ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 91 ให้เกียรติผม



บทที่ 91 ให้เกียรติผม

ขณะนี้ หวังเจิ้งกางกล่าว “กรุณาเงียบ อาจารย์คำนึงถึงการ เจริญก้าวหน้าของชวนชวนของเรา เมื่อก่อนทุกคนต่างคนต่างอยู่ ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกัน เป็นพันธมิตร และได้เลือกผู้นำ อนาคตหากมีศัตรูคนเดียวกัน ก็จะจัดการง่ายขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ ที่พวกคุณพูดว่าแขนงไม่เหมือนกัน ในเมื่อเลือกผู้นำ ก็ต้องเป็น คนที่เข้าใจในวิธีการฝึกเขียน การแพทย์ โหราศาสตร์ ฮวงจุ้ย ดูดวงศาสตร์เหล่านี้ทั้งหมด ถึงจะมีสิทธิ์เป็นได้

ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้น มีเสียงต่อต้านขึ้นมา แต่ก็มีคนฉุกคิด ขึ้นมา

เพราะผู้ชนะสามารถเอาของผู้แพ้ได้หนึ่งอย่าง ถ้าเป็นแชมป์ สามารถเป็นผู้นำของชวนชวนภาคใต้ได้ ชวนชวนไม่ใช่แค่การ ศึกษาเท่านั้น

เบื้องหลังของชวนชวน ยังเป็นห่วงโซ่อาหาร แล้วยังเป็นการ ก้าวข้ามตนเองอีกด้วย!

เงินตราและอำนาจ มีไม่กี่คนที่ปฏิเสธได้ บางคนแค่เห็นก็ หลงใหลแล้ว

“แน่นอน” จึงไม่ยืนขึ้น “ผมไม่บังคับทุกท่าน ถ้าใครกลัว ก็ สามารถถอยได้ แต่อนาคตชวนชวนพันธมิตรของภาคใต้ เขา ไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมอีกต่อไป จะได้ขจัดออกทันที
ทุกคนลังเล ถึงแม้จะค่อนข้างอันตราย แต่โอกาสที่จะชนะก็มี มากเช่นกัน

ทุกคนล้วนวิเคราะห์ เพราะการที่จะได้เป็นหัวหน้ากลุ่ม ไม่มี ใครคิดว่าตัวเองแย่

เก๋เฉินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ไม่พูดไม่จา

วีจึงไห่ทะเยอทะยานเกินไป ต้องทางไว้ก่อน

แต่ เย่เฉินไม่สนใจในชวนชวนพันธมิตรอยู่แล้ว อยากจะนั่งดู มากกว่า

ไม่นาน ก็มีคนวัยกลางคนยืนขึ้นมา คนนี้หยิบหยกขึ้นมา แล้ว เขย่า หยกเป็นประกาย แล้วกล่าว “เมืองหงินจางหยาง ขอ อาจารย์ ได้โปรดแนะนำ

ตระกูลจางเป็นตระกูลชวนชวน กง สืบทอดต่อกันมาใน ราชวงศ์ถังเหนือชายง

จางหยางคือผู้สืบทอดรุ่นที่สี่สิบหกของวิชาการดูดวงดอกพลัม โดยตรง มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหวั่น แน่นอนว่าภูมิใจตัวเอง ไม่น้อย คู่ต่อกรคนแรกคือ จิ้งให

ทันใดนั้น ในงานก็มีสิ่งที่น่าดูเกิดขึ้น

จางหยางยืดกางขึ้นแล้วกล่าว “หยกนี้ เป็นหยกที่สืบทอดกัน มาตั้งแต่สมัยช่วงราชวงศ์ถังเหนือ มีประโยชน์มากมาย ของวิชาอี้จิง! ถ้าเป็นผู้นำของภาคใต้ ผมว่าตระกูลจางควรจะเป็น ผู้นำ”

จิ้งให่เดินถึงสนามแข่ง ยิ้มให้จางหยาง แล้วกล่าว “หยก ถือว่าเป็นของดี แต่อีกไม่นานก็ไม่ใช่ของคุณแล้ว…….

เขายื่นมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบถุงกระเป๋าออกมา หลังจาก

เปิดออกแล้ว ก็หยิบกระดาษยันต์ออกมา

กระดาษยันต์นี้มีส่องประกาย ลงอักขระไว้ด้านบน

“ยันต์ทองอรหันต์! ”

ตอนที่ผู้คนเห็นยันต์สีทองนี้แล้วนั้น ก็ตะลึงไปตามๆกัน ซ่งหวั่นถึงอธิบายให้เยเงินฟัง “ยันต์ทองอรหันต์เป็นพระ อรหันต์สิบแปดคนท่องบทสวดสี่สิบเก้าวัน ได้เบิกเนตรแล้ว ถือ เป็นยันต์คุ้มภัย”

เย่เฉินยิ้ม แล้วกล่าว “ธรรมดาทั่วไป ไม่ถือเป็นพิเศษอะไร เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ทุกคนก็มอง ด้วยสายตารังเกียจ

วีให้จิ้งก็เหยียดหยาม “ไม่มีความสามารถ แต่ยโสโอหังจัง บะ”

ใครๆก็รู้ว่ายันต์ทองอรหันต์เป็นสิ่งที่หาได้ยาก แค่หาพระ อรหันต์สิบแปดคนก็ว่ายากแล้ว ตอนทำ ต้องดูสิ่งบนท้องฟ้าและ ผืนดิน เปอร์เซ็นต์ล้มเหลวมีมากถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์

แต่ในมือของจิ้งไห่ สีทองอร่าม พูดได้ว่าแม้จะมีเงินทองมากมายเท่าไหร่ก็ยังหาของสิ่งที่ได้ยาก

“ไร้สาระให้น้อยๆหน่อย เริ่มเถอะ”

จางหยางดูแคลน จากนั้นก็บีบของในมือแล้วเริ่มสวด จากนั้น ก็กล่าว “เวลาเริ่ม สิบห้านาทีจากนี้ ให้ฝนฟ้ามาจากทิศตะวันตก

จึงไม่ยิ้ม ไม่เห็นอะไรเกิดขึ้น จึงกล่าว “มืดฟ้ามัวดิน ลมฟ้า ที่มา พูดให้ถูก มันไม่ใช่ลม แต่เป็นการกระทำจากคน บุคคลนี้จะ ต้องมีคดีความ

จายหยางขมวดคิ้ว ส่ายหัวแล้วกล่าว “เป็นไปไม่ได้! ในตาราง ไม่มีสัญลักษณ์คน”

อาจารย์วีเพียงยิ้ม แต่ไม่พูดอะไร

ทุกคนล้วนแปลกใจ รออย่างใจจดใจจ่อ

สิบห้านาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว จางหยางจ้องไปที่ท้องฟ้า อย่างเคร่งเครียด

และในขณะนี้ ฝั่งตะวันตกมีเสียง “บูม” ดังขึ้นอย่างดัง จากนั้น ก็มีลมกรรโชกหมุนมา แผ่นดินเริ่มไหว

หวังเจิ้งกางยิ้มพลางหยิบมือถือขึ้นมา แล้วกล่าว “เพิ่งได้ข่าว มาว่า ซีซาน มีคนขโมยหิน ส่งผลให้แผ่นดินไหวขนาด 2.4 ริก เตอร์ ตำรวจได้จับไว้แล้ว

จางหยางหน้าถอดสี ยืนแข็งที่ออยู่กับที่ เขาเพียงแค่เห็นว่ามี ลมฟ้า แต่อาจารย์บอกว่าเรื่องเกิดขึ้นเพราะการกระทำของคนแล้วยังมีการติดคุกติดตะราง

เขาเงยหน้าขึ้น ไม่มีความหยิ่งยโสแบบเมื่อกี้แล้ว ยิ้มอย่าง

อับอายแล้วกล่าว “อาจารย์ สุดยอด คุณจางแพ้แล้ว งานนี้ผม ถอนตัว!” พูดจบ เขาหยิบหยกมา แล้วก็เดินจากไป “ช้าก่อน!” หวังเจิ้งกางพูด “อาจารย์จาง ในเมื่อคุณได้ขึ้นเวที

ประลองแล้ว ก็ต้องรักษากฎ

“กฏอะไร?” จางหยางโมโห

“ตามกฏ ผู้ชนะมีสิทธิ์เอาของของคุณ! และ คุณต้องปฏิบัติ หน้าทุกคน ว่าต่อจากนี้ไปจะเคารพอาจารย์”

“ไร้สาระ! ก็คืองานเลี้ยง พวกคุณคิดจะแย่งเครื่องมือทางธรรม ของผม แล้วยังให้ผมนับถือเขาอีก ฝันไปเถอะ”

จางหยางโมโห เขานิสัยเกรี้ยวกราด จะอยู่ใต้อานัดของคน อื่นได้ไง

ในมือของวีจึงไห่ มียันต์อีกใบ ใช้มือชี้ไปที่รูป แล้วสวด

“แครก!”

ทุกคนจับตามอง หยกของจางหยางแตกเป็นสองส่วน หล่นลง บนพื้น

“คุณ!!”

ของสำคัญของจางหยางถูกทำลาย โกรธจนเนื้อตัวสั่น วีจึงไม่พูดอย่างมั่นใจว่า “ไม่ทำตามกฎ ก็สมควรแล้วที่จะทำลายมันทิ้งขยะแบบนี้ ให้ฉันก็ไม่เอา!”

จางหยางหน้าซีด เขารู้ความสามารถของ จึงให้ว่าต่างจาก เขาอย่างมาก

เค้าทําลายของของตนเอง แต่เขากลับไม่เอาคืนแต่อย่างใด มองไปยังหยกบนพื้น จางหยางพูดอย่างกัดฟันว่า “เพราะ

ความสามารถฉันน้อย ไม่ดีพอเท่าใครเขา

พูดจบ แม้หยกของเขาที่อยู่บนพื้นก็ไม่เก็บ และจากไปอย่าง โมโห

ทุกคนที่เหตุการณ์นี้ สีหน้าแต่ถอดสี จึงไหนี้ ยากที่จะคาด เอาจริงๆ เมื่อกี้ยังคิดว่าเป็นคนที่พึ่งได้ แต่ตอนนี้เริ่มจะลังเลขึ้น มา

หลี่ไท่หลายขมวดคิ้ว ถามตัวหมิงด้วยน้ำเสียงโทน

จากนั้น หลีไปหลายยืนขึ้น สะบัดมืออย่างรุนแรง แล้วกล่าว “งานเลี้ยงที่น่าเบื่อแบบนี้ จำเป็นอะไรที่ต้องเข้าร่วม ทุกท่าน ขอตัว!

พูดจบ ก็พากัวหมิงเดินออกไปด้านนอก

ทันใดนั้นมีคนสวมชุดดำปรากฏตัวออกมา ขวางทางเดินไว้ หลีไท่หลายกล่าวอย่างโมโห า “ทําอะไร?” “ประธานหลี่ ในเมื่อมาแล้ว จะรีบกลับไปไหน? จึงให้เดินไปด้านหน้า ยิ้มพลางกล่าว “งานเลี้ยงของผมไม่ใช่คุณอยากมาก็มา อยากไปก็ไป ถ้าตอนนี้คุณจากไป เกรงว่าจะทำ ผิดกฏ?”

หลีไปหลายดูแคลน “ฉันไม่ใช่คนในชวนชวน พวกคุณเลือก หัวหน้ากลุ่ม เกี่ยวอะไรกับผม!

จิ้งให้ดูแคลน “อยากไปก็ได้ ทิ้งของไว้เคารพผม!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ