ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 1879



บทที่ 1879

พิธีบูชาบรรพบุรุษของตระกูลเย่ เป็นพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของตระกูลเย่

ตระกูลใหญ่ ๆ ต่างก็ให้ความสำคัญกับพิธีบูชาบรรพบุรุษ โดยเฉพาะตระกูลใหญ่ที่มีประวัติยาวนานอย่างตระกูลเย่ ความ ของตระกูลลึกซึ้ง ตระกูลได้แตกแขนงออกไปมากมาย จึง ยิ่งให้ความสำคัญกับพิธีบูชาบรรพบุรุษ

ความจริงแล้ว ตระกูลร่ำรวยมากมาย ต่างก็ยากจะจัดพิธีบูชา บรรพบุรุษให้ใหญ่โต แต่ทว่าพิธีบูชาบรรพบุรุษที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่ว่าตระกูลธรรมดาก็จะสามารถจัดการได้

มีตระกูลที่เกิดขึ้นใหม่หลายตระกูล คิดอยากจะจัดพิธีบูชา

บรรพบุรุษแต่ก็ไม่สามารถแบกรับได้

เพราะว่าในสุสานบรรพบุรุษของคนพวกนั้น อาจจะมีเพียงร่าง ของบรรพบุรุษของสามสี่รุ่นก่อนหน้านั้นฝังอยู่ นาก นากจากนี้เมื่อพูด ถึงฐานะของพวกเขา บางทีคนรุ่นก่อน ๆ อาจเป็นชาวนา ไม่มี เรื่องราวยิ่งใหญ่อะไรให้คนรุ่นหลังยกย่องสรรเสริญ

แม้ว่าชนชั้นชาวนาก็ควรค่าแก่การเคารพเช่นกัน แต่ในสังคม ชนชั้นสูงเหล่านี้ บรรพบุรุษไม่มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งเพียงพอ ก็ไม่ สามารถที่จะเอาออกมาโชว์ได้จริง ๆ

โดยเฉพาะในสังคมชนชั้นสูงของเล่นจิง
นอกจากจะแข่งความร่ำรวย แข่งอิทธิพลแล้ว ก็ยังแข่งขัน เกี่ยวกับฐานะสังคมและภูมิหลังอีกด้วย

อยู่ที่เย่นจึงยังมีลูกหลานที่อยู่ในแปดกองธงของราชวงศ์ชิง อยู่ไม่น้อย บรรพบุรุษของตระกูลเหล่านี้ตอนที่อยู่ในสมัยราชวงศ์ ชิง ล้วนอยู่ในแปดกองธงของชนชั้นสูง ถ้าไม่ใช่คุณชาย ก็เป็น คุณหนู มีแม้กระทั่งขุนนางอาวุโสระดับหนึ่งของราชวงศ์ในสมัย นั้น

ตระกูลเช่นนี้ ภูมิหลังแข็งแกร่ง เมื่อจัดพิธีบูชาบรรพบุรุษ ก็จะ สามารถนำเรื่องราวของบรรพบุรุษสองสามท่านออกมาเล่าได้ และให้ความรู้สึกยกย่องสรรเสริญกับผู้คนทันที

บรรพบุรุษของตระกูลเย่ เองก็เป็นขุนนางในราชสำนัก ตระกูล ธรรมดาทั่วไป มีบรรพบุรุษเป็นเพียงบัณฑิตยังแทบอยากจะสร้าง ศาลบรรพชนไว้ที่บ้านเกิดให้บัณฑิตท่านั้น แต่ตระกูลเย่ แค่ บรรพบุรุษที่เป็นบัณฑิตขั้นสูงก็มีนับร้อยท่าน บัณฑิตตำแหน่งจ้อ หงวนสิบท่าน รวมจอหงวนสามอันดับแรกแล้ว เป็นทั้งหมดสิบ สามท่าน

ราชวงศ์ชิงมีประวัติศาสตร์เกือบสามร้อยปี มีการเปิดสอบ ขุนนางเพื่อคัดเลือกขุนนางอยู่ทั้งหมด 112 ครั้ง

ภายในระยะเวลาเกือบสามร้อยปี มีบัณฑิตขั้นสูงทั้งหมดสอง พันกว่าท่าน บัณฑิตตำแหน่งจอหงวน114ท่าน

แค่ตระกูลเย่ ก็ได้ยืนไปหนึ่งในสิบส่วน นับเป็นผลงานความ สำเร็จอันน่าทึ่งอย่างยิ่ง
ก็เพราะว่าในบรรพบุรุษของตระกูลเยอัจฉริยะปรากฏขึ้นใน ทุก ๆ รุ่น นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ตระกูลเย่สามารถดำรงอยู่มาได้ หลายร้อยปี อีกทั้งยังมีอิทธิพลมาโดยตลอด ต่อให้อยู่ในยุค สมัยสงคราม อย่างน้อยก็เป็นคหบดีที่มีอิทธิพลที่ที่แห่งหนึ่ง

ตระกูลเย่แตกแขนงมาเป็นเวลาหลายปี แค่ทายาทของตระกูล เที่อยู่กระจัดกระจายไปทั่วทุกมุมโลก ก็มีไม่ต่ำกว่าหมื่นคน ใน นั้นยังมีบางส่วนที่ไปอยู่ต่างประเทศ

บรรพบุรุษของพวกเขา นับย้อนไปหลายร้อยปี ก็คือบรรพบุรุษ

ของตระกูลเย่

เพียงแค่ในสมัยโบราณนั้นพิถีพิถันในเรื่องว่าให้ลูกชายคนโต ของภรรยาหลวงเป็นคนสืบทอดตระกูล ส่วนลูกชายของภรรยา หลวงคนอื่น ๆ และลูกชายของภรรยาลอง จะต้องแยกออกไปตั้ง เนื้อตั้งตัว ดังนั้นจึงได้มีตระกูลย่อยของตระกูลเย่เพิ่มมากขึ้น เรื่อย ๆ มีเพียงสายเลือดโดยตรงเท่านั้นถึงเป็นตระกูลหลักที่แท้ จริง

ยกตัวอย่างเช่นคุณพ่อของเยเฉินมีพี่น้องสามคน ถ้าพูดตาม

กฎของสมัยโบราณ หลังจากที่คุณปู่ของเยเฉินเสียชีวิตไป บุตร

ชายทั้งสามคนของตระกูลเก็ต้องแยกบ้านออกไป พอถึงเวลา

นั้น ก็จะมีเยฉางโคงลูกชายคนโตเป็นผู้สืบทอดธุรกิจส่วนใหญ่

และคฤหาสน์ของตระกูลเย่ต่อไป

ลูกชายคนที่สอง และลูกชายคนที่สาม เมื่อไว้ทุกข์ครบสามปี แล้ว ก็จะต้องพาสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาย้ายออกไปจากคฤหาสน์ตระกูลเยี และสร้างครอบครัวด้วยตัวเอง

เมื่อเป็นเช่นนั้น ครอบครัวของลูกชายคนที่สองและลูกชายคน ที่สาม ก็จะกลายเป็นตระกูลย่อยของตระกูลเ

พอถึงตอนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลย่อยทั้งสอง ครอบครัว และตระกูลหลักก็ยังคงใกล้ชิดอยู่ เพราะถึงยังไง ลูกชายคนที่สอง ลูกชายคนที่สามและลูกชายคนโตก็ยังเป็นพี่ น้องท้องเดียวกัน

แต่พอมาถึงรุ่นเย่เฉิน คนที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลหลัก คือพี่ชาย ลูกพี่ลูกน้องของเย่เฉิน ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลย่อย ทั้งสองครอบครัวและตระกูลหลักจึงได้ห่างออกไปอีกรุ่น

พอมาถึงรุ่นที่สาม รุ่นที่สี่ ตระกูลย่อยทั้งสองครอบครัวนี้ ก็จะมี อนุพันธ์ตระกูลย่อยที่แตกแขนงออกไปอีก ดังนั้นพวกเขาจึงห่าง จากตระกูลหลักออกไปอีก

ถ้าหากดำรงมาอยู่ได้ห้าหกรุ่น ช่วงเวลาอาจจะผ่านไปเป็นร้อย ปีแล้ว

พอถึงตอนนั้นทุกคนอาจจะไม่รู้จักกันเลยก็ได้ ทำได้เพียง อาศัยลำดับวงศ์ตระกูล ถึงจะสามารถหาซื้อของลูกหลานตระกูล ย่อยนั้น ๆ ได้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ