บทที่1408
เหว่ยกวงเบะปากกล่าวว่า “โธ่ ญาติผู้พี่ วางมาตใหญ่โตน่า ดูเลยนะ อยู่ในตระกูลเราสองคนมีศักดิ์เท่ากัน ต่อให้เธอเป็นพี่ สาวฉันแล้วอย่างไร? อีกไม่นานเธอก็เป็นแค่หญิงสาวที่ต้อง แต่งงานออกไปเท่านั้น พอเธอแต่งงานออกไปแล้ว เธอก็ไม่ใช่ คนของตระกูลอีก ถึงตอนนั้นก็คือคนนอกแล้ว เข้าใจไหม?”
เวลานี้เย่เฉินที่อยู่ด้านข้างอยากจะเอ่ยปากขึ้นมา แต่ยังคง อดทนไว้
เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องภายในของตระกูล ตนเองเป็น เพียงคนนอก หาจุดที่จะแทรกเข้าไปอย่างเหมาะสมไม่เจอจริงๆ
หากเวลานี้ตนเองสอดมือเข้ายุ่ง ก็จะเป็นการทำสงคราม โดย
ไร้ข้ออ้าง
อีกทั้งตอนนี้ยังไม่เข้าใจว่าที่อารองกับอาสามของตระกูลมา ที่นี่เพราะมีจุดประสงค์ใด ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสังเกตการณ์ดู อีกหน่อยก่อน
เวลานี้ กู้เย้นจงตะโกนอย่างเดือดดาลว่า “พอแล้ว! พูดเหลว ไหลกันให้น้อยๆ หน่อย!!
กล่าวจบ รอให้ทุกคนเงียบเสียงลง เขาถึงมองไปที่กู้เย็นเจิ้ง และกู้เย้นกาง พลางถามเสียงเย็นว่า “น้องรอง น้องสาม พวก นายสองคนอย่ามาพูดอ้อมค้อมวกไปวนมาอยู่ที่นี่เลย คิดจะทำอะไร คิดต้องการอะไร ก็จงพูดออกมาอย่างสง่าผ่าเผย ไม่คด ใน ข้องอในกระดูก ทำตัวเหมือนกับพวกป้าๆ ไปได้ ท่าชายชาตรี อย่างตระกูลเสียหน้าหมด!
กู้เย็นเจิ้งลูบคางก่อนจะยิ้มเจือแววชั่วร้ายบางส่วนออกมา กลับจงใจแสร้งถามด้วยความห่วงใยว่า “พี่ใหญ่ ผมได้ยินว่า สุขภาพแย่ลงอีกแล้วเหรอ? ทางโรงพยาบาลบอกให้พี่เข้ารับ การรักษาใช่ไหม แต่พี่ปฏิเสธไปแล้ว?
กู้เย็นจงกล่าวเสียงเย็น “โทษที เมื่อกี้ฉันคิดตกแล้ว ตัดสินใจ ว่าจะเข้ารับการรักษาต่อ ลูกสาวฉันยังไม่ได้แต่งงาน ฉันไม่อาจ ตายไปอย่างขี้ขลาดตาขาวเช่นนี้ได้”
พวกกลุ่มของเส้นเจิ้ง ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าท่าทางก็พลันเปลี่ยน ไปทันที
กู้เย้นกางที่อยู่ด้านข้างบ่นออกมาอย่างทนไม่ไหวว่า “พี่ใหญ่ ไหนพี่บอกว่าตัดสินใจที่จะไม่เข้ารับการรักษาแล้วอย่างไรล่ะ? ทําไมเวลานี้ถึงเสียใจภายหลังขึ้นมาแล้ว? โรคนี้ของพี่ ต่อให้ พยายามรักษาก็ไม่แน่ว่าจะทำให้พี่มีชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีกสิบวันครึ่ง เดือน เพื่อเวลาสิบวันครึ่งเดือนนี้ พอถึงโรงพยาบาลก็จะถูกคน ทรมาน เคี่ยวกรำและทดลองแทบทุกชนิด พี่ว่าพี่จะทนรับได้ หรือ?”
กู้เย็นจงทำสีหน้าเย็นชาถึงขีดสุด กัดฟันกล่าวว่า “พวกแก คิด จะพูดอะไรกันแน่ ยังไม่ยอมพูดเข้าประเด็นอีก อย่ามาโทษที่ฉัน ไล่พวกแกออกไปแล้วกัน!”
กู้เย็นเจิ้งยิ้ม แล้วพูดขึ้นว่า “พี่ใหญ่ นายท่านใหญ่ลำเอียง ตอนเขาตาย แบ่งมรดกของตระกูลกู้ให้ 50% ยกให้ผมกับน้อง สามคนละ25% พี่ว่าพี่ต้องการมากขนาดนั้นไปทำอะไร? ในบ้าน พี่ก็ไม่มีลูกชายสักคน ถึงเวลาพอลูกสาวแต่งงานออกไป นั่นก็ เท่ากับ ที่สาดออกไป ทรัพย์สินนี้ก็ไม่อาจยกให้กับคนนอกได้ สินะ?”
พูดถึงตรงนี้ กู้เย็นเจิ้งมองไปที่หลินหวานซิวอีกครั้ง ก่อนจะพูด ยิ้มๆ ว่า “ยิ่งกว่านั้นอายุพี่สะใภ้ก็ไม่นับว่ามาก ทั้งยังสวยออก ขนาดนี้ อนาคตพี่ใหญ่จากไปแล้ว เธอจะอยู่เป็นม่ายไปตลอด ชีวิตได้ยังไง? จะต้องแต่งงานใหม่อีกครั้งแน่! ถึงเวลายังต้อง แบ่งสมบัติของตระกูลกู้ไปส่วนหนึ่ง สุดท้ายพี่จะแข็งใจให้ทรัพย์ สมบัติครึ่งหนึ่งของตระกูลพร้อมกับลูกเมียของพี่ตกไปอยู่ใน มือคนนอกได้หรือ?”
พอหลินหว่านชิวได้ยินเช่นนี้ ไม่เพียงโกรธ ยังรู้สึกอัปยศอีก ด้วยน้ำตาพลันไหลออกมากบดวงตาทันที
ชิวเองก็โกรธเช่นกัน กำหมัดแน่นสีหน้าโกรธแค้น
กู้เย้นจงไม่ได้พูดอะไรอีก เขาโกรธจนตัวสั่น เดิมทีสีหน้าที่ไร้ส เลือดเป็นทุนเดิม จึงเปลี่ยนเป็นซีดขาวมากขึ้น ทั้งตัวส่ายเอนไป มาราวกับจะล้ม ดูเหมือนจะตายไปได้ทุกเมื่อ
เวลานี้เย่เฉินทนมองต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว ทางหนึ่งยื่นมือไป ประคองกู้เย้นจงที่ร่างกายส่ายเอนไว้ ทางหนึ่งตะโกนออกมา ด้วยสีหน้าท่าทางมืดครึ้มเป็นอย่างยิ่ง “อันธพาลอย่างพวกคุณไม่รังแกกันเกินไปหน่อยเหรอ!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ