ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1542



บทที่ 1542

“มีหน้าอะไร……….. เซียวเวยเวยเริ่มโกรธ สำลักและพูดว่า “ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นผู้จัดการการตลาดของบริษัทเชียวชื่อ ออก ไปข้างนอก โดยพกพา Hermes ของปลอม หากถูกคนอื่นเขาจับ ได้ขึ้นมามันช่างน่าอายเหลือเกิน!

นายหญิงใหญ่เซียวเยาะเย้ยและพูดว่า “คุณรู้อะไร! สมัยนี้ หากคุณมีสถานะอันสูงส่ง ถึงคุณจะพกกระเป๋าปลอม มันก็เป็น ของจริงอยู่ในสายตาของคนอื่นๆ แต่ถ้าคุณมีสถานะที่ต่ำต้อย ถึงคุณจะพกกระเป๋าของจริง อยู่ในสายตาของคนอื่นมันก็เป็น ของปลอม! ในตอนนี้บริษัทเชียวชื่ออยู่ในฟีนิกซ์นิพพาน และเกิด ใหม่จากขี้เถ้า ในสายตาของคนนอกคุณที่เป็นผู้จัดการการ ตลาด มันก็จะมีน้ำหนักมากพอเป็นเรื่องธรรมชาติ ต่อให้คุณจะ ผกกระเป๋าปลอมสักใบ ก็จะไม่มีใครมองว่ามันคือของปลอม เลย!”

เซียวเวยเวยรู้สึกหดหู่อย่างมาก “คุณย่า ถึงแม้คุณจะไม่เห็น แก่ที่ฉันเป็นผู้จัดการการตลาดของบริษัทเชียวชื่อ ก็ถือว่าเห็นแก่ ที่ฉันเป็นหลานสาวของคุณ และให้เงินฉันหนึ่งแสนหยวนมันก็ไม่ ได้ถือว่ามากเกินไปใช่ไหม?”

นายหญิงใหญ่เชียวตะคอกอย่างเย็นชา “อย่ามาที่ไม้นี้กับฉัน ให้แค่หนึ่งหมิ่นหยวน คุณจะเอาก็เอาไป ไม่เอาก็ช่างมัน!”

หัวใจของเซียวเวยเวยหดหูมาก แต่เมื่อคิดได้ว่าเงินหนึ่งหมื่นหยวนหากตัวเองไม่เอา งั้นก็จะไม่ได้แม้แต่สตางค์เดียวแล้ว

ดังนั้นเธอจึงต้องพยักหน้า และพูดอย่างไม่พอใจว่า “โอเค หนึ่งหมื่นหนึ่งหมื่น………

นายหญิงใหญ่เชี่ยวกระแอม และพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ฉันจะ บอกพวกคุณนะว่า ในครั้งนี้ พวกเราจะต้องทำให้บริษัทเชียวชื่อ ฟื้นคืนความรุ่งโรจน์อีกครั้ง! แม้กระทั่งจะทำให้บริษัทเชียวชื่อ ก้าวขึ้นไปอีกขั้น ดังนั้นพวกคุณแต่ละคนจงตั้งจิตวิญญาณให้ เพียบพร้อม ไม่อนุญาตให้มีความคิดที่ใช้ชีวิตแบบมีความสุข มี ฉะนั้น แม้ว่าจะเป็นลูกชาย หรือหลานชายแท้ๆ ของฉันก็ตาม จะ ต้องโดนไล่ออกไปให้ทั้งหมด! พวกคุณเข้าใจไหม? ”

เซียวฉางเฉียน เซียวไห่หลง และเซียวเวยเวยต่างรู้ดีอยู่ในใจ ว่า คำพูดเหล่านี้ของนายหญิงใหญ่ก็คือกำลังพูดให้พวกเขาฟัง อยู่

แม้ว่าในหัวใจจะรู้สึกหดหู แต่ทุกคนก็ไม่กล้าที่จะแสดงความ คัดค้านใดๆ พวกเขาทำได้เพียงพยักหน้าอย่างขมขื่น และพูด พร้อมกันว่า “เข้าใจแล้ว…..……..

นายหญิงใหญ่เชียวถึงรู้สึกพึงพอใจในเวลานี้ และโบกมือ “เอาล่ะ รีบกินข้าวกันเถอะ ช่วงบ่ายยังจะต้องไปทำงานที่บริษัท ต่อ!”

ทุกคนไม่มีทางเลือกในเวลานั้น ทำได้เพียงก้มหน้ากินข้าว อย่างเชื่อฟังเท่านั้น

ในขณะนี้เอง เซียวเวยเวยกำลังพลิกดูไทม์ไลน์ในวีแชทอยู่และทันใดนั้นก็เห็นข้อที่หม่าหลั่นประกาศออกมา สีหน้าของเธอ เป็นก็มิดบนลงด้วยความโกรธ

มีความรู้สึกที่ไม่สบายใจเกิดขึ้นอยู่ในใจ “แม่หญิงปากตลาด อย่างหม่าหลันยังมีกระเป๋า Hermes อยู่หลายใบ ฉันอยากจะซื้อ สักอัน แต่คุณย่ากลับไม่เห็นด้วย แถมยังจะให้ฉันไปซื้อของ ปลอมอีกด้วย ถ้าฉันซื้อกระเป๋า Hermes ของปลอมจริงๆ เกิดว่า โดนหม่าหลันมาเจอเข้า เธอจะไม่ล้อเลียนฉันไปจนวันตายเลยเห รอ?!”

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เธอก็รู้สึกโกรธเคืองมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่ในใจ หม่าหลันก็เป็นคนแก่จนหนังเหี่ยวไปหมดแล้ว มีสิทธิ์อะไรถึงใช้ ของแพงขนาดนี้ได้?

ในตอนนี้ฉันตัวเองยังอยู่ในวัยอ่อนเยาว์ และสวยอย่างเป็น ธรรมชาติ แล้วทำไมถึงเทียบกับชีวิตของหม่าหลับไม่ได้เลยล่ะ?

เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เธอจึงพูดอย่างเศร้าใจว่า “คุณย่า! คุณดูสิ! แม้แต่แม่นางปากตลาดอย่างหม่าหลันก็ได้ใช้กระเป๋า Hermes ของจริงแล้ว ทำไมฉันจึงใช้ของจริงบ้างไม่ได้ล่ะ!

นายหญิงใหญ่เชียวคว้าโทรศัพท์มือถือจากมือของเธอ มองดู และพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ให้ตายเถอะหม่าหลัน วันๆ ก็รู้แต่จะ อวด!”

เซียวฉางเฉียนก็รับโทรศัพท์มือถือไปดูด้วย และพบว่ามีรูปใบ หนึ่งของหม่าหลัน และกำลังเซลฟี่กับกระเป๋าของเธอโดยสะพาย อยู่บนหลังของเธอ และเขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “ขาของผู้หญิงเลวคนนี้เหมือนจะถอดเฝือกออกแล้ว! อีกไม่กี่วันก็คาดว่าจะออก มาสะดีดสะดิ้งได้อีกแล้ว!

เมื่อเชียวให้หลงนึกถึงหม่าหลันขึ้นมาก็เกิดความเกลียดชังจน ต้องกัดฟันของเขา และรีบถามเขาว่า “คุณพ่อ ก่อนหน้านี้คุณ บอกว่าจะแกล้งเธอสักหน่อยไม่ใช่เหรอ? จะลงมือตอนไหนเหรอ ครับ? ผมแม่งอยากจะสั่งสอนผู้หญิงเลวคนนี้สักหน่อยมานาน แล้ว!”

“ไม่ต้องรีบ” เซียวฉางควนตะคอกอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ขาของเธอหักไป และต้องอยู่แต่ที่บ้านตลอดทั้งวัน ดังนั้นคงเป็นไปไม่ได้หรอกว่าจะบุกเข้าไปถึงที่บ้านเธอและไป กลั่นแกล้งเธอ? งั้นก็เหมือนกับการแกล้งตัวเราเข้าไปด้วยไม่ใช่ เหรอ? ในเมื่อเธอถอดเฝือกออกจากขาแล้ว เธอก็ต้องออกมาก ระโดดเล่นแน่ๆ เมื่อถึงเวลานั้นเราก็คว้าโอกาสไว้ และกลั่นแกล้ง เธอให้สาสมไปเลยทีเดียว!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ