ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1829



บทที่ 1829

ในเวลานี้ ในใจของเซียวไห่หลง ก็เสียใจเป็นอย่างมากตั้ง นานแล้ว

ความจริงถูกลูกน้องของอู่ตงไม่ทำร้ายจนกลายเป็นคนไร้ค่า นั้นไม่ได้เลวร้ายที่สุด เนื่องจากใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็สามารถ ฟื้นตัวได้แล้ว

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือ เมื่อกี้นี้ตำรวจสากล บอกว่าจะส่งมอบ พวกเขาให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ถ้าหากส่งมอบพวกเขาไปจริงๆ ข้อหาลักพาตัวของสองพ่อลูกก็หนีไม่พ้นอย่างแน่นอน

ข้อหานี้เป็นมีความผิดสถานหนัก! ระยะเวลาต้องโทษก็คือสิบ

ปีขึ้นไป!

เมื่อคิดว่าตัวเองอาจจะต้องอยู่ในคุกเป็นเวลาสิบปี ความรู้สึก ของเซียวไห่หลงได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์แล้ว

ตอนที่ถูกลูกน้องของหงห้าหามออกมา เซียวไม่หลงพูดอย่าง สะอึกสะอื้นร้องไห้อย่างหนักว่า “ขอถามคุณตำรวจสากลหลาย ท่านด้วย…เอ่อ…จะจับตัวเองพวกเราไปเข้าคุกจริงๆเหรอ….พวก เรา….พวกเราสองคนพ่อลูกต่างก็ถูกคนอื่นยุยงส่งเสริมนะครับ คนที่อยู่เบื้องหลังอย่างแท้จริง คืออู่ตงไห่คนนั้น….

เซียวฉางเฉียนก็ร้องไห้อย่างขมขื่น: “แม้ว่าพวกเราสองคนพ่อ ลูกจะมีความผิด แต่พวกเราก็ได้ชดใช้กรรมที่เจ็บปวดแล้ว ทุกท่านได้โปรดเข้าใจแล้วยกโทษให้ด้วยได้มั้ย ให้ทางรอดชีวิตกับ

พวกเราสองคนพ่อลูกด้วย… เซียวไห่หลงหันกลับไปอย่างยากลำบาก มองดูพ่อที่ดวงตาทั้ง

สองแดงก่ำ และร้องเรียกว่า “พ่อ…ผมไม่อยากติดคุกนะพ่อ…”

เขียวฉางเฉียนน้ำตานองเต็มหน้า และพูดด้วยความสะอึก สะอื้นว่า: “ถึงเวลาโยนทุกอย่างมาให้พ่อ บอกว่าทุกอย่างเป็น ความคิดของพ่อ ลูกไม่รู้เรื่องอะไร พยายามทำให้ผู้พิพากษา ลงโทษสถานเบา…

เมื่อเซียวไห่หลงได้ยินเช่นนี้ ก็ร้องไห้เสียงดังขึ้นมาในทันที สองคนพ่อลูกก็ร้องไห้อย่างหนัก ในที่เกิดเหตุก็ค่อนข้างเสียง ดังมากเกินไปในทันที

ในเวลานี้หงห้าเดินเข้ามา และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชากับทั้ง สองคนว่า: “แมร่งหยุดร้องไห้ได้แล้ว! ถ้ายังร้องอีกก็จะส่งพวก แกไปเข้าคุกจริงๆแล้ว!”

เมื่อเชียวไห่หลงได้ยินเช่นนี้ ก็ถามอย่างเหลือเชื่อในทันทีว่า “คุณตำรวจสากล คุณหมายความว่า…จะไม่ส่งพวกเขาไปเข้าคุก แล้วเหรอ?”

หงห้าพูดอย่างเยือกเย็นว่า: “ถือว่าพวกแกสองคนโชคดี เรื่อง ที่จับตัวหลี่ชุ่ยฮัวนี้พวกเราจะเก็บเป็นความลับอย่างแน่นอน ดัง นั้นตอนนี้ห้ามให้คนของแผนกอื่นรู้เรื่องนี้ ดังนั้นเรื่องที่วันนี้พวก แกลักพาตัวหม่าหลันและหลี่ชุ่ยฮัว พวกเราก็จะไม่แจ้งให้เจ้า หน้าที่ในท้องถิ่น!”
“จริงเหรอ?!” เมื่อเขียวไห่หลงได้ยินเช่นนี้ คนทั้งคนก็ตื่นเต้น

จนชักดิ้นอย่างฉับพลัน แต่ทว่า เพราะการชักดิ้นอย่างฉับพลันนี้ ความเจ็บปวดร้าว

ของแขนขาก็กลายเป็นรุนแรงขึ้น ดังนั้นจึงคร่ำครวญอย่างไม่

หยุดหย่อนขึ้นมา

แม้ว่าในปากจะร้องเรียกด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่หยุด หย่อน แต่ภายในใจของเซียวไห่หลงกลับตื่นเต้นอย่างไม่มีอะไร เทียบได้

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในที่สุดรอดพ้นหายนะจากคุก!

ในขณะนี้คฤหาสน์Tomson Riviera

นายหญิงใหญ่เชียวกำลังเอนตัวอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ของคฤหาสน์A04 ขณะที่มองดูเวลาไปด้วย ก็พูดกับเซียว เวยเวยที่อยู่อีกด้านหนึ่งไปด้วยว่า “ทำไมพ่อของแกและพี่ชาย ของแกยังจัดการไม่เสร็จสักที? นานขนาดนี้ก็ไม่มีการเคลื่อนไหว อะไร”

เซียวเวยเวยพูดว่า “อาจจะยุ่งมาก เนื่องจากเรื่องราว มากมาย ไม่เพียงต้องหาคนจับตัวหม่าหลับให้คนคนนั้น ยังต้อง ถ่ายวิดีโอและยังต้องส่งไปที่เหมืองถ่านหินดำ คาดการณ์ว่าทำ ไปทํามาก็จะทำไปถึงตอนกลางคืนแล้ว”

นายหญิงใหญ่เชียวพยักหน้าเบาๆ พูดด้วยใบหน้าที่เจ้าเล่ห์ว่า “หม่าหลันนะ ช่วงนี้ลอยหน้าลอยตาเกินไปจริงๆ ลอยหน้า ลอยตาอยู่แบบนี้เสมอ ก็ค่อนข้างไม่ติดดินแล้วจริงๆ ดังนั้นก็ควร ที่จะให้เธอได้สัมผัสว่าอะไรเรียกว่าความทุกข์ทรมานของทาง โลกบ้าง!”

เซียวเวยเวยพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่ค่ะคุณย่า หม่าหลันนังผู้ หญิงสารเลวนี้ หนูเกลียดเธอเข้ากระดูกดำมานานแล้ว โดย เฉพาะช่วงนี้เธออวดดีมากขนาดนี้ หนูแทบจะรอไม่ไหวที่จะหักขา ของเธออีกครั้ง”

ขณะที่พูด เธอก็พูดด้วยใบหน้าที่หวนคิดถึงอดีต: “ตอนที่อยู่ ในห้องขังน่าสนุกกว่า จางกุ้ยเฟินคนนั้นรูปร่างสูงใหญ่ ฝ่ามือ เดียวก็แทบรอไม่ไหวที่จะตบจนอุจจาระของหม่าหลั่นออกมาด้วย ช่วงเวลานั้นหม่าหลันน่าสมเพชมากจริงๆ คิดดูแล้วหนูก็ตื่น เต้น!”

นายหญิงใหญ่เซียวก็พยักหน้าหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า และพูด อย่างมีความสุขว่า: “โธ่เอ๊ย! จะว่าไปจางกุ้ยเป็นผู้หญิงในชนบท มีแขนทั้งสองที่ความแข็งแกร่งจริงๆ ผู้หญิงคนนั้น แข็งแรง เหมือนกับวัว จัดการหม่าหลันแบบนี้ เธอสามต่อหนึ่งแรงยัง เหลือเฟือ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ