ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่1492



บทที่1492

ต่งรั่งหลินดีใจเป็นอย่างยิ่ง เอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณ มากนะ เย่เฉิน!”

เย่เฉินรีบกล่าวว่า “รอเดี๋ยวก่อน ผมไม่ให้เขากลืนอัญมณีลง ไปนะได้ แต่เขายังคงต้องได้รับโทษอย่างอื่น ไม่อย่างนั้นผมกลัว ว่าเขาจะจดจำได้ไม่นาน

ต่งรั่งหลินถามอย่างร้อนใจว่า “เย่เฉิน คุณคิดจะให้เขารับ

โทษอะไรคะ? คงจะไม่หนักหนากว่ากลืนอัญมณีหรอกนะ?”

“ไม่หรอก” เย่เฉินยิ้มบางๆ พลางเอ่ยว่า “เรื่องนี้คุณวางใจ การลงโทษของผมสำหรับเขาแล้ว ถือเป็นเรื่องดี”

เช่นนี้ต่งรั่งหลินถึงค่อยวางใจลงได้ เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ารักใคร่ ว่า “เย่เฉิน ขอบใจนะ คุณยกโทษให้พี่ชายฉันเพื่อฉัน อย่างนั้นก็ ให้โอกาสฉันสักครั้ง ให้ฉันได้ตอบแทนคุณบ้างเถอะ…

เย่เฉินถามด้วยความแปลกใจ “คุณคิดจะตอบแทนผมยังไง?”

ต่งรั่งหลินจง ใจกะพริบตาแล้วยิ้ม “แน่นอนว่าพลีกาย ตอบแทน จากนั้นก็จะคลอดลูกชายตัวอ้วนๆ ให้คุณคนหนึ่ง คุณ คิดว่ายังไงคะ?”

เย่เฉินกล่าวอย่างเคร่งขรึมจริงจังว่า “ต่อไปอย่าพูดจาแบบนี้ อีก ผมเป็นสามีเพื่อนสนิทคุณนะ!”
ต่งตั่งหลินพยักหน้า พลางกล่าวขึ้นอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ พวกคุณสองคนก็แค่แต่งงานกันหลอกๆ ไม่ได้แต่งงานกันจริงๆ สักหน่อย อันที่จริงสำหรับพวกคุณสองคนแล้ว การแก้ปัญหาที่ดี ที่สุดต่อเรื่องนี้ก็คือต่างฝ่ายต่างให้อิสระกันและกัน

เยเฉินสายศีรษะอย่างจนปัญญา แล้วกล่าวขึ้นว่า “ผมไม่พูด เรื่องนี้กับคุณแล้ว พูดไปก็เหมือนสีซอให้ควายฟัง

กล่าวจบ เขาก็หมุนตัวกลับไปยังผู้คน

ทุกคนเห็นเขากลับมา ก็รีบร้อนแหวกทางให้อย่างรู้งาน

ขงเต๋อหลงคุกเข่าอยู่บนพื้น รอคอยการตัดสินจากเย่เฉิน

เย่เฉินกล่าวเสียงเรียบว่า “ขงเต๋อหลง เห็นแก่ที่นายเป็นญาติ ผู้พี่ของรั่งหลิน เรื่องในครั้งนี้ ฉันจะให้โอกาสนายสักครั้งก็ได้ แต่ต้องดูว่านายจะสามารถคว้ามันไว้ได้ไหม”

พอขงเต๋อหลงได้ยินเช่นนี้ ก็พูดติดๆ กันด้วยความเศร้าสลด ทันทีว่า “คุณเย่ ขอบคุณในความกรุณาของคุณ คุณวางใจ ผมจะ ต้องคว้ามันไว้อย่างดี ไม่อวดเบ่งไปทั่วอีก!”

เย่เฉินกล่าวว่า “แค่พูดไม่มีประโยชน์ หนนี้ฉันไม่ให้นายกลืน ก้อนหยกได้ แต่นายต้องใช้การกระทำมาพิสูจน์ว่านายกลับตัว กลับใจแล้วจริงๆ!”

ขงเต๋อหลงพยักหน้าราวกับทุบกระเทียม “คุณเยคุณมีอะไร อยากจะสั่งก็สั่งมาได้เลย ผมจะต้องทำมันได้แน่!”

เย่เฉินมองตงรั่งหลินแวบหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “รั่งหลินอยู่จินหญิงคนเดียวลำบากมาก เอาอย่างนี้แล้วกัน นายน่ะ ไปเป็นคน ขับรถให้รั่งหลินที่จีนหลิงเป็นเวลาหนึ่งปี ปีนี้ต้องนายต้องทำตัว ดีๆ อยู่ที่จินหลิง หากกล้าหนีหรือกล้างาน หรือกล้าทำตัวอวด เบ่งอยู่ที่จินหลิงอีก ฉันจะเอาอิฐก้อนหนึ่งกรอกปากนายด้วยตัว เอง!”

พอขงเต๋อหลงได้ยินเช่นนี้ ในใจก็ชื่นชมหาใดเปรียบ การใช้ชีวิตในเย่นจึงเต็มไปด้วยความกระชุ่มกระชวย สถานที่ เล็กๆ อย่างจินหลิงนั่นจะเข้าตาตัวเองได้ที่ไหนกัน?

อีกทั้งยังให้ตนเองไปเป็นคนขับรถให้ญาติผู้น้องที่นั่นตั้งหนึ่งปี นั่นเท่ากับเป็นการอยู่ใต้สายตาของเเฉิน หากตนเองไปจริงๆ ปี นี้เกรงว่าแม้แต่จะอวดเบ่งไม่ได้แล้ว สาวก็คงไม่ได้แตะ

แต่พอคิดว่าหากตนเองไม่รับปาก ก็ต้องกลืนก้อนหยกลงไป ยิ่งไปกว่านั้นเหว่ยเลี่ยงก็ไม่มีทางปล่อยตัวเองไปแน่ เขาจึงได้ แต่กัดฟันรับปากว่า “คุณเข่ผู้แสนดี ผมต้องทำตามที่คุณสั่ง แน่นอน…

เย่เฉินพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “เอาล่ะ ฉันเห็นว่า นายกินข้าวมื้อนี้เสร็จก็เตรียมตัวเดินทางได้เลย การเดินทางบน เส้นทางนี้ยังอีกยาวไกลอย่างน้อยก็ต้องทรมานไปอีกสิบกว่าวัน

“หา?” ขงเต๋อหลงถามอย่างประหลาดใจ “คุณเย่ จากเย่นจิง ถึงจินหลิง นั่งเครื่องบินแค่สองชั่วโมงเองนะ…

“นั่งเครื่องบิน?” เย่เฉินกล่าวขึ้นอย่างเหยียดหยามว่า “อย่าง นายเนี่ยนะ ยังคู่ควรจะนั่งเครื่องบินอีกเหรอ? นายจงปั่นจักรยานไปให้ฉัน อนุญาตให้แค่กางเต้นท์นอนตามทางเท่านั้น ห้ามพัก โรงแรม ในระหว่างนั้นหากกล้านั่งยานพาหนะอย่างอื่น ฉันจะดี ขานายให้หัก!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ