ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1993



บทที่ 1993

ในความคิดของซ่งหรง ฐานะของตระกูลอิโตะนั้นสูงมาก

จริงๆ

เพราะพวกเขาเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นตระกูล เดียวที่รอดพ้นจากการสู้รบกันอย่างดุเดือดของสามตระกูลใหญ่ ของโตเกียว แค่ดูจากเรื่องนี้ อนาคตของตระกูลอิโตะไม่มีใคร สามารถคาดการณ์ได้

ดังนั้น ซึ่งทรงไม่เชื่อว่าเเฉินจะมีความสัมพันธ์กับตระกูลอิ โตะ

ต้องเป็นเขาหรือเพื่อนของเขา ใช้เงินเพื่อเช่าเฮลิคอปเตอร์ ของบริษัทแอร์อิโตะอย่างแน่นอน

ดังนั้น เขาก็เลยพาเลขาของตัวเอง เดินเข้าไปที่ลานจอด

เฮลิคอปเตอร์

ข้างๆเฮลิคอปเตอร์มีหญิงสาวคนหนึ่งใส่ชุดแอร์โฮสเตส สีน้ำเงินยืนรออยู่ เมื่อเห็นพวกเขาสองคนเดินมา และมองหน้า ซ่งหรงและพูดอย่างสุภาพ:”คุณคงจะเป็นคุณซ่งใช่ไหม?”

ซึ่งหรงพยักหน้าและพูดอย่างเย่อหยิ่ง “ใช่ ฉันเอง คุณเป็น

คนที่มารับฉันใช่ไหม?”

สาวสวยยิ้มเล็กน้อยและพูด “ใช่ค่ะ คุณซ่ง คุณเยู่กับคุณหนู ใหญ่ของพวกเรารอคุณอยู่ที่บ้าน เชิญคุณและผู้หญิงคนนี้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ได้เลย”

ซ่งหรง พูดอย่างเย็นชา “อาจารย์เย่เกรงใจมากเกินไปแล้ว อยู่ในตัวเมือง ไม่จําเป็นต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ แค่มีรถยนต์รับส่ง ก็พอ?”

สาวสวยพูดเบาๆ “คุณซ่ง คุณหนูใหญ่ของพวกเรา บอก ว่าการมารับคุณ มันต้องอลังการหน่อย”

ซึ่งทรงส่ายหัวและยิ้ม แอบดูถูกอยู่ในใจ “ส่งเฮลิคอปเตอร์ มาหนึ่งลำก็คิดว่าอลังการแล้วเหรอ? คุณคิดว่าฉันเป็นคนบ้าน นอกที่ไม่เคยเข้าสังคมเหรอ? ตระกูลซึ่งของเราเหมาะสมและ คู่ควรกับเครื่องบินส่วนตัว พวกเรามีทั้งเครื่องบินส่วนตัว เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว สิ่งเหล่านี้อยู่ในสายตาของพวกเรา มัน ธรรมดามากๆ”

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเย่เฉินส่งเฮลิคอปเตอร์มา เขาก็ไม่กล้า พูดคำดูถูกเหล่านั้นออกมา ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างสุภาพว่า “ถ้า เป็นอย่างนี้ ก็ต้องขอบคุณอาจารย์เย่มากๆ”

เมื่อพูดจบ เขาก็พาเลขาของตัวเอง นั่งลงในเฮลิคอปเตอร์

ทันที

เฮลิคอปเตอร์ล่านี้สามารถนั่งได้อย่างน้อยยี่สิบคน แต่ตอนนี้ ห้องโดยสารได้ถูกดัดแปลงเป็นห้องนอนหรูหรา ก็เหมือนกับรถ บ้านสุดหรู

ซึ่งทรงนั่งบนโซฟาในห้องโดยสารของเฮลิคอปเตอร์ และ เอ่ยปากถามสาวสวยคนนั้น “ไม่ทราบว่าอาจารย์เยู่พักอยู่ที่ไหนห่างจากที่นี่ไกลแค่ไหน?”

สาวสวยพูดด้วยรอยยิ้ม “ห่างจากที่นี่ประมาณสิบห้า กิโลเมตร”

“สิบห้ากิโลเมตร?”ซ่งหรง พูดอย่างจำใจ “บินแค่ไม่กี่นาทีก็ คงถึงแล้วใช่ไหม?”

สาวสวยพูดด้วยรอยยิ้ม” ใช้เวลากี่นาทีบินไม่ถึงหรอก ต้อง

ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

“อะไรนะ? ครึ่งชั่วโมง?! “ซ่งหรง พูดด้วยความตกตะลึง “สิบ ห้ากิโลเมตร ถึงแม้จะปั่นจักรยาน ถ้าปั่นเร็วหน่อยก็ใช้เวลาครึ่ง ชั่วโมงก็คงจะถึง ด้วยความเร็วของเฮลิคอปเตอร์ เป็นไปไม่ได้ที่ จะช้าขนาดนี้?”

สาวสวยพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณซึ่งอาจจะไม่รู้ คุณหนูใหญ่ของ เราให้ความสำคัญกับคุณมากๆ ก็เลยจัดเส้นทางท่องเที่ยวพิเศษ ให้คุณ รอสักครู่คุณก็จะรู้เอง”

ซึ่งตรงถามด้วยความงุนงงว่า “ฉันขอถามหน่อยได้ไหม คุณ

หนูใหญ่ของคุณเป็นใคร?”

สาวสวยสายหัวและพูดขอโทษ:”คุณซ่งต้องขอโทษด้วยจริงๆ ฉันไม่สามารถบอกฐานะที่แท้จริงของคุณหนูใหญ่ให้คุณทราบ ในตอนนี้ได้ แต่เมื่อคุณไปถึงที่นั่น คุณก็จะรู้เอง”

ซึ่งทรงทำได้เพียงพยักหน้าและพูด: “ก็ได้…” พูดจบ เขาก็บ่นพึมพำในใจ “ไม่รู้ว่าเธ่เฉินคนนั้นต้องการทำอะไรกันแน่? เขาว่างมากใช่ไหม ถึงเช่าเฮลิคอปเตอร์หนึ่ง ทำ มาเป็นอวดดี?”

ในเวลานี้ สาวสวยคนนั้นก็พูด: “คุณซ่ง เฮลิคอปเตอร์ของเรา กำลังจะขึ้นบินแล้ว กรุณาสวมชุดหูฟังพร้อมไมค์ก่อน แล้วรัด เข็มขัดนิรภัยด้วย”

ซึ่งทรงพยักหน้า สวมชุดหูฟังพร้อมไมล์เสร็จ จากนั้นก็รัด

เข็มขัดนิรภัย

เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์มีเสียงรบกวนที่ดังมากๆ ถ้าจะต้องพูด คุยกันในห้องโดยสาร เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ยินคำพูดของทั้งสอง ฝ่ายเลย

เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการสื่อสารในห้องโดยสาร ดังนั้นบน เฮลิคอปเตอร์ทั้งคนขับและผู้โดยสาร ต้องสวมใส่ชุดหูฟังที่ตัด เสียงรบกวนได้ดี การใส่หูฟังไม่เพียงช่วยลดเสียงจาก เครื่องยนต์เท่านั้น และยังสามารถใช้วิทยุในการสื่อสารด้วย เมื่อเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินแล้ว ต้องใช้วิธีนี้ในการสื่อสาร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ