ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2209



บทที่ 2209

โดนเสียงปรบมือที่ดังสนั่นกับเสียงเอ่ยชมล้อมรอบ เซียว เวยเวยจึงเริ่มทำตัวไม่ถูก เธอพยายามตั้งสติ แล้วพูดต่อว่า “เรื่องที่สาม บริษัทโมเดลลิ่งซางเหมยของเราจะดำเนินธุรกิจใน รูปแบบใหม่ นโยบายการดำเนินงานมีดังนี้ค่ะ……..

ผู้หญิงเกือบสามร้อยคนข้างล่างเวที วินาทีนี้ตั้งตารอฟังสิ่งที่ เธอกําลังจะพูด

เซียวเวยเวยพูดอย่างจริงจังว่า “อันดับแรก บริษัทโมเดลลิ่ง ช่างเหม่ยก็จะยังเหมือนเมื่อก่อน จะให้บริการธุรกิจหรือส่วน บุคคลต่างๆ ในจินหลิงเป็นหลัก เราทุกคนเป็นผู้หญิง แล้วผ่าน เรื่องต่างๆ ที่คล้ายคลึงกันมา เพราะฉะนั้นทุกคนก็ถือว่าเป็นพี่ น้องกัน ถ้ามีพี่น้องคนไหนอยากจะทำอาชีพนี้ต่อ ฉันก็หวังว่าจะ มาร่วมงานกับบริษัทโมเดลลิ่งซางเหม่ย

“จากนั้น ฉันขอสัญญากับพี่น้องทุกคน ถ้าพี่น้องคนไหนเลือกที่ จะร่วมงานกับบริษัท โมเดลลิ่งช่างเหม่ย เราก็จะไม่มีทางรังแก เอาเปรียบค่าจ้างของทุกคนเหมือนเมื่อก่อนแน่นอนค่ะ!”

“แล้วเงื่อนไขของการร่วมงานกัน : ทางบริษัทจะรับผิดชอบ จัดสรรงานให้ทุกคน แล้วจะเปิดเผยสัดส่วนรายได้กับทุกคนด้วย ค่าจ้างทุกครั้งที่ออกงาน ทางบริษัทจะเก็บแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์เพื่อ นํามาบริหารบริษัท ส่วนอีกแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหลือก็จะเป็นของทุกคน!”

พอได้ยินว่าจะได้รับค่าจ้างในสัดส่วนแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ผู้ หญิงข้างล่างเวทีจึงพากันฮือฮาดีใจ ในวงการนี้ ไม่มีบริษัทไหนเลย ที่จะให้สัดส่วนค่าจ้างเยอะ

ขนาดนี้!

ตามเกณฑ์ทั่วไป ปกติจะแบ่งกันคนละครึ่ง เหมือนคนอย่าง หลิวจงฮุย ปกติให้แค่ยี่สิบสามสิบเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่แค่ได้น้อย แต่ยังข่มเหงพิธีกรหญิง ให้เซ็นสัญญาขายตัวอีก ถ้าเซ็นสัญญา ขายตัว พิธีกรหญิงก็จะได้ส่วนแบ่งแค่ประมาณสิบเปอร์เซ็นต์

เมื่อเทียบกันแล้ว เซียวเวยเวย ให้ข้อเสนอสัดส่วนแบบนี้ ถือว่า เป็นคนที่จิตใจดีมากๆ!

ความจริง ในใจเซียวเวยเวยเองก็รู้สึกว่า สัดส่วนนี้สูงเกินไป ถ้าหักต้นทุนก็บริหารงานบริษัท ต้นทุนค่าใช้จ่ายการจัดหางาน แล้ว กำไรที่เหลือก็น้อยมาก จะถึงห้าเปอร์เซ็นต์หรือเปล่าก็ยังไม่ กล้ารับประกัน

แต่ว่า เธอก็รู้สึกว่า ตัวเองจะทำให้เยเฉินผิดหวังในตัวเธอไม่

ได้

ถ้าตัวเองกลายเป็นคนอย่างหลิวจงฮุย เอาแต่คิดจะเอาเปรียบ พนักงาน งั้นเย่เฉินต้องผิดหวังในตัวเองแน่นอน

เพราะฉะนั้น เธอจึงกล้าตัดสินใจที่เสี่ยงแบบนี้ เวลาเดียวกัน ในใจเธอก็มีความเชื่อคอยพยุงใจไว้
“ขอแค่ฉันทำดี ใช้ใจทำ ทำให้ภาพลักษณ์ดูดี งั้นพิธีกรหญิง ภายใต้บริษัทโมเดลลิ่งช่างเหม่ยก็จะเพิ่มมากขึ้น งานที่รับก็จะ เยอะขึ้น ถึงแม้กำไรจะลดลง แต่ถ้าทำให้บริษัทใหญ่โตได้ งั้น กำไรของบริษัทก็จะมากขึ้นตามไปด้วย

“ก็อย่างเช่น ถ้าหนึ่งปีทำสิบล้าน แล้วกำไรยี่สิบเปอร์เซ็นต์ นั้น กำไรก็จะเท่ากับสองล้าน แต่ว่า ถ้าหนึ่งปีทำได้ร้อยล้าน ถึงแม้จะ ได้กำไรแค่ห้าเปอร์เซ็นต์ งั้นกำไรก็จะมากถึงห้าล้านเลยที เดียว!”

“เพราะฉะนั้น ฉันจะมองระยะสั้นไม่ได้ ต้องมองการณ์ไกล ต้องใช้สัดส่วนการแบ่งรายได้นี้ มาดึงดูดผู้หญิงเหล่านี้เพื่อมา ร่วมงานกับฉันอย่างเต็มใจ แถมยังสามารถดึงดูดผู้หญิงเข้ามา ร่วมงานกับบริษัท โมเดลลิ่งช่างเหม่ยได้มากขึ้นด้วย!

“เป้าหมายแรกของฉัน ก็คือทำให้บริษัทโมเดลลิ่งซางเหม่ย เป็นบริษัทโมเดลลิ่งที่ใหญ่ที่สุดในจินหลิง”

“ฉันต้องทุ่มแรงกายแรงใจ พยายามทำให้เป้าหมายสำเร็จ ให้ได้ แล้วทำให้พี่เขยเซอร์ไพรส์ในตัวฉันด้วย!!

ณ ขณะนั้น ผู้หญิงข้างล่างเวที ก็ถูกคำพูดของเซียวเวยเวย ดึงดูดเรียบร้อยแล้ว!

บริษัท โปร่งใส ส่วนแบ่งก็สูง แล้วเซียวเวยเวยยังยอมชดเชย เงินที่หลิวจงฮุยเอาเปรียบทุกคนคืนมา แค่ประเด็นนี้ ทุกคนก็

ไว้ใจเธอมากแล้ว

เพราะฉะนั้น ในใจลึกๆ ของเหล่าผู้หญิงก็ตัดสินใจได้แล้ว
ทันใดนั้น เซียวเวยเวยก็เอ่ยต่อว่า “ตอนนี้บริษัทมีเงินทุนการ ดำเนินงานห้าแสน ฉันจองรถตู้สิบสามที่นั่งไว้แล้วสามคัน เพื่อ ใช้สําหรับรับส่งพนักงานในบริษัทฟรี”

จากนั้น เธอก็พูดอย่างรู้สึกผิดว่า “แต่ว่า ตอนนี้เงินทุนมี จํานวนจำกัด เงินทุนส่วนใหญ่ก็นำออกมาชดเชยให้พี่น้องทุกคน เพราะฉะนั้นตอนนี้เราจึงเหลือแค่รถสามคน…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ