ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1362



บทที่ 1362

และทั้งสองคน ไม่มีใครมองผู้ตัดสิน และไม่มองกันและกัน ทั้ง คู่จับจ้องไปที่เเฉินที่อยู่ด้านล่างเวที

ทันใดนั้นเเงินก็รู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก

คิดไม่ถึงว่าหญิงสาวทั้งสองคน จะไม่เตรียมเข้าแข่งขัน พอขึ้น เวทีก็จ้องมองตัวเองไม่หยุด

ตัวเองหล่อขนาดนั้นเชียวเหรอ? สนใจเรื่องสำคัญหน่อยไม่ได้ รึไง?

กำลังคิดอยู่ ผู้ตัดสินที่อยู่บนเวทีรู้สึกอึดอัดเช่นกัน จึงกระแอม ขึ้นมาเบาๆ แล้วพูดว่าทั้งสองท่านครับ ได้ตั้งใจฟังที่ผมพูด เปล่าครับ?

ฉันเอ้าเสวียนสติกลับมาได้ก่อน เธอรีบพูดอย่างเขินๆ “ขอโทษ ค่ะผู้ตัดสิน เมื่อกี้สติหลุดไปหน่อยค่ะ”

ผู้ตัดสินถึงกับไม่รู้จะทำอย่างไร จึงหันไปมองอิโตะ นานา โกะ”คุณอิโตะครับ คุณล่ะ?

ทันใดนั้นใบหน้าของอิโตะ นานาโกะก็แดงระเรื่อขึ้นมา เธอ รีบพูดด้วยเสียงต่ำ”ขอโทษค่ะผู้ตัดสิน ฉันก็สติหลุดเหมือนกัน ค่ะ”

พูดจบ เธอก็อดมองไปที่ฉันเอ้าเสงี่ยนไม่ได้ ถึงได้พบว่า บนใบหน้าของฉันเอ้าเสงี่ยน เต็มไปด้วยความเขินอายของหญิงสาว เธอจึงแอบคิดในใจว่า ฉันเอ้าเสวียนคนนี้ ชอบเย่เฉินนั้นเห รอ?

ฉันเสวียนในตอนนี้มองไปที่อิโตะ นานาโกะอย่างแปลกใจ

ถึงแม้อิโตะ นานาโกะจะเยือกเย็นเงียบสงบกว่าตนเอง แต่ ใบหน้าของเธอก็แดงเช่นกัน ดังนั้น ในใจของเธอจึงอดตกใจไม่ ได้

“ไม่ใช่แล้วมั้ง? อิโตะ นานาโกะคนนี้ หรือว่าจะชอบอาจาร เย่ เหมือนกับตนเอง

แต่ ในไม่ช้าเธอก็โล่งใจ แล้วคิดในใจว่า ผู้ชายดีๆอย่างอา จารย์เย่ กลัวว่าผู้หญิงส่วนใหญ่ จะไม่สามารถต้านทานเสน่ห์ของ เขาได้มั้ง? ดังนั้น อิโตะ นานาโกะจะชอบอาจารย์เยก็เป็นเรื่อง ปกติเช่นกัน ถึงจะเป็นหญิงสาวยุโรป ดีไม่ดีอาจจะชอบอาจาร ย์เย่เหมือนกัน”

“เห้อ น่าเสียดาย เนื่องจากอาจารย์เยเป็นคนที่ผ่านการ แต่งงานแล้ว ถึงจะมีผู้หญิงที่ชอบเขามากเท่าไร เกรงว่าคงจะมี โอกาสคบกับเขาได้จริงๆล่ะมั้ง? คุณพ่อเอาแต่บอกให้ฉันเข้า ใกล้กับอาจารย์เย่ พยายามทำให้อาจารย์เยชอบฉัน แต่ตั้งนาน ขนาดนี้แล้ว ก็ไม่เห็นแววที่อาจารย์เย่จะมีความรู้สึกอะไรให้ฉัน

หญิงสาวทั้งสองคนต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง ตกอยู่ในภวังค์
เดิมทีผู้ตัดสินคิดว่าดึงความสนใจของพวกเธอกลับมาได้แล้ว จึงพูดบ่นออกมาเยอะแยะมากมาย หลังจากนั้นพบว่าดวงตาของ ทั้งสองคนยังคงไม่ได้มองมาที่ตนเอง ดูเหมือนกำลังอยู่ในภาวะ เหม่อลอย เขารู้สึกปวดหัวเป็นอย่างมาก จึงเอ่ยถามว่าทั้งสอง ท่านฟังเข้าใจรึยังครับ?

อิโตะ นานาโกะรีบพูด “กรรมการคะ ขอโทษค่ะ เมื่อคุณพูด ว่าอะไรนะคะ? ”

ใบหน้าของฉันเอ้าเสงี่ยนเต็มไปด้วยความเขินอาย

ผู้ตัดสินถึงกับยอมแพ้ แล้วพูดเสียงต่ำ ทั้งสองท่านครับ พวก คุณคือนักกีฬาสาวชั้นนำต่อสู้แบบฟรีสไตล์ เดินทางมาจนถึงรอบ ชิงชนะเลิศแล้ว อย่ามีข้อผิดพลาดในรอบตัดเชือก ผู้ชมเยอะแยะ และนักข่าวมากมายกำลังจับจ้องมาที่พวกคุณทั้งสองคน

ฉันเอ้าเสงี่ยนกล่าวขอโทษขอโทษค่ะกรรมการ พวกเราจะ ตั้งใจแข่งขันค่ะ เราจะตั้งใจค่ะ !

อิโตะ นานาโกะที่อยู่ข้างๆแลบลิ้น แล้วพูดอย่าง ตั้งใจ”กรรมการคะ เราเตรียมพร้อมแล้วค่ะ”

กรรมการพยักหน้า แล้วพูดว่า “วันนี้พวกคุณไม่มีครูฝึกมาด้วย

ใช่ไหม? ”

“ค่ะ”ทั้งสองพยักหน้าพร้อมกัน

ครูฝึกของฉันเอ้าเสงี่ยนคือเเฉิน แต่วันนี้เเฉินไปนั่งเป็นผู้ชมไม่ได้ให้คำแนะนำกับเธอบนสังเวียน

และครูฝึกของอิโตะ นานาโกะ ยังนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยดูการ ถ่ายทอดสด เพราะฉะนั้นวันนี้ทั้งสองจึงไม่มีครูฝึกตามมาด้วย

กรรมการจึงตั้งใจพูดว่า “ทั้งสองท่านเป็นยอดฝีมือ และรู้ว่า หมัดและเท้าไร้ดวงตา (เปรียบเปรยใช้เตือนว่าการต่อสู้ต้อง ระวังถ้าไม่ระวังอาจจะเกิดอันตรายได้) เพราะฉะนั้นเมื่อเริ่ม แข่งขัน ถ้าหากได้รับบาดเจ็บ ต้องพยายามตัดสินสถานการณ์ ของตัวเองให้แม่นยำ อย่ายืนกรานอย่างหน้ามืดตามัว ถ้าไม่ไหว รีบบอกกับผม เพื่อที่ผมจะได้เข้าจบการแข่งขันได้ทัน เข้าใจไหม ครับ?

ปกติ เมื่อถึงจุดไคลแม็กซ์ หรือผู้เข้าแข่งขันเข้าสู่ช่วงที่ อันตรายที่สุด ครูฝึกจะเป็นผู้โยนผ้าเช็ดตัวยอมแพ้

แต่ ถ้าครูฝึกไม่อยู่บนสนาม ผู้เข้าแข่งขันก็จะต้องพึ่งตัวเอง

แต่บางครั้งผู้เข้าแข่งขันต่อสู้จนมึนงง หรือได้รับบาดเจ็บจนไม่ สามารถโต้ตอบได้ แบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะฉะนั้นครูฝึกถึงได้เตือนพวกเธอ เมื่อถึงจุดที่ไม่ไหวแล้วอย่า พยายามฝืน

ทั้งสองจึงพยักหน้าอย่างจริงจัง

ด้วยเหตุนี้ ผู้ตัดสินจึงประกาศเสียงดังได้ เริ่มแข่งขัน! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ