ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1763



บทที่ 1763

เครื่องบินที่เย่เฉินนั่งโดยสาร ลงจอดที่สนามบินจีนหลังอย่าง ปลอดภัยในเวลาสี่ทุ่มกว่าๆ

เพื่อเป็นการเซอร์ไพรสเซียวซูหน เยเฉันจึงไม่ได้บอกว่าคืนนี้ เขาจะกลับมา

เฉินจือข่ายเตรียมรถมารับที่สนามบินไว้รอแล้ว ดังนั้นเมื่อทุก คนลงมาจากเครื่อง ก็แยกย้ายกันไปขึ้นรถ กลับบ้านใครบ้าน มัน

หงห้ากับเว่ยเลี่ยงแยกกันคนละทาง ส่วนเฉินจือข่ายเสนอตัว ขับรถไปส่งเเฉินที่Tomson Riviera และเย่เฉินก็ไม่ได้ปฏิเสธ อะไร

หลังจากขึ้นมาบนรถ เฉินจือข่ายขับรถไปพลาง พูดยิ้มๆกับเย่ เฉินไปพลาง “คุณชาย ครั้งนี้เราขุดหลุมดักตระกูลซูไว้ซะสาหัส ถ้าหากตระกูลซูรู้เข้า คงหาทางกลับอย่างเอาเป็นเอาตายแน่ เลย….”

“ช่างสิ” เย่เฉินพูดยิ้มๆ “ตอนนี้ตระกูลซูแม้แต่ตัวเองยังพึ่งพา ไม่ได้ สูญเสียคนไปเยอะขนาดนั้น สองสามปีนี้คงสถานการณ์ กลับมาไม่ได้หรอก ขนาดตัวเองยังเอาไม่รอดเลย”

“นั่นสินะ…” เฉินจือข่ายพูดออกมาอย่างปลงๆว่า “ขนาดซูรั่ว หลีที่แค่เอ่ยพูดถึงผู้คนก็หน้าเปลี่ยนสีแล้ว ยังถูกคุณหลอกให้ติดกับเลย ครั้งนี้ตระกูลเสียหายหนักหนามากจริงๆ

“ซูรั่วหลี?” เย่เฉินขมวดคิ้วถาม “ใครคือซูรั่วหลี?”

เฉินจื้อข่ายเอ่ยพูด “ก็ผู้หญิงที่ทักทายกับคุณตอนที่อยู่บน เครื่องบินไง นั่นแหละซูรั่วหลี หนึ่งในยอดฝีมือที่มีความ สามารถเก่งกาจมากที่สุดของตระกูลซู”

“หืม?” เย่เฉินเอ่ยถามอย่างสงสัย “เธอคือลูกหลานตระกูล เหรอ?”

“ไม่น่าใช่ครับ” เฉินจือข่ายเอ่ยขึ้น “แค่บังเอิญนามสกุล เฉยๆ เธอรับใช้ตระกูลซูตอนอายุสิบแปด จนถึงตอนนี้ก็เพิ่ง สามปีเอง แต่ว่าในสามปีนี้ ผลงานที่สร้างไม่ใช่เล็กๆเลย ความสามารถแบบนี้ไม่ควรมองข้ามจริงๆ

เยเฉินพยักหน้าเบาๆ พูดกล้วยิ้มว่า “น่าเสียดาย ที่ไม่มี

โอกาสได้ประลองกับเธอ”

เฉินจือข่ายหัวเราะฮ่าๆ “คุณชาย เธอก็แค่ยอดฝีมือที่เป็นแค่ คนธรรมดาเท่านั้น จะมาเทียบกับคุณได้ยังไง แค่คุณทองยันต์ ฟ้าร้อง ยัยเด็กซูรั่วหลีนั่นคงหลอมเป็นขี้เถ้าไปแล้ว!”

เย่เฉินเอ่ยพูดเรียบนิ่งว่า “ยันต์ฟ้าร้อง เอามาใช้บ่อยๆไม่ได้ ในอนาคตถ้ามีโอกาส ก็หวังว่าจะได้ประลองกับยอดฝีมือนักต่อ สู้จริงๆเสียที”

เฉินจือข่ายเอ่ยพูดว่า “ทั่วทั้งประเทศนี้นักสู้ฝีมือดีๆส่วนใหญ่ จะอยู่ที่เมืองเป็นจิง ส่วนหนึ่งคอยรับใช้รัฐบาล ส่วนที่เหลือก็คอยรับใช้ตระกูลชนชั้นสูง

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย “ถ้ามีโอกาส คงต้องลองไปเดินเล่นที่เมือง เย่นจิงดูซะแล้ว”

ขณะที่พูด จู่ๆ โทรศัพท์ของเฉินจือข่ายก็ส่งเสียงดังขึ้นมา

โทรศัพท์ของเขาวางอยู่บนที่ยึดโทรศัพท์ตลอด เมื่อก้มหน้า มอง ก็อุทานออกมาอย่างตกใจ “คุณชาย อาของคุณโทรมา

“อาของฉัน?” เย่เฉินขมวดคิ้ว ในหัวมีภาพของผู้หญิงคนหนึ่ง ปรากฏขึ้นมา

เขาพอจะจ่คุณอาได้ เฉางหมิ่นอ่อนกว่าพ่อเขาสองปี เมื่อ

ก่อนไม่ได้สนิทกับคุณพ่อเท่าไหร่นัก ทั้งบ้านมีกันสามคนแต่ก็ใช่

ว่าจะสนิทกันขนาดนั้น

ในความทรงจำของเขา คุณอาเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเลือก ปฏิบัติ เพราะคิดว่าคุณลุงคือพี่ชายคนโต ดังนั้นคุณอาจึงเลือก ตีสนิทกับคุณลุงมาตั้งแต่เด็กๆ

อีกอย่าง เนื่องจากว่าคุณพ่อกับคุณอาไม่ค่อยถูกกัน ดังนั้น คุณอาเลยยืนอยู่ฝ่ายเดียวกันกับคุณลุง เมื่อก่อนมักจะคิดหาวิธี ช่วยคุณลุงปอกลอกคุณพ่อ นี่คือจุดที่ทำให้เขาไม่ค่อยชอบหน้า อาหญิงคนนี้

ในตอนนี้เฉินจือข่ายเริ่มเลิ่กลั่ก เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ผมไม่เคย ติดต่ออาของคุณมาก่อนเลยนะ ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆถึงโทรมาหาผมได้ ขออนุญาตรับสายนะครับ”

“ได้สิ” เย่เฉินเอ่ยสั่ง “อย่าหลุดพูดข้อมูลที่เกี่ยวกับฉันออกไป เด็ดขาด

“ได้ครับ คุณชาย!”

เฉินจือข่ายพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปกดรับสาย

ทันทีที่รับสาย เขาก็เอ่ยพูดอย่างนอบน้อมว่า “สวัสดีครับคุณ หญิง!”

เฉินจือข่ายเป็นคนรับใช้ของตระกูลเย เวลาลูกน้องเรียกเจ้า นาย นอกจากคุณท่านที่ต้องเรียกว่าคุณท่านแล้ว ก็ต้องเรียกเ ฉางโค้ง เฉางอิง รวมไปถึงเยฉางหมิ่นว่าคุณชายกับคุณหญิง ด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ