ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 118 สับละเอียดแล้วโยนให้สุนัขกิน



บทที่ 118 สับละเอียดแล้วโยนให้สุนัขกิน

ท่าทีของคุณชายหลี่เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ซึ่งหวั่นถึงถึง กับตะลึง คางจะตกหล่นลงไปกองที่พื้นอยู่แล้ว

แม้ว่าในใจจะโมโหอการกระทําของคุณชายหลี่เมื่อก่อน หน้านี้ แต่ว่าตอนนี้ก็ดีใจถึงขนาดอยากที่จะตะโกนเสียงดังออก มา

แต่เธอก็ยังคงอดกลั้นเอาไว้ พูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเรา ก็นัดหมายเวลาและสถานที่สำหรับจัดพิธีการลงนามเซ็นสัญญา

คุณชายหลี่ก็รีบพูดกลับว่า: “เซ็นสัญญายิ่งเร็วยิ่งดี อย่างนี้ แล้วกัน พรุ่งนี้ผมจะบินมาที่เมืองจีนหญิง มาคารวะคุณส่งด้วย ตนเอง!!

ซึ่งหวั่นถึงวางสายโทรศัพท์ และใกล้ที่จะเคารพเลื่อมใสในตัว ของเ เฉิน……

เมื่อสักครู่ทั้งสองครั้งที่พูดคุยโทรศัพท์กับคุณชายหลี่ ก็ สามารถที่จะเห็นถึงความเก่งกาจของเเฉินบ้างแล้ว

อาจารย์ล่ายนักหลอกลวงผู้นั้นเมื่อทำลายประตูเป็นเพียงหนึ่ง เดียวของค่ายล็อกมังกร คุณชายหลีก็โทรศัพท์มาหาเพื่อปฏิเสธ การร่วมมือ และยังพูดว่าอาจารย์ฮวงจุ้ยของคุณพ่อของเขารู้ว่า ตนเองมีโชคชะตาที่ไม่ดี และเมื่อเยเฉันได้ทําลายค่ายลง ฝ่าย ตรงข้ามก็โทรศัพท์มาหาทันทีบอกว่าตนเองโชคชะตาด้านเงินทองโชคลาภดีมาก ซึ่งนี่ก็คือหลักฐานที่ยืนยันบอกถึงความสา มารถของเยเงินได้เป็นอย่างดี

ซึ่งหวั่นถึงที่ตกตะลึงยังไม่ทันจะหาย ก็ได้รับโทรศัพท์อีกสาย หนึ่งซึ่งเป็นคนแปลกหน้าโทรเข้ามาหา ฝ่ายตรงข้ามถามว่า “ขอ ถามว่าใช่คุณซึ่งใช่ไหม? “

“ใช่ฉันเอง คุณคือใครเหรอ? ”

ฝ่ายตรงข้ามพูดว่า “คุณซึ่ง ฉันคือผู้จัดการร้านสินค้าแบรนด์ Hermes สัปดาห์ที่แล้วคุณได้มาลองชุดเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ที่ร้านของเรา คุณยังจำได้ไหม? ”

ซึ่งหวั่นถึงพูดว่า: “ใช่ จำได้ มีอะไรเหรอ? ”

ฝ่ายตรงข้ามพูดว่า “คือว่าแบบนี้ เมื่อสักครู่พวกเราพบเจอ เครื่องประดับเพชรหนึ่งเส้นที่ตกหล่นอยู่ในซอกมุมของห้องลอง เสื้อผ้า บนเครื่องประดับนั้นสลักชื่อของคุณไว้ จึงคิดว่าทางคุณ น่าจะได้ทําตกหล่นเอาไว้ที่ร้าน ดังนั้นจึงโทรศัพท์มาเพื่อ สอบถามและยืนยัน! ”

ซ่งหวั่นถึงตื่นเต้นสั่นไปทั้งตัวในทันที แล้วถามต่อว่า “สร้อย ข้อมือตอนนี้อยู่ที่ไหนเหรอ? อยู่ที่คุณใช่หรือเปล่า? ”

“ใช่แล้ว อยู่ที่ร้านของเรา

“อย่างนั้นเดี๋ยวฉันจะไปรับกลับคืน!

เมื่อวางสายโทรศัพท์แล้ว ซึ่งหวั่นถึงควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ น้ำตาจึงไหลออกมา เธอมองไปที่เย่เฉิน ซาบซึ้งใจอย่างที่สุดสะอึกสะอื้นและพูดว่า “คุณเย่ สร้อยข้อมือที่แม่ของฉันหลงเหลือ เอาไว้หาเจอแล้ว ขอบคุณคุณเป็นอย่างมากจริง ๆ…….

เย่เฉินยิ้มแล้วพูดว่า “หาเจอก็ดีแล้ว หากคุณซ่งร้อนใจ ก็รีบ ไปเอาสิ่งของกลับคืนมาเถอะ!”

ซึ่งหวั่นถึงพยักหน้า แล้วรีบเขียนเช็คเงินสดยี่สิบล้าน มอบให้ แก่เย่เฉิน พูดว่า “คุณเย่ นี่คือสิ่งตอบแทนความขอบคุณจากใจ ของฉัน ขอให้คุณรับมันเอาไว้ “

เย่เฉินยิ้ม ปัดแกว่งมือไปมา

ยี่สิบล้าน?

ตนเองไม่ขาดแคลนเงินยี่สิบล้านนี้จริง ๆ…….

ตนเองมีเงินสดเกือบหมื่นล้านอยู่ที่บ้านก็ไม่รู้จะนำไปใช้จ่าย อะไร แล้วจะรับเงินยี่สิบล้านของเธอไปเพื่ออะไรกัน?

ครั้นแล้ว เขาก็พูดว่า “คุณซ่ง คุณกับฉันก็นับว่าเป็นเพื่อนกัน แล้ว เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ก็คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินค่าตอบแทน

ซึ่งหวั่นถึงก็ยังยืนหยัดและพูดว่า: คุณเย่ เงินยี่สิบล้านนี้เป็น สินน้ำใจของฉัน ดังนั้นหวังว่าคุณจะรับมันไว้ ไม่อย่างนั้นฉันคง รู้สึกเสียใจเป็นแน่!

เย่เฉินพูดว่า “คุณซัง วันหลังเราคงอาจจะได้พบเจอกันอีก แล้วทำไมจะต้องมาคิดคำนวณให้มันชัดเจนแบบนี้”

ซึ่งหวั่นถึงเมื่อได้ยินดังนั้น ก็กระจ่างในทันที เธอรีบเก็บเช็คขึ้นและกล่าวคำขอโทษว่า “ขอโทษด้วยคุณเย่ คือฉันเองที่โง่เขลา อนาคตหากคุณไม่มีเรื่องอะไร ก็บอกกันมาได้เลย ซึ่งหวั่นถึงไม่ กล้าที่จะปฏิเสธ! ”

เย่เฉินตกลง แล้วพูดว่า “ก็ตามนี้ รีบไปเอาสร้อยข้อมือของ คุณกลับคืนมาได้แล้ว! ”

ซึ่งหวั่นถึงพยักหน้า เธอก็ทนรอไม่ไหวแล้วที่จะนำสร้อยข้อมือ ของตนเองกลับคืนมา ดังนั้นหลังจากที่ขอบคุณเย่เฉินอย่างที่สุด แล้ว ก็เร่งรีบให้ลุงขับรถพาเธอออกไปจากบ้าน

เมื่อเขาทั้งสองออกไปแล้ว ท่านหงห้าก็รู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก ต่อเย่เฉิน กุมมือของเขา พูดอย่างตื่นเต้นว่า “คุณเย่ คุณเป็นคน ที่น่าเคารพจริง ๆ ต่อไปนี้หากคุณมีเรื่องอะไร ต่อให้ลำบากยาก เข็นแค่ไหน ฉันก็จะช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ! ”

เย่เฉินหัวเราะแล้วพูดว่า “จําค่าที่คุณพูดเอาไว้นะ ต่อไปฉัน อาจจะมีเรื่องรบกวนให้คุณช่วยเหลือ! ”

ท่านทั้งห้ารับพยักหน้าทันที “คุณเม่มีเรื่องอะไร ก็บอกมาได้

เลย! ”

ในตอนนี้ อาจารย์สายที่นอนคว่ำบนพื้นก็ร้องไห้และขอร้อง ว่า: “พี่ใหญ่ ขอร้องให้คุณคิดว่าฉันเป็นเพียงแค่ผายลมที่ปล่อย ออกมาแล้วก็ผ่านไปเถอะ ต่อไปฉันจะไม่กล้าอีกแล้ว! ”

ท่านทั้งห้าหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “แกไอคนหลอกลวง เดี๋ยวคนของฉันก็จะมาถึงแล้ว พวกเขามีวิธีการจัดการกับแก แน่นอน! ”
เยเฉันถามอย่างเบา ๆ ว่า “คุณเตรียมที่จะจัดการกับเขา อย่างไร? “

ท่าหงห้าตอบว่า “ฉันบอกแล้วว่าจะสับละเอียดแล้วโยนให้ สุนัขกิน พูดแล้วก็ต้องทำตามคำพูด? ฉันมีลูกน้องคนหนึ่ง เปิด บ่อนสู้สุนัขแห่งหนึ่ง ไม่เพียงแค่เขาเพียงคนเดียว ต่อให้มีแบบ เขาสิบคนก็กินหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้เศษซาก

อาจารย์ถ่ายเมื่อได้ยินดังนั้น กลัวจนเสียขวัญกำลังใจหมดสิ้น น้ำมูกย้อยน้ำตาไหลแล้วขอร้องว่า “ลูกพี่ ฉันมีผู้อาวุโสและเด็ก เล็กที่ต้องดูแล ขอร้องท่านปล่อยชีวิตฉันไปเถอะ ฉันยอมเป็นวัว เป็นควายรับใช้ตอบแทนบุญคุณของท่าน………

เย่เฉินมองดูเขาอีกครั้ง ก็ยังไม่เกิดความเห็นใจใด ๆ

กลการหลอกลวงลักษณะนี้ เปรียบเสมือนกับหมอเถื่อนไม่มี ผิด หมอเถื่อนหากรักษาไม่หายก็จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต ผู้ที่ หลอกลวงดูฮวงจุ้ยผิด ๆ เช่นนี้ หากเกิดการผิดพลาดไป ก็อาจจะ ทําให้ถึงกับเสียชีวิตได้

พูดตามจริง คนชั่วที่เห็นชีวิตคนเป็นเพียงแค่ต้นหญ้า ก็สมควร ต้องตายจริง ๆ

นอกจากนี้ วันนี้เขาต้องการที่จะหลอกเงินของทุ่งหวั่นถึง จึงได้ ทําค่ายล็อคมังกรขึ้น และเพียงอีกไม่นานซึ่งหวั่นถึงนั้น ชะตา ชีวิตคงจะหมดสิ้นและก็เสียชีวิตไปอย่างแน่นอน

ซึ่งคนอย่างเธอนั้น ครอบครองทรัพย์สมบัติกว่าหมื่นแสนล้าน หากว่าโชคและชะตาชีวิตหมดสิ้นลง ไม่รู้ว่าคนอีกจำนวนเท่าไหร่จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องและได้รับความลำบาก ถ้าเป็นเช่นนั้น ผู้ที่ ถูกให้ร้ายคงไม่ใช่เพียงแค่ส่งหวั่นถึงคนเดียวเท่านั้น

ดังนั้น คนสารเลวแบบนี้ ไม่สมควรที่จะปล่อยให้อยู่บนโลกนี้ ได้อีกต่อไป

ขณะนั้นเอง ลูกน้องของท่านหงห้าก็มาถึง และได้จับอาจารย์ สายลวงโลกนั้นประคองขึ้นมา แล้วก็นำตัวออกไป

ก่อนที่อาจารย์จะออกถูกนำตัวไปนั้นตะโกน โอดครวญร้อง และพูดว่าตัวเองนั้นน่าเวทนา ถูกใส่ความ และเสียใจเป็นอย่าง มาก แต่ก็ไม่มีใครที่จะสงสารเห็นใจในตัวเขาเลย

เย่เฉินเห็นแล้วก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา ก็ได้พูดเอาไว้แล้วว่าวันนี้ เขาจะมีทุกข์ขนาดเลือดตกยางออก ยังจะไม่เชื่อ ก็น่าสมน้ำหน้า อยู่หรอก

เมื่อเรื่องถูกอย่างได้รับการแก้ไขเรียบร้อยหมดแล้ว ท่านหง ห้าก็ขอบคุณเยเงินอย่างที่สุด และได้ส่งเเฉินกลับบ้าน

เมื่อกลับไปถึงบ้าน เซียวซูหนยังคงกำลังวิจัยเรื่องงานอยู่

เย่เฉินก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ที่จริงแล้วตัวเก๋เฉินเองนั้นต้องการ ที่จะสนับสนุนให้เชียวชูหนเปิดบริษัทจัดตั้งธุรกิจขึ้น แต่เห็นว่า เซียวซูหนเองก็ไม่ได้มีความคิดแบบนี้ เขาจึงไม่พูดอะไร

เขาไม่ต้องการให้เชียวชูหนเหนื่อยเกินไป ถ้าหากว่าเปิด บริษัทจัดตั้งธุรกิจเองแล้ว งานในช่วงแรกเริ่มนั้นยุ่งยากมากมายและตามลักษณะนิสัยของเซียวหวั่นเองที่จะต้องลงมือทำเองใน ทุกอย่างแล้ว กลัวว่าจะต้องเหนื่อยและลำบากพอสมควร

ในช่วงหัวค่ำ เยเงินรับสายโทรศัพท์ของหวังเต่าคนที่เป็น เพื่อนรักสมัยศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย

นับจากที่ได้ช่วยเหลือหวังเต้าคนจัดการกับชายโฉดหญิงชั่วค นั้นที่โรงพยาบาล เมื่อปลดปล่อยความโมโหออกไปแล้ว เย่เ นก็ไม่ได้ไปหาเขาอีกเลย ที่สำคัญเป็นเพราะที่บ้านมีธุระมากมาย ไม่มีเวลาที่จะไปมาหาสู่กันจริง ๆ

หวังเต้าคนบอกกับเเงินผ่านทางโทรศัพท์ว่า เขาฟื้นฟู ร่างกายได้ดีพอสมควรแล้ว และวันนี้ได้ออกจากโรงพยาบาล เป็นที่เรียบร้อย

เนื่องมาจากก่อนหน้านี้ที่เเฉินได้ช่วยเขาเรียกร้องสิทธิเอา โรงแรมกลับคืน และยังได้เงินชดเชยกลับมาอีกกว่าเป็นล้าน ดัง นั้นเขาเรื่องแรกที่เขาทำหลังจากออกจากโรงพยาบาล ก็คือ อยากที่จะชวนเพื่อนสมัยเรียนที่สนิทสนมรับประทานข้าวด้วยกัน

เย่เฉินได้ยินว่าเพื่อนรักออกจากโรงพยาบาลแล้ว ก็ตอบตกลง รับค่าชวนอย่างไม่ลังเล

ขณะนั้น เซียวซูหนเพิ่งอาบน้ำเสร็จและกำลังเดินออกมาจาก ห้องน้ำ แล้วก็ถามเย่เฉินว่า “ดึกขนาดนี้แล้ว ใครโทรศัพท์มาหา คุณเหรอ?”

เย่เฉินบอกว่า: “เต้าคนออกจากโรงพยาบาลแล้ว จะชวนกัน ไปทานข้าว พรุ่งนี้เราไปด้วยกันนะ
เชียวหรับพยักหน้าแล้วพูดว่า “ตกลง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ