ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1586



บทที่ 1586

เป็นเพราะอายุยังน้อย อีกทั้งยังเป็นที่โปรดปรานในบ้าน ดัง นั้นจ่อหยวนจึงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการแสดง

อย่างไรก็ตาม แต่ไหนแต่ไรเขาล้วนเคยแค่แสดงออกต่อหน้า พ่อแม่ของตนเท่านั้น ไม่มีโอกาสได้แสดงความคิดของตนต่อ หน้าของเขา ในที่สุดวันนี้โอกาสก็มาถึง เขาคิดอยากจะอาศัย ความคิดของคุณท่านใหญ่มาถกเถียงกับเขา เพื่อจะได้แสดง ความสามารถและสติปัญญาที่ไม่ธรรมดาของตน แต่กลับคิดไม่ ถึงเลยว่า แค่เพียงประโยคเดียว กลับทำให้คุณท่านใหญ่ซูโกรธ ขึ้นมา

ขณะที่เขาคิดจะเอ่ยปากอธิบาย แต่กลับไม่คาดคิดว่า พ่อของ เขา ซูโสซิ่นจะลุกยืนขึ้นและโค้งคำนับซ้ายขวา จากนั้นจึงตบ ปากของเขาอย่างแรงหลายครั้งจนมุมปากเต็มไปด้วยเลือด และ ตะคอกขึ้นมาอย่างโกรธเคือง “แกร่ำเรียนจนลงท้องสุนัขไปหมด แล้วหรือไง? ถึงได้กล้าตั้งคำถามถึงการตัดสินใจของคุณปู่ของ แกที่นี่?!”

“ผม…” ซูจือหยวนปิดหน้า รู้สึกน้อยใจจนแทบอยากจะตายไป ตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด

เขาโตมาขนาดนี้ไม่เคยโดนทุบตีมาก่อน เขาไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมหลังจากประโยคนั้นทำให้โกรธ พ่อที่แต่ไหนแต่ไรรักใคร่ ตามใจเขามาโดยตลอดกลับตบตีเขาอย่างเอาเป็นเอาตายที่นี่
อีกทั้งยังเป็นต่อหน้าทุกคนในตระกูล

ซูโสวซิ่น ในตอนนี้กลับเกลียดลูกชายของเขาที่ไม่เอาไหนจน

แทบบ้า!

เขารู้ดีถึงอำนาจของคุณท่านใหญ่ แม้แต่พี่ชายคนโตของเขา ชูโสเต้า ก็ยังไม่กล้าโต้แย้งคุณท่านใหญ่แม้แต่ครึ่งคำ แล้วนับ ประสาอะไรกับลูกชายตัวน้อยที่ไร้ประโยชน์ของเขา

อยากโดดเด่นก็ต้องไม่ใช่โดดเด่นแบบนี้

เป็นไปได้มากที่คำพูดของเขาจะทำให้ถูกคุณท่านใหญ่เพิก เฉย ใส่ในอนาคต หลังจากจบการศึกษาจากวิทยาลัย เขาอาจจะ ไม่มีโอกาสได้กลับไปทำงานที่ตระกูลด้วยซ้ำ

เหตุผลที่คุณท่านใหญ่ซู ซูเฉิงเฟิงมีอำนาจครอบงำได้ขนาดนี้ เหตุผลเกี่ยวข้องอย่างมากกับประสบการณ์การเติบโตของเขา

เมื่อเขายังเด็ก เขามีพี่น้องหลายคน

สมัยนั้นยังเป็นยุคสมัยของราชวงศ์ชิง พ่อของเขาไม่เพียงมี แค่มีภรรยาหลวงเท่านั้น แต่ยังมีอนุภรรยากว่าหกคน และ ภรรยาอีกเจ็ดคนด้วย เขาให้กำเนิดบุตรมากกว่า 30 คน และใน นั้นเป็นลูกชายมากถึง 23 คน

และซูเฉิงเฟิง ก็เป็นเพียงหนึ่งในลูกชาย 23 คนนั้น

เฉกเช่นเดียวกับบุตรชายของจักรพรรดิในสมัยโบราณ ซู เฉิงเฟิงเองก็ต่อสู้ทั้งอย่างเปิดเผยและลับๆ กับพี่น้องทั้ง 2 คน มาตั้งแต่วัยเด็ก เขาต่อสู้มา 50 ปี ในที่สุดถึงได้สืบทอดตำแหน่งผู้นําตระกูลซู

ดังนั้น หลังจาก 50 ปีแห่งการต่อสู้อย่างไม่หยุดหย่อน ทำให้

นิสัยของเขากลายเป็นคนวางอำนาจและโหดร้ายอย่างยิ่ง หากมีใครมาคุกคามความน่าเกรงขามของเขา ต่อให้เป็นลูก แท้ๆ หลานแท้ๆ เขาก็ไม่มีวันยอมทนเป็นอันขาด

ซูจือหยวนยังเด็กและโง่เขลา อีกทั้งยังเป็นอัจฉริยะ เขากล้าที่ จะขัดแย้งกับคุณท่านใหญ่ เพื่อให้ตนเองมีตัวตนขึ้นมา การกระ ท่านี้ในสายตาของทุกคนไม่ต่างจากการรนหาที่ตาย

ซูโลว์ซิ่นตบซูจือหยวนไปหลายสิบครั้ง จนเขาแทบจะไม่ สามารถยืนได้อย่างมั่นคงและเป็นลมได้ คุณท่านใหญ่ ถึงค่อย แค่นเสียงออกมาอย่างเย็นชาและพูดว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องตบแล้ว ให้คนพาเขาออกไป พวกเราประชุมกันต่อ!”

ซูโสวซินตบจนใจเขาเองก็หลั่งเลือดไปนานแล้ว แต่ว่าคุณ ท่านใหญ่ไม่เอ่ยปาก เขาก็ไม่กล้าหยุดมือ

เมื่อเห็นว่าในที่สุดคุณท่านใหญ่ก็เอ่ยขึ้น เขาจึงเก็บมือ พยายามกดความเจ็บปวดในใจ และด่าคนรับใช้ที่ยืนอยู่ข้างเขา ว่า “ยังไม่รับไปพาไอ้ลูกไม่รักดีนออกไปให้ฉันอีก!”

คนรับใช้หลายคนเดินออกมาทันทีและลากซูจือหยวนที่ อาเจียนเป็นเลือด มีนหัวและหูอื้อออกไป

คุณท่าน ใหญ่กระแอมและเอ่ยต่อ “ความร่วมมือกับญี่ปุ่นครั้ง นี้ไม่เพียงแต่ต้องได้ท่าเรือโตเกียว แต่จะต้องได้ครอบครองสิทธิ์ในการดาเนินงานของท่าเรือโยโกฮามาและท่าเรือโอซาก้าไม่ น้อยกว่า 20% และจะต้องให้พวกเขาจัดหาเครื่องบินขนส่งสินค้า และเรือบรรทุกน้ำมันต่างๆ อย่างน้อย ที่มีความจุไม่น้อยกว่า 3 ล้านตัน ใครสามารถจัดหาทรัพยากรได้มากที่สุดก็จะมีโอกาสได้ เป็นหนึ่งในพวกเรา ดังนั้น การไปญี่ปุ่นครั้งนี้ จะต้องศึกษาความ แข็งแกร่งที่แท้จริงของตระกูลอิโตะและตระกูลเคอิจิให้ดี นอกจากนี้ พวกเราจะต้องบังคับให้พวกเขานาทรัพยากรออกมา ให้มากที่สุด!

ลูกชายคนโตซูโสว่เต้าโพล่งออกมา “คุณพ่อ ไม่ทราบว่าครั้ง นี้คุณคิดจะให้ใครไปร่วมมือกับสองตระกูลญี่ปุ่นนี้ครับ?”

นายท่านใหญ่ซูเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “จือเฟย นายเป็น หลานชายคนโต ได้เวลาออกหน้าคนเดียวแล้ว เรื่องครั้งนี้ ให้ นายเป็นผู้นำในการจัดการ

ซูจือเฟยเป็นหลานชายคนโตของคุณท่าน ใหญ่ซู และลูกชาย

คนโตของซูโหว่เต้า ปีนี้อายุ28ปี เป็นหลานชายที่โดดเด่นที่สุด

ของตระกูลช

ทันทีที่ได้ยินว่าตนได้รับเลือก ซูจือเฟยก็ลุกขึ้นยืนทันทีและพูด อย่างหนักแน่นว่า “คุณโปรดวางใจ จือเฟยจะทุ่มเทอย่างสุด แรง!”

คุณท่านใหญ่ซูพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นสายตาของเขาก็ตกไป ที่หญิงสาวหน้าตางดงามและเยือกเย็นที่กำลังยืนอยู่ข้างๆ อเฟย
ในเวลานี้เองที่ดวงตาของคุณท่านใหญ่ไม่แข็งกระด้างอีกต่อ ไป แต่กลับแทนที่ด้วยความเอ็นดูขึ้นมาหลายส่วน เขาเอ่ยยิ้มๆ “จอหยู เธอใกล้จะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเยลแล้ว และก็ สมควรแก่เวลาออกไปฝึกฝนแล้ว ครั้งนี้เธอตามพี่ชายเธอไปด้วย เถอะ เรียนรู้เปิดหูเปิดตาให้มากๆ สะสมประสบการณ์

หญิงสาวที่ทั้งงดงามและเยือกเย็นคนนั้นลุกยืนขึ้นและโค้ง ค่านับเล็กน้อย สีหน้าของเธอดูไม่ร้อนไม่หนาว นัยน์ตาเรียบเฉย น้ำเสียงเอยขึ้นอย่างไม่ดังไม่เบา “คุณปู่ คือหยูทราบแล้ว”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ