ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1050



บทที่ 1050

เว่ยเลี่ยงก็หนาวจนจมูกแดง ตอนที่ทั้ง4คนเพิ่งมาถึงที่นี่นั้น เนื่องจากเย่เฉินกังวลว่าจะเปิดเผยจุดประสงค์ ก็เลยให้ เฮลิคอปเตอร์บินออกไปก่อน ไม่เช่นนั้นล่ะก็ ก็ยังได้นั่งอยู่ใน เครื่องบินอีกสักหน่อย อย่างน้อยยังได้หลบลมหนาวของภูเขา ฉางไป

ก็รอไปอีก10กว่านาที เเฉินก็เห็นแสงไฟดวงของรถยนต์ ที่ ส่องมาจากเส้นทางบนภูเขา

เฉินจือข่ายก็เห็นแสงไฟเช่นกัน แล้วก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “คุณชายครับ พวกมันน่าจะมากันแล้ว! ”

เย่เฉินก็พยักหน้า แล้วยิ้มพูดว่า “รอพวกมันมานานแล้ว รอจน

จะหลับอยู่แล้วเนี่ย”

หงห้าก็รีบหยิบปืนออกมาจากเอว แล้วกัดฟันพูดว่า “แม่งเอ้ย วันนี้กูจะดูสิว่าไอ้ราชาทั้งแปด มันจะแน่สักแค่ไหนเชียววะ! ”

เย่เฉินก็พูดนิ่งๆ ว่า “หงห้า เก็บปืนไปเถอะ ปืนทำอะไรพวกมัน ไม่ได้หรอก”

หงห้าก็อึ้งไปเลย แต่ไม่นานก็เข้าใจขึ้นมาได้

ก่อนหน้านี้ เขาเคยเห็นพลังของในวงการชวนชวนมาบ้าง รวม ทั้งเย่เฉินเอง ที่สามารถเรียกสายฟ้ามาได้ ถ้าเป็นนักต่อสู้ที่ฝึก วิชาจนล้ำลึก จะสามารถหยุดลูกกระสุนปืนได้ ก็ไม่เป็นเรื่องที่น่าแปลก

ในตอนนี้เงินจือข่ายก็ถามว่า “คุณชายครับ เดี๋ยวเราจะเอา อย่างไรกันดี? ถ้ามีอะไรให้พวกเราช่วยได้ ก็บอกมาเลยครับ”

เย่เฉินก็ยิ้มเบาๆ พูดว่า “พวกคุณไม่ต้องช่วยอะไรเลย ดูอยู่ ข้างหลังผมก็พอ”

หงห้ารีบพูดว่า “คุณชายครับ ผมว่าคุณเรียกสายฟ้า มาผ่า พวกมันให้เป็นจุณเลย ดีไหมครับ เหมือนกับจิ้งให้เลย

เย่เฉินยิ้มพูดว่า “ถ้าจะให้เอาสายฟ้ามาฟาดใส่คน ผมรู้สึก เบื่อแล้วล่ะ ในเมื่อคนที่มาวันนี้ เป็นนักต่อสู้ งั้นก็ใช้ฝีมือล้วนๆ ไปประมือกันเสียหน่อยดีกว่า”

เฉินจือข่ายไม่เคยเห็นเเฉินใช้สายฟ้าฟาด ใส่จิ้งไห่ แต่เขา ได้ยินมาบ้างเหมือนกัน

แต่ว่าเขาคิดมาตลอดว่า น่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า เพราะ ว่าในความทรงจําของเขา ยังไม่เคยเห็นใครเรียกสายฟ้ามาได้ เลย

ถึงแม้ตระกูลเย่จะรู้จักคนในวงการชวนชวนไม่น้อย แต่ก็ยังไม่ เคยได้ยินว่าใครมีความสามารถขนาดนี้

ในตอนนี้ เห็นรถสองคันกำลังขับขึ้นเส้นทางบนภูเขาที่คิด เคี้ยวมาเรื่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เย่เฉินก็เริ่มเดินเข้าไปยังกลาง ถนนเองก่อนเลย เดินมุ่งหน้าลงเขาไป

3คนที่เหลือก็มองหน้ากัน แล้วก็รีบตามไป
ฟานหลินยวนนั่งอยู่ในรถ ก็เริ่มจะง่วงเหงาหาวนอนแล้ว แต่ ศิษย์น้องที่ขับรถอยู่ ก็ดูGPS แล้วพูดกับเขาว่า “ศิษย์พี่ครับ พวก เราใกล้ถึงแล้ว”

ฟานหลินยวนก็รีบถามว่า “อีกไกลแค่ไหน? ”

อีกฝั่งตอบว่า “GPSบอกว่า เหลืออีก5กิโลเมตรครับ”

ฟานหลินยวนก็บิดขี้เกียจ แล้วพูดบ่นๆ ว่า “จะถึงสักที ให้ทุก คนตั้งสติกันเข้าไว้ ต่อให้ศัตรูจะอ่อนแอ แต่เราจะวางใจไม่ได้ เด็ดขาด

ศิษย์น้องของเขาคนหนึ่ง ก็หยิบวอล์ขึ้นมา แล้วพูดว่า “ทุกคน ตั้งสติเข้าไว้ พวกเราจะถึงแล้ว!

คนในรถคันหลัง ก็ตอบกลับมาว่า “รีบทราบ พวกเราเริ่ม

อบอุ่นร่างกายกันแล้ว ”

รถขับต่อไป ตอนที่กำลังจะเข้าโค้งนั้น คนขับรถเห็นแสงไฟ แยงตาเข้ามา กลางถนนมีคนยืนอยู่คนหนึ่ง

คนขับรถข้างๆ ฟานหลินยวน ก็พูดอย่างใจว่า “เห้ย ผีหรือคนวะน่ะ? ! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ