ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2274



บทที่ 2274

ก่อนหน้านี้พ่อกับแม่มองหาผู้ชายที่เหมาะสมอยู่บ้าง ให้เธอไม่ น้อย หวังเฉินหยวนถึงขั้นคิดจะเอาลูกศิษย์อวดดีในตอนนั้นของ ตนคนหนึ่งมาแนะนำให้กับเธอ แต่โอกาสที่เธอจะได้พบหน้าทาน ข้าวสักมื้อกลับไม่มีให้อีกฝ่าย

เวลานี้หวังตงเสงี่ยนพบว่ามารดาดูมีภาพจำต่อเยเงินดีมาก เป็นพิเศษ ตอนนี้ต้องการรั้งให้เยเฉินอยู่ จะต้องอยากสอบถาม ข้อมูลบางอย่างจากเย่เฉิน อาจถึงขั้นที่ว่าคิดจะลองหยั่งเชิง ความสัมพันธ์ของตนกับเขาอีกด้วย แล้วถือโอกาสจับคู่ให้เสีย เลย

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงรีบร้อนเอ่ยปากกล่าวว่า “แม่คะ…เยเฉันยัง หนุ่ม วัยแตกต่างกับพวกแม่ คุยด้วยกันไม่ได้หรอกค่ะ อย่าสร้าง ความลำบากให้คนอื่นเขาจะดีกว่า!

ซุนยูฟางรีบร้อนกล่าวว่า “ดูแกพูดสิ แม้ว่าแม่กับพ่อแกจะอายุ เยอะอยู่บ้าง แต่เรื่องของคนวัยหนุ่มสาวพวกเราเข้าใจดีอย่าง มากเชียวล่ะ”

เวลานี้เย่เฉินจึงยิ้มแล้วกล่าวว่า “ไม่เป็นไร ตงเสงี่ยน เธอไป ซื้อของก่อนเถอะ อย่าทำให้เวลาทานข้าวของคุณลุงล่าช้า ฉันจะ อยู่คุยเป็นเพื่อนคุณลุงคุณน้าสักพัก

ในใจหวังตงเสงี่ยนลำบากใจอย่างยิ่ง เธอเกิดกลัวว่ามารดา จะพูดเหลวไหลหรือถามส่งเดชต่อหน้าเเฉิน แต่เย่เฉินก็พูดเองแล้วว่าต้องการอยู่เป็นเพื่อนพ่อกับแม่ ตนก็ไร้หนทางจะดึงดันต่อ ไปเช่นกัน

ภายใต้ความจนปัญญา เธอจึงได้แต่กล่าวกับเเฉินว่า “งั้นก็ รบกวนคุณอยู่เป็นเพื่อนพ่อกับแม่ฉันที่นี่แล้ว ฉันไปเดี๋ยวเดียวก็ กลับ”

พูดเสร็จ เธอก็นึกอะไรออก รีบร้อนถามอีกว่า “สายป่านนี้แล้ว คุณรีบกลับบ้านไหม? คงไม่ทำให้คุณเสียเวลาหรอกนะ?”

เย่เฉิน โบกมือ “ไม่เป็นไร เธอรีบไปเถอะ

หวังตงเสงี่ยนได้แต่พยักหน้า “งั้นฉันไปก่อนนะ”

กล่าวจบ ก็กําชับซุนยูฟางผู้เป็นมารดาอีกว่า “แม่คะ แม่อย่า เที่ยวคุยอะไรไร้สาระกับเย่เฉินเชียวนะ หนูจะรีบกลับมา ซุนยูฟางโบกมือพลางกล่าวว่า “โธ่เอ๊ย แกวางใจได้ แม่จะคุย

อะไรไร้สาระกับคนอื่นเขาได้เหรอ? ก็แค่คุยเรื่อยเปื่อยสองสาม

ค่าเท่านั้น แกก็อย่ากังวลนักเลย รีบไปเร็วเข้าเถอะ!”

หวังตงเสงี่ยนจนปัญญา ได้แต่ออกไปจากห้องคนไข้อย่างไม่ สบายใจ

หวังตงเสงี่ยนเพิ่งจะเดินออกไป ซุนยูฟางก็อมยิ้มมองเยู่เฉิน แล้วถามว่า “คุณเย่ ปีนี้คุณอายุเท่าไหร่แล้ว?”

ภาพจำที่ซุนยูฟางมีต่อเย่เฉินดีมากเป็นพิเศษ

ไม่เพียงเพราะเย่เฉินช่วยเหลือครอบครัวตนครั้งใหญ่ โดยช่วยชีวิตสามีตน ยังเป็นเพราะรูปโฉมภายนอกของเขาดูภูมิฐาน มีความสามารถ ดูเหมาะสมกันดีกับหวังตงเสงี่ยนลูกสาวตน ราวกับกิ่งทองใบหยก ช่างเหมาะจะเลือกเป็นลูกเขยโดยแท้

เยเฉันไหนเลยจะรู้ว่าซุนยูฟางกำลังคิดอะไร เห็นเธอเอ่ยปาก ถามคำถาม ก็รีบร้อนยิ้มแล้วตอบว่า “คุณน้าไม่ต้องเกรงใจ ขนาดนั้นครับ เรียกผมว่าเเฉินหรือเสี่ยวเยก็ได้ ผมใกล้ จะ27แล้ว”

ซุนฟางพยักหน้า ยิ้มกล่าวว่า “งั้นน้าก็ไม่เกรงใจแล้วกัน”

พูดเสร็จ ซุนยูฟางก็ถามอีกว่า “เสี่ยวเย่ เธอทำงานอะไรจ๊ะ?”

“ผม… เย่เฉินยังถูกซุนยูฟางถามคำถามอยู่อีกชั่วครู่

“นี่จะนับเป็นการทำงานได้ไหมนะ? ก่อนหน้านี้เป็นพ่อบ้านเต็ม ตัว มีหน้าที่ทำงานบ้านโดยเฉพาะ แต่ตอนนี้งานบ้านหม่าหลัน รับช่วงต่อไปแล้ว…

“แต่ตอนนี้เธอขาหัก จะมากจะน้อยผมยังต้องช่วยเหลืออยู่ บ้าง….

“แต่ว่ากันถึงที่สุดแล้ว ตอนนี้ผมก็หลุดพ้นจากสถานะพ่อบ้าน เต็มตัวแล้ว ดังนั้นผมในตอนนี้จึงนับว่าทำอาชีพอะไรดีล่ะ? บริษัทเอกชน?”

“อืม…จะบอกว่าเป็นบริษัทเอกชนก็ไม่ต่างกันนัก อย่างไรก็ดี มหากรุ๊ปแห่งหนึ่ง แล้วก็มีบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนอีกแห่งหนึ่ง

คิดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “คุณน้าครับ ตอนนี้ผมมีบริษัทเล็กๆ ของตัวเองอยู่สองแห่ง นับเป็นร้านค้าเอกชนที่เพิ่ง เริ่มกิจการได้สินะ

พอซุนฟางได้ยินเช่นนี้ ก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ร้านค้าเอกชนก็ดี มากแล้ว! แม้ร้านค้าเอกชนอาจจะทำกำไรได้ไม่มากนัก แต่ก็ ค่อนข้างเป็นอิสระอย่างมาก สำหรับคนหนุ่มสาวอย่างพวกเธอ แล้ว กำไรจะมากจะน้อยอันที่จริงไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด ความ สบายใจ ความเป็นอิสระต่างหากที่สำคัญที่สุด!

พูดเสร็จ เธอก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ จากนั้นก็กล่าวว่า “น้าก็คอยบอกกับตงเสงี่ยนอยู่ตลอด อย่าเอาแต่จดจ่ออยู่กับ งานมากขนาดนี้ เงินมากเงินน้อยก็สามารถมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมได้ ไม่จำเป็นต้องให้ตัวเอง ใช้ชีวิตที่เหนื่อยขนาดนี้ทุกวัน แต่เด็กคน นี้ก็ไม่ฟัง…”

พูดมาถึงตรงนี้ ซุนยูฟางก็มองไปที่เเฉิน แล้วกล่าวอย่าง จริงจังว่า “เสี่ยวเย่ ต่อไปเธอต้องช่วยน้าเกลี้ยกล่อมเธอให้มากๆ หน่อยนะ ให้เธออาศัยเวลาตอนยังสาว พูดคุยเรื่องความรักบ้าง เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก นี่ไม่ดีกว่าเงินทองขี้ประจิ๋วนั่นหรอก หรือ? เธอว่าจริงไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ