้นก็ลำบากมากในการ รักษา บ้างก็เสื่อมทางสรีรวิทยา บ้างก็เสื่อมทางระบบประสาทและยังมีบ้างก็เสื่อมทางจิตใจ

สรุปได้ว่า ถ้าหากทางด้านนั้นเกิดมีปัญหา ต่อให้มีเงินมากแค่ ไหน ก็ไม่สามารถรักษาหายได้

ด้วยเหตุนี้ วาตานาเบะ ชินอิจิจึงปวดกบาลกับเรื่องนี้เท่านั้น แต่ว่าเรื่องนี้เขาก็รู้สึกละอายใจที่จะบอกกับคนอื่น ดังนั้นนางา โกะ อิโตะจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

แต่ทว่า เย่เฉินกลับมองออกว่าสีหน้าท่าทางของวาตานาเบะ ชินอิจิเศร้าโศกเล็กน้อย ก็มองสีหน้าของเขาอย่าละเอียด ประมาณพอที่จะรู้สถานการณ์ทุกอย่างแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ