ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2188



บทที่ 2188

“ได้ครับ คุณชาย!”

วางสายแล้ว เย่เฉินก็ปวดศีรษะขึ้นมาเล็กน้อยอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขาพบว่าระหว่างตนกับตระกูลซู ราวกับมีสนามแม่เหล็กที่ทั้ง แข็งแกร่งและแปลกประหลาดชนิดหนึ่งอยู่

แม้ว่าเขาจะรอโอกาสไปหาตระกูลซูเพื่อซักถามเรื่องพันธมิตร ต่อต้านตระกูลเยีในปีนั้นมาตลอด ให้ตระกูลซูชดใช้ในเรื่องนั้น แต่ว่าระยะนี้ เขายังไม่ทันได้ไปหาตระกูลเพื่อคิดบัญชีเลยด้วย เรื่องราวต่างๆ นานาก็เกิดขึ้นกับคนตระกูลชูติดๆ กัน

ลำดับแรกตอนอยู่ญี่ปุ่นเขาบังเอิญช่วยทายาทสองคนของ ตระกูลซูไว้ได้โดยบังเอิญ นั่นก็คือซูจือเฟยกับซูจื่อหยู แต่ตอนที่ เย่เฉินช่วยพวกเขา ไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนคือลูกๆ ของซูโสเต้า

ต่อมาที่โรงพยาบาลในโตเกียว ก็เคยเดินเฉียดไหล่กับซูโสว่ เต้า เพียงแต่เย่เฉิน ในเวลานั้น ไม่รู้ว่าชายที่อยู่ใกล้แค่คืบจะเป็น ซูโสว่เต้า

ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ด้วยนิสัยของเยเฉิน ต่อให้ไม่ฆ่าซูโสเต้าให้ ตาย อย่างน้อยก็ต้องทำให้นกเขาของเขาเสื่อม จากนั้นก็จะ จดจําสภาพของเขาไว้ แล้วค่อยๆ คิดบัญชีกับเขา

ต่อมาสิ่งที่ทำให้เยเฉันคิดไม่ถึงก็คือกลับมาจากญี่ปุ่นครั้งนี้ ก็ คือซูรั่วหลีที่ตกอยู่ในมือสังหารของตระกูลซูโดยบังเอิญ แต่ที่ได้เหตุผลเสียยิ่งกว่าก็คือ หลังจากช่วยเหลือเธอแล้ว เยเป็นค่อยพบ ว่าที่แท้เด็กผู้หญิงคนนี้คือลูกนอกสมรสของซูโสบู่เต้า

เรื่องราวมาถึงตรงนี้ เย่เฉินก็ได้ช่วยชีวิตเด็กสามคนที่เป็น ลูกสาวสองลูกชายหนึ่งของซูโสบู่เต้าเอาไว้หนหนึ่ง

ประเด็นอยู่ตรงที่สามคนนี้ ดันเป็นลูกของศัตรู

เพราะบังเอิญช่วยลูกของศัตรูไว้หนแล้วคนเล่า สำหรับเข่เฉิน แล้ว การล้อเล่นของโชคชะตาเช่นนี้ ทำให้เขาได้กำลังจะต่อว่า โดยแท้

ผลคือใครจะไปคิดได้ว่าวันนี้ถือโอกาสอยากไปดูบ้านเก่าสัก หน่อย จะได้พบภรรยาของซูโลว์เต้า ตู้ไม่ชิงแม่ของซูจือเฟย ซู จ๋อหยูกัน!!

ที่แย่ไปกว่านั้นคือดูเหมือนไม่ชิงจะยังรักพ่อของตนมาหลาย

คิดถึงเรื่องนี้ เย่เฉินก็ราวกับโดนตีศีรษะอย่างแรง อดถอน หายใจออกมาด้วยอารมณ์ขุ่นมัวไม่ได้ ลอบด่าว่า “นี่มันเรื่องบ้า อะไรกันวะ!”

ด้วยเหตุนี้ เขาจึงลอบสาบานอยู่ในใจ รออนาคตตอนที่ตน เผชิญหน้ากับซูโสว่เต้า ไม่เพียงจะให้เขาชดใช้เรื่องพันธมิตรต่อ ต้านตระกูลเย่ ยังจะให้เขาชดใช้เรื่องที่ตนช่วยชีวิตลูกๆ ทั้งสาม คนของเขา!
เวลาเดียวกันนี้ ตู้ให่ซิงก็คิดหาวิธีที่จะค้นหาเช่เฉินเช่นกัน ทว่าเธอรู้สถานการณ์ของเยเฉินน้อยมาก ดังนั้นจึงไม่รู้จะทำ อย่างไรไปชั่วเวลาหนึ่ง

แม้พ่อบ้านชราจะอยู่ที่จินหลิงมาหลายปี แต่เพราะตระกูล อย่างไรก็นับเป็นชนชั้นสูง ปกติทำเรื่องใดก็มักจะจัดการอย่าง เงียบๆ ดังนั้น ในฐานะที่เขาเป็นตัวแทนของตระกูลในจินหลิง จึงค่อนข้างจะมีนิสัยเก็บตัวอย่างมาก

แม้เขาจะรู้จักกับชนชั้นสูงในพื้นที่ไม่น้อย แต่สำหรับเรื่อง ภายในตลาดแล้ว กลับให้ความสนใจน้อยมาก ดังนั้นจึงได้แต่ ไหว้วานคนก่อนชั่วคราว โดยเริ่มจากสอบถามเรื่องอุบัติเหตุรถ ชน ในปีนั้นของเยฉางอิง ดูรายชื่อของเด็กกำพร้าที่สถานเลี้ยง เด็กกำพร้าและสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้ารับมาเลี้ยงหลังเยฉาง อิงประสบอุบัติเหตุก่อน รวมไปถึงบันทึกการรับเลี้ยงในพื้นที่ นั้นๆ ที่บันทึกไว้ในสมุดในปีนั้น วางแผนที่จะค้นหาเบาะแสที่ เกี่ยวข้องกับเย่เฉิน

หากว่ากันถึงเส้นสายในจินหลิงเพียงอย่างเดียว แม้เขาจะมี รากฐานแล้ว แต่ก็ยังคงห่างไกลกับเฉินจือข่ายนัก

เฉินจือข่ายในฐานะตัวแทนตระกูลเยู่ในจินหลิง หน้าที่ที่สำคัญ ที่สุดก็คือการเจาะรากฐานที่มั่นคงในจินหลิง ดังนั้นการปูเส้น สายของเฉินจือข่ายในจินหลิงจึงอยู่ในมากเป็นพิเศษ อีกทั้งยัง พัฒนาตำแหน่งขึ้นเรื่อยๆ นำหน้าพ่อบ้านชราคนนั้นของตระกูลไปไกล
ดังนั้น ตอนที่พ่อบ้านชราเริ่มสืบเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับเงิน เขาก็ได้ข่าวแล้ว พร้อมกับรายงานกับเยเฉินทันที

พอเย่เฉันได้ยินว่าพวกเขาต้องการจะลงมือหาจากบันทึกการ รับเลี้ยงรวมถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก่อน ก็วางใจลงได้มากกว่า ครึ่งทันที

ตามที่พูดไว้ต้องมาทิศทางนี้ไม่มีผิด

แต่ประเด็นสำคัญคือ เบาะแสตอนที่พ่อกับแม่เขาเพิ่งจากโลก นี้ไปได้ถูกถังซื่อไห่ทำลายไปนานแล้ว

ถังซื่อให้ติดเบาะแสทั้งหมดของตนหมดแล้ว แม้แต่ตอนที่ตน ใช้ชีวิตอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก็เป็นคนของเขาที่ควบคุม อยู่ข้างใน ดังนั้นไม่ว่าข้างนอกจะสืบอย่างไร ก็จะไม่สืบเจอผล ลัพธ์ใดๆ

ตอนนี้ ตู้ไม่ชิงคิดจะลงมือหาตนจากที่นี่ ก็ได้แต่เป็นเรื่องเพ้อ ฝันไปเสียแล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ