ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2445



บทที่ 2445

อันที่จริง ตัวซูเฉิงเฟิงเอง ไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงสักเท่าไร แต่พ่อของเขาที่ลาโลกไปแล้ว เชื่อเรื่องดวงและฮวงจุ้ยมาก แต่เขาไม่ได้เชื่อแบบพ่อ

ซูเฉิงเฟิงเป็นคนที่ทำอะไรโหดเหี้ยม ดังนั้นเขาเชื่อมาตลอดว่า ความสามารถของคน จะชนะทุกอย่างได้ เขาจึงเป็นคนเด็ดขาด ตั้งแต่ยังหนุ่ม จนกระทั่งแก่ก็ยังทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุผล เขา ไม่สนเหตุผล ไม่สนเรื่องดวง ชะตาฟ้า อะไรพวกนั้นไม่เคยอยู่ใน สายตาของเขา แต่ตอนนี้ในใจของซูเฉิงเฟิงกลับมีความคิด เกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นขึ้นมา

เรียกว่าเจอเรื่องซวย คงจะเรียกบังเอิญไม่ได้ ทำไมถึงซวย แบบนี้ ทําไมตัวเขาถึงเจอแต่เรื่องไม่ดี

นี่ไม่ใช่ความบังเอิญ มันน่าจะเกิดอะไรขึ้นกับดวงชะตา ไม่งั้น คงไม่ซวยถึงขนาดนี้หรอก

ดังนั้น เขาจึงอยากใช้โอกาสนี้ให้หมอดูทำนายดวงของตัวเอง สักหน่อย

เขาให้ซูโสบู่เต้าติดต่อคุณท่านไหม้ ในวัย 37 ต้นๆ คุณท่าน ไหม้คือคนที่หนีจากเย่นจึงไปสหรัฐอเมริกากับพ่อเขา

ตอนนั้นตระกูลที่รู้เรื่องเกี่ยวกับฮวงจุ้ยในประเทศ แบ่งออก เป็นห้าตระกูลใหญ่ ได้แก่ ตระกูลล่าย ตระกูลเจิง ตระกูลเดี่ยวตระกูลหยาง รวมไปถึงตระกูลไหม้ด้วย

ตอนนี้ทั้งห้าตระกูลใหญ่ เป็นเหมือนกันหมด คืออาศัยอยู่ที่ ต่างประเทศ

รุ่นแรกของตระกูลไหม้ รู้จักกับพ่อของซูเฉิงเฟิงเป็นการส่วน ตัว ดังนั้นตอนพ่อของซูเฉิงเฟิงยังมีชีวิตอยู่ จึงเชิญพวกเขากลับ

มาดูดวงและแนะนำให้บ่อยๆ

ทว่าตั้งแต่พ่อเขาจากโลกนี้ไป ซูเฉิงเฟิงก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้ จึง เหินห่างกับพวกเขามากขึ้นทุกวัน

แต่เมื่อมาพูดอีกที ถึงไม่ได้พบเจอกันเป็นปี แต่ไมตรีของทั้ง สองตระกูลก็ยังคงอยู่

อู่ตงไห้ก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงเหมือนกัน

แต่ตอนนี้เขาแค่ต้องการลอง เพราะยังไงเขาก็ไม่ต้องเสียเงิน สำเร็จก็ดี ไม่สำเร็จเขาก็ไม่มีอะไรต้องเสีย

เมื่อมีความรู้สึกที่ได้ผลประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย ความกดดัน ในใจตงไห่เริ่มผ่อนคลายไปมาก

บวกกับท่าทีเกรงอกเกรงใจของซูเฉิงเฟิง ทำให้ตงไม่รู้สึก เหมือนอยู่บ้าน

เมื่อทานข้าวเสร็จ ซูเฉิงเฟิงให้ซูโสบู่เต้าออกมาส่งสองพ่อลูก ระหว่างทางกลับ ใบหน้าของอู่ตงไห่ ยังคงประดับด้วยรอยยิ้ม พออกพอใจ
ไม่ว่ายังไง การที่ได้สร้างสัมพันธ์กับตระกูลไฮโซ อย่างตระกูล ซู เป็นเรื่องที่ดี ไม่แน่ในอนาคต อาจได้ทำการค้าร่วมกัน แต่ ตระกูลให้เงินทุนมานิดหน่อย ตระกูลต้องดีขึ้นกว่าเดิม แน่นอน

อู๋ซินมองออกว่าพอตื่นเต้นมาก แต่ในใจเขากลับรู้สึกไม่พอใจ เขาไม่อยากให้น้องชายของตัวเอง อาการดีขึ้น เพราะถ้า น้องชายอาการดีขึ้น เขาจะโดนแย่งสมบัติ

จู่ๆ ซูเฉิงเฟิงแสดงความเป็นมิตรเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกโมโห มาก

แต่เขาไม่กล้าแสดงท่าทีอะไรต่อหน้าพ่อ ดังนั้นจึงทำได้แค่เอ่ย ถาม “พ่อ เรื่องที่ซูเฉิงเฟิงหาปรมาจารย์ฮวงจุ้ยให้เรา ต้องรา ยงานเย่เฉินหรือเปล่า”

อู่ตงไห่พูดอย่างไม่ลังเล “บอกเรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาด ขืนเย่เฉิ นทําอะไรลับหลังขึ้นมา น้องชายของแกจะมีโอกาสรักษาหาย ไหม”

อู๋ซินพูดอย่างเป็นกังวล “แต่งานที่เเฉินมอบหมายให้เรา คือ การเป็นสายสืบให้เขานะครับ! ถ้าเราจงใจปิดบังเบาะแส ถ้าเขา รู้ขึ้นมา จะไม่โทษเราเหรอ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ