ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 2057



บทที่ 2057

การต่อสู้ของประเทศจีนได้มีการศึกษาเรื่องการสะสม การ หมุนเวียนและการใช้พลังในมาตั้งแต่สมัยโบราณ สิ่งที่เรียกว่า แปดเส้นลมปราณพิเศษ เฉินตันเถียน โคจรมหาจักรวาล รวม ไปถึงโคจรจุลจักรวาล ล้วนแล้วแต่อยู่ในทฤษฎีนี้ทั้งนั้น

ทฤษฎีของปราณทิพย์มีความใกล้เคียงกับพลังใน แต่ที่แตก ต่างที่สุดก็คือ นอกจากปราณทิพย์จะสามารถสะสม หมุนเวียน และใช้งานในร่างกายของใครของมันได้แล้ว ยังสามารถปล่อย ออกมาข้างนอกได้อีกด้วย

ต่อให้พลังในจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็ทำได้เพียงอาศัยอยู่ ในร่างกายของคนคนนั้น ผู้ยอดฝีมือพลังในเก่งๆ สามารถล้ม วัวที่มีน้ำหนักมากๆได้เพียงแค่หมัดเดียว หรืออาจจะถึงขั้นล้ม ช้างได้เลยด้วยซ้ำ

แต่ถึงจะอย่างนั้น ก็ไม่สามารถฆ่าหนูในที่โล่งได้ เหตุผลก็คือ พลังในไม่สามารถปล่อยออกมาข้างนอกได้

พูดกันตามตรง จริงๆแล้วพลังในก็ถือเป็นปรานทิพย์ในแบบ ฉบับขั้นเริ่มต้น

อีกอย่างปราณทิพย์ยังเหนือกว่าพลังในอยู่มากโข ความแตกต่างของทั้งสองอย่าง ก็เหมือนลิงกับมนุษย์
แม้ว่าDNAของลิงกับมนุษย์จะมีความคล้ายคลึงกันถึง99% แต่ว่าระหว่างทั้งสองอย่างก็ยังคงแตกต่างราวกับฟ้ากับเหว

ต่อให้ลิงชิมแปนซีจะฉลาดมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถกลายมา เป็นมนุษย์ได้

ระหว่างทั้งสองอย่าง มีช่องว่างที่ไม่อาจก้าวข้ามได้

ในบรรดาผู้ที่มีทักษะต่อสู้ที่สามารถควบคุมลมปราณได้มี อย่างน้อยหลักหมื่น

แต่ว่า ในจำนวนนี้ ผู้ที่สามารถฝึกลมปราณให้กลายเป็น

ปราณทิพย์ได้ แทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ

อย่างเเฉินถ้าไม่ใช่ว่ามี (ตำราเก้าเสวียนเทียน) และศิลา วิเศษก้อนนั้น ต่อให้กินยาอายุวัฒนะไปมากเท่าไหร่ ก็ไม่ สามารถสร้างปราณทิพย์ขึ้นมาในร่างกายได้หรอก

นี่ถือเป็นความโชคดีที่แท้จริง ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปชาตินี้ทั้ง ชาติก็ไม่สามารถได้รับความโชคดีอย่างนี้แน่นอน

เยเฉันไม่มีทางบอกความจริงกับซูรั่วหลีอยู่แล้ว แต่คำว่าแสง สว่างระหว่างหิ่งห้อยและดวงอาทิตย์ ทำให้เบื้องลึกในใจของซู รั่วหลีเกิดความตระหนักขึ้นมา

เธอพึมพำ ในใจคนเดียวว่า “ที่แท้พลังในของเขาอยู่ในระดับ ที่สูงกว่านี่เอง….มิน่าล่ะเขาถึงได้เก่งกาจผิดปกติ อีกอย่างยัง สามารถช่วยชีวิตฉันได้อย่างง่ายดาย มันแข็งแกร่งกว่าวิชาต่อสู้ ที่ฉันรู้อยู่มาก โข…..
ในตอนนี้เองเเงินก็เอ่ยพูดออกมาอย่างเฉยชาว่า “ถึงสาร พิษในตัวเธอจะถูกกำจัดออกมาหมดแล้ว แต่แผลของเธอก็ยัง เปิดอยู่ ฉันจะช่วยเธอดึงลูกดอกหน้าไม้ออกก่อน หลังจากนั้น ค่อยล้างแผล”

ซูรั่วหลืมองแผลบนช่วงต้นขาของตัวเอง ลูกดอกแทบจะแทง ทะลุต้นขาของเธอ เธออดพูดพิมพ์ออกมาอย่างอายๆไม่ได้ว่า “ฉันยังใส่แล็กกิ้งอยู่เลย ถ้าให้เขาช่วยทำแผลให้ ก็ต้องถอด กางเกงหรือไม่ก็ฉีกออกก่อนถึงจะได้…”

“แต่ว่า….แต่ว่าตรงตำแหน่งนี้ มันใกล้กับจุดลับมากเกิน ไป…”

เมื่อเย่เฉินเห็นซูรั่วหลีมีท่าทางอายๆ ความคิดแรกที่โผล่เข้า มาในหัวก็คือ “หรือจะให้เธอทำแผลเอง นักฆ่าที่ได้รับการฝึกฝน มาเป็นพิเศษอย่างเธอ ก็คงจะชำนาญเรื่องการทำแผลอยู่หรอ กมั้ง”

เพียงแต่ว่า อีกความคิดหนึ่งก็ผิดตามมา “อารมณ์ของผู้หญิง คนนี้ รุนแรงเหมือนม้าที่ยังไม่ถูกปราบพยศ ทั้งยังร้ายกาจ อำมหิต ถ้าต้องการให้คนแบบนี้ยอมเชื่อฟังแต่โดยดี ก็ต้อง ทําลายศักดิ์ศรีเธอทิ้งก่อนเป็นอันดับแรก!”

คิดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินก็เอ่ยพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “มานี่ ฉัน จะพาเธอไปนั่งบนเก้าอี้ แล้วเดี๋ยวจะได้ช่วยทําแผลให้

ซูรั่วหลีเอ่ยพูดอย่างอ้อมแอ้มว่า “เอ่อ…ฉันทำเองดี กว่า…รบกวนหาคม แล้วก็น้ำยากับอุปกรณ์ทำแผลมาให้ฉันก็พอแล้ว….”

เย่เฉินเอ่ยพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ว่า “เธอจะทำเองก็ได้นะ แต่ว่าช่วงต้นขามีเส้นเลือดเยอะ ตอนที่ดึงลูกดอกหน้าไม้ออกมา คงมีเลือดไหลออกมาเยอะแน่ๆ ซึ่งแผลอาจจะลามไปถึงเส้น ชีพจร ถ้าหากเธอผลีผลามดึงลูกดอกออกมาจนแผลเปิด แบบ นั้นก็จะยิ่งอันตราย อีกอย่างถ้าแผลลามไปถึงเส้นประสาท โชค ไม่ดีเข้าหน่อยก็อาจจะพิการได้”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ