ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 28 จัดงานเลี้ยง



หลังจากจัดการปัญหาของแม่ยายเสร็จ เรียบร้อยแล้ว แม่ยายก็หอบเงินสดไปฝากที่ ธนาคารอย่างมีความสุข

ด้านเย่เฉินนั้นตรงกลับบ้านเลย

เมื่อถึงบ้านก็พบว่ารองเท้าของคนเป็น ภรรยาอย่างเซียวหรับวางอยู่หน้าประตูแล้ว เขา จึงรู้ว่าเธอกลับมาแล้วจึงเดินตรงเข้าไปที่ห้อง นอน

เมื่อเดินเข้ามาในห้องนอนก็เห็นว่าเซียวซูห ร้นวางสายโทรศัพท์พอดี สีหน้าเธอเต็มไปด้วย ความดีใจและตื้นตัน

เขาจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย ” รัก เมื่อกี้ คุยกับใครหรือ?”

เซียวซูทรัมตอบกลับด้วยความตื่นเต้น “ต่งรั่งหลินเพื่อนรักของฉันเอง! คุณจําเธอได้ ไหม?”

“จ๋าได้สิ” เย่เฉินพยักหน้าพลางเอ่ย เมื่อ ก่อนก็เรียนมหวิทยาลัยในจินหลิง ค่อนข้างสนิท กับคุณด้วย เหมือนว่าเธอจะเป็นลูกสาวของ ตระกูลใหญ่ในเย่นจิงด้วยใช่ไหม?”

“ใช่” เซียวซูหรันเอ๋ย “ตระกูลของรั่งหลิน ค่อนข้างมีอิทธิพลในเย่นจิงเลยล่ะ”
เปเฉินเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม “มีอะไร? เธอ จะมาหาคุณ เมืองจีนหลิงหรือ?”

เซียวซูหนเอ่ย “ไม่ใช่แค่มาหาฉันค่ะ เธอ จะย้ายมาทํางานที่นี่แล้ว!”

เย่เฉินเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เธอเป็นถึง ลูกสาวของตระกูลใหญ่ในเย่นจิง กิจการของ ตระกูลตั้งใหญ่โตทำไมไม่ดูแล มาทำงานที่เมืองจิ นหลิงทําไมกัน?”

เซียวซูหวั่นเอ่ย “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เธอ บอกแค่ว่าจะมาทํางานที่ตี้เหากรุ๊ป ส่วนเรื่องที่ว่า ทำไมเธอถึงต้องถ่อมาทำงานไกลถึงตี้เหา ฉันก็ ไม่รู้เหมือนกัน”

เย่เฉินพยักหน้ารับทว่าแอบคิดในใจ: ถึงแม้ ตระกูลต่งจะสู้ตระกูลเย่ไม่ได้ ทว่าก็ถือว่ามีอิทธิ พลในเย่นจิงพอสมควร ดงรั่งหลินไม่มีความ จําเป็นต้องละทิ้งกิจการของที่บ้านแล้วมาทํางาน ที่ตี๋เหากรุ๊ปของตน

หรือการที่ผู้หญิงคนนี้มาตี้เหากรุ๊ปเพราะมี จุดประสงค์อย่างอื่นกันแน่?

เย่เฉินคลางแคลงใจทว่ายังไม่อาจหาข้อ สรุปได้ในตอนนี้

เห็นทีว่าต้องรอต่งรั่งหลินเข้ามาทำงานที่ตั้ มหากรุ๊ปก่อน แล้วค่อยให้หวังตงเสงี่ยนไปสืบ ทีหลังขณะนั้นเองเหมือนว่าเซียวซูหนจะนึก อะไรขึ้นได้ เธอตบหน้าผากตัวเองพลางเอ่ย “ใช่ แล้วเย่เฉิน พรุ่งนี้ฉันมีนัดประชุมกับคนของทาง เหากรุ๊ป คงปลีกตัวไม่ได้ คุณช่วยไปรับ งหลินที่ สนามบินแทนฉันแล้วพาเธอไปทานข้าวหน่อย”

เย่เฉินตอบรับ “อย่างนั้นพรุ่งนี้ผมจะเตรียม การไว้ก่อน”

เขียว หรืนเอ่ยขึ้นอีก “อ้อม แล้ว คุณเลือก ร้านที่ดีหน่อยนะ ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน ใช้บัตรของ ฉันได้เลย”

เอ่ยพลางยนกระเป๋าเงินให้เขา เย่เฉินรีบเอ่ย “ไม่ต้อง ผมมีคนรู้จักเปิดร้าน อาหารแห่งหนึ่งถือว่าไม่เลวเลยล่ะ เดี๋ยวผม

จัดการเอง”

เอ่ยจบเย่เฉินก็หยิบมือถือขึ้นมาเพื่อที่จะส่ง ข้อความหาเฉินจื่อข่ายแห่งแชงกรีลาเพื่อให้อีก ฝ่ายจัดการเรื่องโต๊ะอาหารให้

ทว่าเขาคิดๆดูแล้ว แชงกรีลาจะเก็บไว้ เซอร์ไพรส์ภรรยา เรื่องต้อนรับต่งรั่งหลินเปลี่ยน เป็นที่อื่นจะดีกว่า

เขาจึงเลือกที่จะส่งข้อความหาท่านหงห้า คนนั้น

“ผมจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับเพื่อน คุณช่วย เตรียมโรงแรมระดับไฮคลาสให้หน่อยแต่ไม่เอาโรงแรมแชงกรีลานะ”

ชั่วอึดใจท่านหงห้าก็ส่งข้อความตอบกลับ มา “คุณเย่วางใจได้ กระผมมีภัตตาคารแห่งหนึ่ง ชื่อเทียนเซียงผู้ เป็นภัตตาคารที่มีชื่อเสียงพอๆ กับภัตตาคารระดับสูงของเมืองจินหลิงและแซงก รีลาเลย พรุ่งนี้ผมจะจัดห้องอาหารระดับไดมอนด์ ที่ดีที่สุดไว้ต้อนรับท่านเลย”

เย่เฉินตอบกลับแค่คําเดียว “อืม”

วันต่อมา เซียวซูหรืนอยู่ที่ตี้เหากรุ๊ปทั้งวัน

เพื่อจัดการเรื่องสัญญาความร่วมมือ

เย่เฉินได้ต่อสายหาหวังตงเสงี่ยนรอง ประธานของตี้เหากรุ๊ปเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่อง ที่ต่งรั่งหลินจะเข้ามาทำงาน

หวังตงเสงี่ยนตกตะลึงมากที่เย่เฉินรู้เรื่องนี้ เธอจึงบอกว่าตำแหน่งที่ตงรั่งหลินเข้ามาสมัครคือ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรการซึ่งเป็นตำแหน่งระดับ กลาง ทางบริษัทเห็นว่าประวัติของเธอไม่เลวเลย จึงรับเธอเข้ามา อีกทั้งยังกำหนดแล้วว่าจะเข้ามา ทํางานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

เย่เฉินจึงย้ำเตือนเธอว่าหลังจากที่ต่งรั่ง หลินเข้ามาทำงานแล้ว ให้สังเกตดูผู้หญิงคนนี้ หน่อย หากมีการเคลื่อนไหวใดๆให้รายงานเขา
เมื่อสั่งงานเรียบร้อย ตอ นบ่ายเย่เฉิน โบกรถไปยังสนามบิน เพื่อไปรับ เพื่อนรักของ

โดยสารรถแท็กซี่มาถึงสนามบิน ขณะที่เย่ เฉินกำลังจะไปโถงผู้โดยสารขาเข้าก็มีรถเมอร์ซิ เดสเบนซ์คันหนึ่งเหยียบเบรกกะทันหัน จอดอยู่ด้านหน้าของเขา

ฉับพลันเซียวไห่หลงลูกพี่ลูกน้องของเซียว ก็โผล่หัวออกมาจากรถและขมวดคิ้วมองเย่ เฉินด้วยความแปลกใจ “เย่เฉิน แกมาได้ไง?

ฉันมารับเพื่อนของแล้วพวก นายมาทําอะไรกัน?”

เย่เฉินขมวดคิ้วเขาพบว่าในรถคันนี้ล้วน มีแต่คนกันเองทั้งนั้น นอกจากเซียวไห่หลงก็มีหวัง เหวินเฟยและเซียวเวยเวย

เซียวหลงเอยอย่างดูถูก “แกหมายถึง คุณต่งใช่ไหม? คุณต่งมีพวกเราคอยดูแลแล้ว ไม่ ต้องถึงมือแกหรอก ไสหัวไปเถอะ!”

เย่เฉินส่งเสียงหีในคอพลางเอ่ย “อยาก ไสหัวไปนายก็ไปคนเดียวเถอะ”

เอ่ยจบเย่เฉินก็ไม่ได้สนใจพวกเขาเดิน มุ่งเข้าไปยังโถงผู้โดยสารขาเข้าทันที

เซียวไห่หลงกำลังจะเอ่ยปากด้วยความ โมโห ทว่าเซียวเวยเวยอยู่ด้านข้างรีบเอ่ยเตือน“พี่ คุณต่งใกล้จะถึงแล้ว คุณย่าเตือนพี่แล้วว่า ต้องสร้างความประทับใจที่ดีให้กับคุณต่ง! หาก ได้เธอมาเป็นพี่สะใภ้ตำแหน่งของพี่ในตระกูลก็จะ ไม่มีใครมาเทียบได้ อย่าเพิ่งใส่ใจไอ้สวะคนนี้ เลย”

เขียวไหหลงจึงได้สติ

เกือบลืมจุดประสงค์ที่มาในวันนี้แล้ว

ความจริงแล้วเรื่องที่มาต้อนรับต่งตั่งหลิน นั้นคือจุดประสงค์รอง สร้างความประทับใจและ คว้าเธอให้มาอยู่ในกำมือต่างหากคือจุดประสงค์ หลัก

อ่านาจของตระกูลต่งในเย่นจิงนั้นไม่ ธรรมดา หากได้คบหากับเธอตำแหน่งและฐานะ ของเขาก็จะสูงขึ้น ตระกูลเซียวก็จะได้อาณิสงค์ ไปด้วย

ดังนั้นเขาจึงอดกลั้นความไม่พอใจที่มีต่อเย่ เฉินไว้ คนทั้งรถรีบลงจากรถแล้วรีบมุ่งเข้าไปยัง โถงผู้โดยสารขาเข้า

ขณะนั้นเองท่ามกลางคนมากมายก็มีหญิง สาวคนหนึ่งหน้าตาสวยงามโดดเด่น

เธอมีผมยาวสีน้ำตาลแดง สวมชุดเดรสสี ขาวรูปร่างสมบูรณ์แบบ

ถึงแม้ว่าเธอจะสวมแว่นกันแดด ทว่าผิวขาว ราวกับกระเบื้อง ริมฝีปากสีเชอร์รี่และความสวยทั้งหมดของเธอไม่อาจถูกบดบัง

เมื่อมองอย่างละเอียดความสวยนั้นไม่แพ้ เขียวชหรับเลย เรียกได้ว่าทั้งสองคนนั้นสวย และแบบ

ฉับพลันสายตาของคนที่มารับผู้โดยสาร ล้วนจับจ้องอยู่ที่เธอคนเดียว

Cานเขียวไห่หลงนั้นอึ้งไปแล้ว

แม้แต่คนที่ตามมาดูเรื่องสนุกอย่างหวังเห

วินเฟยก็ตกตะลึงจนอดที่จะเอ่ยปากขึ้นไม่ได้ “สม กับที่เป็นลูกสาวตระกูลดังแห่งเย่นจิง ออร่าช่าง โดดเด่นเสียจริง”

ขณะนั้นเองตงรั่งหลินก็เห็นทุกคนจึงรีบ เดินฝ่าฝูงชนเข้ามาพลางโบกมือให้กับพวกเขา “ไห่หลง เวยเวย เย่เฉิน ไม่เจอกันนานเลยนะ!”

เขียวไห่หลงรีบแย่งพูด “ไม่เจอกันนานนะ รั่งหลิน คุณสวยกว่าเดิมแล้ว”

เย่เฉินยิ้มพลางทักทายกลับ “ไม่เจอกันนาน เลย

เซียวไห่หลงจึงรีบเอ่ย “รั่งหลิน พอรู้ว่าคุณ จะมาผมก็ตั้งใจจองห้องอาหารของโรงแรมที่ดี ที่สุดในเมืองจินหลิงไว้ต้อนรับคุณเลยนะ เรารีบ ไปกันเถอะ”

ต่งรั่งหลินเหลือบมองเย่เฉินแวบหนึ่ง ก่อน จะหันไปเอ่ยขอโทษเขียวไห่หลง “ไห่หลงขอโทษด้วยนะ ฉันนัดกับชู รันและเย่เฉินไว้ก่อน แล้ว เอาไว้เราค่อยนัดกันใหม่โอกาสหน้านะ ยังไง ฉันก็ยังอยู่ที่เมืองจีนหลังอีกนาน ยังมีโอกาสอีก เยอะ”

เซียวไห่หลงได้ยินดังนั้นไฟโทสะก็ลุกโชน วันสําคัญขนาดนี้ ไอ้คนชั้นต่ำอย่างเย่เฉินยังมาส ร้างความวุ่นวายให้กับตน ช่างน่ารังเกียจที่สุด

ดังนั้นเขาจึงตั้งใจเอ่ย “รั่งหลิน ผมจอง เทียนเซียงฟู่ภัตตาคารที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมือง จินหลิงไว้ต้อนรับคุณโดยเฉพาะเลยนะ อีกทั้งยัง เป็นห้องอาหารระดับโกลด์ที่มีราคาต่ำสุดอยู่ที่ สามแสน!”

ขณะที่เอ่ยก็หันไปเหน็บแนมเย่เฉินอย่าง ดูถูก “ไม่รู้ว่าคนที่เป็นน้องเขยของผมจองห้อง อาหารที่ไหนไว้? หากเป็นร้านระดับต่ำก็ถือ เป็นการไม่ให้เกียรติคุณน่ะสิ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ