ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1916



บทที่ 1916

หลังจากพูดจบ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้กล่าวอีกว่า “นายหญิง ใหญ่ ถ้าลูกสะใภ้ของคุณขโมยเงินของคุณไปแค่สองร้อยหยวน แล้วก็ ในเรื่องนี้พวกเราไม่สามารถยื่นเรื่องตั้งคดีได้จริงๆ หากจะ โทษก็ต้องโทษว่าสิ่งที่เธอขโมยไปมันน้อยเกินไปจริง อย่างน้อย ถ้าเธอแอบขโมยเอาทีวีในบ้านของคุณไปขาย พวกเราก็ต้อง คํานวณตามราคาตอนที่ซื้อทีวี ก็พอที่จะตั้งคดีได้ แต่ไม่ว่ายังไง เธอก็ไม่ได้ขโมยทีวีของบ้านคุณไปเลย!!

เจ้าหน้าที่ตำรวจก็แค่ใช้ทีวีมาเป็นการเปรียบเทียบเท่านั้น แต่ นายหญิงใหญ่เชียวกลับนึกถึงเรื่องที่ตัวเองแอบขายทีวีในบ้าน พักวิลล่าของอู่ตงไห่ ร่วมกับเซียวไห่หลง และเซียวฉางเฉียน นมาทันที เธอรู้สึกตกใจด้วยความกลัว และถามอย่างประหม่าว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้าขโมยทีวีที่มีมูลค่าหนึ่งแสนหยวน จะถูก พิพากษาอย่างไรเหรอ?”

เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวอย่างจริงจังว่า “หากทีวีเครื่องนี้มีมูลค่า

เกินหนึ่งแสนจริงๆ จำนวนเงินนั้นก็จะถือว่าค่อนข้างเยอะมาก

ตราบใดที่มูลค่าการโจรกรรมถึงหกหมื่น งั้นบทลงโทษขั้นพื้น

ฐานก็คือสิบปี จากพื้นฐานนี้ มีการเพิ่มขึ้นทุกๆ สี่พันสองร้อย

หยวน บทลงโทษก็จะเพิ่มขึ้นหนึ่งเดือน ตามไปด้วย และถ้าทีวี

หนึ่งเครื่องมีมูลค่าหนึ่งแสนหยวนจริงๆ ก็จะถูกตัดสินจำคุกประมาณสิบเอ็ดปี
“อะไรนะ!” นายหญิงใหญ่เขียวตกตะลึงไปเลย! “ขโมยทีวีเครื่องเดียว ก็จะถูกตัดสินจําคุกสิบเอ็ดปี? นี่มันช่าง น่ากลัวเกินไปหรือเปล่า!

“โชคดีที่อู่ตงไห่ไม่ได้แจ้งตำรวจในเวลานั้น! มิฉะนั้นฉันก็อายุ มากขนาดนี้แล้ว ถึงเวลานั้นเกรงว่าฉันคงอาจจะต้องตายอยู่ใน คุกโดยตรงก็ได้..…..……..

ในห้องนั้น เซียวฉางเฉียนและเซียวไม่หลงที่นอนอยู่บนเตียง ตกใจกับคำพูดนี้เช่นกัน

เซียวไห่หลงตกใจกลัวจนตัวสั่นไปทั้งคน ทันทีหลังจากนั้น เซียวฉางเฉียนที่อยู่ข้างๆ ก็รู้สึกถึงความเปียกชื้นที่มีไออุ่นมา จากผ้าปูที่นอน และพูดโพล่งออกมาว่า “ไห่ หลง…………….ทำไมคุณฉราดใส่บนเตียงล่ะ!”

เซียวไห่หลงกระซิบด้วยใบหน้าขมขื่นว่า “พ่อ ผม กลัว…..การขโมยทีวีจะถูกตัดสินจำคุกตั้งสิบเอ็ดปี นี่มันน่ากลัว เกินไปแล้ว…..……..

เซียวฉางเฉียนรู้สึกทำอะไรไม่ถูกเป็นพิเศษ และถอนหายใจ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า “เฮ้!มันน่ากลัวก็จริง แต่คุณก็ไม่ควรฉี่ราดใส่เตียง เลย ดูสิตอนนี้ กางเกงของพ่อก็เปียกไปหมดเพราะคุณ เลย…..…..

เซียวไห่หลงเม้มปาก และเสียงของเขาก็สำลักและพูดว่า “คุณ พ่อ…ผมขอโทษ….แต่ผมอั้นไม่อยู่จริงๆ ……..ผมสัญญาว่าจะ ไม่เป็นอีกต่อไป……
เชียวฉางเฉียนพยักหน้าอย่างขมขื่น และพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ลองฟังสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ข้างนอกพูดก่อน….. คุณย่า ของคุณก็จริงๆ เลย เงินสองร้อยหยวนจะไปแจ้งตำรวจทำไม! ทำ เพื่ออะไร! หากว่าไม่ทันระวังและเปิดเผยเรื่องที่แอบขายทีวีออก ไปอีกแล้วก็ ดีไม่ดีอาจจะทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนไปด้วย ก็ได้.………..…..

ในเวลานี้ นายหญิงใหญ่เซียวก็เริ่มรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาเล็ก น้อย

เธอคาดไม่ถึงจริงๆ ว่า เฉียนหงเย่นขโมยเงินสองร้อยหยวน ของตัวเองไป ซึ่งยังไม่เพียงพอสำหรับการตั้งคดีฟ้องร้องเลย

แต่ทั้งครอบครัวของตัวเองแอบขายทีวีของอู่ตงไห่ กลับเพียง พอที่จะถูกตัดสินจําคุกมากกว่าสิบปี ซึ่งทำให้เธอรู้สึกตกใจมาก จริงๆ ในเวลานี้

ในเวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่าสีหน้าของนายหญิงใหญ่ผิด ปกติ และยังคงคิดว่านายหญิงใหญ่เพียงแค่รู้สึกโกรธเคือง เท่านั้น เขาจึงเอ่ยปากกล่าวว่า “ในเรื่องนี้ คุณก็ลองจัดการแบบ ภายในครอบครัวกันเถอะ บอกตรงๆ เงินสองร้อยหยวนสำหรับ ในสังคมปัจจุบันแล้ว เอาไว้ที่ไหนมันก็ไม่ได้ถือว่าเยอะ คุณก็ไม่ จําเป็นต้องยึดติดกับมันให้มากหรอก คนในครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องมีความรักต่อกันอยู่บ้าง ไม่ถึงกับต้องหักหน้า กันเพราะเงินสองร้อยหยวนคุณว่าถูกไหม? ”

นายหญิงใหญ่เชียวถอนหายใจอย่างหดหู และพูดว่า “เอาล่ะงั้นก็เอาตามนี้เถอะ ปล่อยให้ยัยตัวแสบคนนี้รอดตัวไปได้ง่าย เกินไปแล้ว!”

เจ้าหน้าที่ตำรวจพยักหน้า “คุณรู้สึกสบายใจได้ก็โอเคแล้ว ถ้า

ไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้ว พวกเราก็จากไปก่อนแล้ว” ในเวลานี้ เซียวเวยเวยก็เดินเข้ามาพร้อมกับใบจดทะเบียน สมรส และพูดว่า “คุณตำรวจ นี่คือใบจดทะเบียนสมรส

นายหญิงใหญ่เชียวพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ยังจะเอาใบ ทะเบียนสมรสมาทำอะไร รีบส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปข้างล่างกัน เถอะ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ