ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1042



บทที่ 1042

เย่เฉินก็ยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “ถ้าหากว่าใช้วิธีการฆ่าฟันมาแก้ ทุกๆ ปัญหาล่ะก็ งั้นคนตระกูลอู่ก็ตายกันไปหมดแล้ว บางคน สมควรตาย แถมยังต้องรีบฆ่าไวๆ เช่นพวกสำนักขอทาน แต่บาง คน ฆ่าทิ้งไปก็หมดสนุกพอดี

เย่เฉินพูดจบ ก็ยิ้มๆ แล้วพูดอีกว่า “คุณนึกถึงโคบายาชิอิจิโร่ ที่อยู่ที่ฟาร์มเลี้ยงหมาของคุณดูสิ จริงๆ แล้วก็สมควรฆ่ามันไป เสีย แต่ทำไมผมถึงไว้ชีวิตมันล่ะ? ก็เพราะว่าผมรู้สึกว่าคนคนนี้มี ชีวิตอยู่ มันน่าจะมีประโยชน์ มีชีวิตอยู่ ถึงจะมีอะไรที่มากกว่านี้ แต่ถ้ามันตายไป หลายๆ เรื่องก็อาจจะหมดสนุก ตระกูล เหมือนกัน ตระกูลเว่ยก็เหมือนกัน”

ในใจของเย่เฉิน ทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ ล้วนอิงอาศัยซึ่งกันและ กัน ขัดขวางซึ่งกันและกัน

ตนเองไว้ชีวิตโคบายา ชิอิจิโร่ ก็เพื่อจะเอาไว้ขัดขวางกับน้อง

ชายของมัน โคบายา ชิจิโร่

ที่ตนเองไว้ชีวิตคนสองพ่อลูกตระกูลเว่ย ก็เพราะว่าจะให้พวก มันขัดขวางกันกับเว่ยเลี่ยง

โคหลงใหลยา ชิอิจิโร่ตายไปจริงๆ ล่ะก็ อนาคตถ้าตนเอง อยากจะควบคุมโคบายาชิจิโร่ หรือแม้กระทั่งควบคุมบริษัทผลิต ยาโคบายา ก็จะเสียหมากตัวสำคัญไป
ถ้าอนาคตเว่ยเลี่ยงมีใจเป็นอื่น ตนเองก็จะสามารถเอาตระกูล เวียมาควบคุมเขาได้

นี่เป็นความคิดของกษัตริย์ในสมัยโบราณ

ผู้นำที่ชาญฉลาด ไม่เคยเชื่อถือขุนนางที่ฉ้อโกง และไม่เคย เชื่อขุนนางที่ภักดีอย่างแท้จริง

แต่ว่า ในราชสำนักไม่มีทางที่จะไม่มีขุนนางฉ้อโกง เพราะว่า ขุนนางฉ้อโกงเป็นตัวสำคัญที่จะเอามาคานอำนาจของขุนนาง ภักดี

ถ้าขุนนางภักดี ไม่มีขุนนางฉ้อฉลมาคานอำนาจล่ะก็ มันก็จะ ได้ใจขึ้นไปทุกวัน ไม่มีกษัตริย์อยู่ในสายตา แล้วก็จะค่อยๆ กลายเป็นขุนนางฉ้อโกง

ดังนั้นเย่เฉินก็เลยต้องการ คนที่คนละฝั่งมาคานอำนาจซึ่งกัน

และกัน

ตระกูลเย่ก็เป็นถึงสุดยอดตระกูลใหญ่ ลูกหลานของตระกูลเ แต่เด็กก็ร่ำเรียนสรรพวิชาต่างๆ เรื่องราวประวัติศาสตร์โบราณ จดจำขึ้นใจ เรียนรู้วิชาความเป็นกษัตริย์ แผนการพวกนี้ ก็เกือบ จะมาพร้อมกับเจ้าตัวตั้งแต่เกิดเลย

ดังนั้น เย่เฉินก็ส่ายหัวพูดว่า “ถ้าฆ่าสองพ่อลูกเว่ยหย่งเจิ้ง ก็ เท่ากับว่าผมนั้นเกรงกลัวตระกูล นี่มันเป็นการบอกจุดอ่อน แต่ ผมนั้นไม่เคยแสดงความอ่อนแอ

พูดจบ เขาก็พูดนิ่งๆ ว่า “ถ้าผมเดาไม่ผิดล่ะก็ ทางตระกูลคงจะส่งราชาบู๊ทั้งแปดไปแล้วล่ะ หรือไม่ก็พวกมันคงจะกำลังไปที่ ภูเขาฉางใบแล้ว”

“ห้ะ?! ” หงห้าและเว่ยเลี่ยงก็อ้าปากค้าง

เว่ยเลี้ยงพูดอย่างตกใจว่า “พวกมันคงจะไม่เร็วอย่างนั้นหรอ กมั้งครับ เพราะพวกมันก็เพิ่งตายกันไป15คน น่าจะกลับไป เตรียมความพร้อม เพื่อที่จะบุกเข้ามาใหม่

“ไม่หรอก! ” เยเฉันพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “ถ้าหากว่าเป็น ตงไห่ที่ส่งกองกำลังมาเอง งั้นเขาก็คงส่งยอดฝีมือไปนานแล้ว ดัง นั้น ผมเดาว่า คนที่สามารถสั่งการยอดฝีมือได้ น่าจะเป็นนาย ท่านใหญ่ของตระกูล

“การจะเปิดกิจการในสมัยก่อนก็ไม่ธรรมดา นายท่าน เริ่ม สร้างรากฐานจากศูนย์ ความสามารถ ความกล้าหาญ ล้วน มากกว่าคนทั่วไป ถ้าหากว่าเขาเป็นคนคุมเบื้องหลังทั้งหมดล่ะก็ แผนการก็จะร้ายกว่าของอู่ตงไห่หลายเท่า เขาคงจะต้องลงมือ ในตอนที่ทุกคนคิดว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่สามารถบุกโจมตีได้

พูดจบ เขาก็ยิ้มเบาๆ “และช่วงเวลาที่ไม่คิดว่าจะโจมตีได้นั้น ก็คือหลังจากที่เพิ่งพ่ายแพ้ไปเมื่อครู่นี้ ทุกคนคงคิดว่าเขาคงจะ กลับไปเตรียมกำลัง แต่เขากลับอยากจะโจมตีฝ่ายตรงข้ามให้ รับมือไม่ทัน

หงห้าก็ส่งเสียงตกใจ แล้วพูดว่า “อาจารย์เย่ครับ แล้วตอนนี้ พวกเราควรทำอย่างไรดี? ให้ส่งคนไปภายในคืนนี้เลยไหม? ” เย่เฉินโบกมือขึ้นปฏิเสธ แล้วพูดว่า “ถ้าฝ่ายนั้นส่งยอดฝีมือมาล่ะก็ จะส่งไปเท่าไรก็ไม่พอหรอก ไปตายเปล่าๆ ” หงห้าก็ตกใจมาก “อาจารย์เย่ครับ แล้วพวกเราจะทำอย่างไร กันดี? ”

เยเฉินก็พูดนิ่งๆ ว่า “เรื่องนี้พวกคุณไม่ต้องกังวลไป ผมมีแผน อยู่แล้ว ถึงอย่างไร จะบินจากซูหางไปที่ภูเขาฉางไป ก็ไกลอยู่ เหมือนกัน ยังมีเวลาให้เตรียมตัวอีกเยอะ!

เว่ยเลี่ยงได้ยินเย่เฉินพูดแบบนี้ ในสายตาก็มีความดีใจเผยอ อกมาเล็กๆ ภูเขาที่วางทับอกอยู่ ก็คลายออกไปได้เสียที

ดังนั้น เขาก็พูดอย่างซาบซึ้งว่า “ดูเหมือนว่าอาจารย์เข่จะมี แผนการในใจแล้ว! ผมเว่ยเลี่ยง ขอขอบคุณอาจารย์เยเป็น อย่างสูงครับ! ”

คนที่กลัวสองพ่อลูกตระกูลเว่ยกลับมามากที่สุด ก็คือ เว่ยเลี่ยง เขาไม่อยากเสียบริษัทผลิตยาเว่ยชื่อ ที่มาอย่างยากลำบาก แล้วต้องไปยกให้คนอื่น!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ