ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 850



บทที่ 850

หลี่เสี่ยวเฟินได้พาเย่เฉินมาอยู่ที่บริเวณหอพักของสถานเลี้ยง เด็กกำพร้าจินหลิง เย่เฉินมองไปแค่แวบเดียวก็รู้เห็นห้องนอนที่ ตัวเองเคยนอนแล้ว

เมื่อมองผ่านกระจกไป เห็นป้าของสถานเลี้ยงเด็กกําพร้ากำลัง เล่นกับเด็กๆ ที่อายุขวบสองขวบอยู่

เย่เฉินถามด้วยความตกใจ: “เสี่ยวเฟินทำไมตอนนี้ที่สถาน เลี้ยงเด็กกำพร้า มีเด็กใหม่มากขนาดนี้?”

หลี่เสี่ยวเฟินก็ตอบว่า: “ก็พ่อแม่ที่ไม่รับผิดชอบคลอดลูกแล้ว ก็เอามาทิ้งไว้ที่หน้าประตูสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กเหล่านี้ที่ถูก ทอดทิ้งก็เพราะบางคนเกิดมาพร้อมความพิการ และบางคนเกิด มาพร้อมโรคต่างๆ บางคนก็เหมือนฉัน ถูกทิ้งเพราะเป็นลูกผู้ หญิง”

เมื่อพูดประโยคนี้จบ หลี่เซียวเฟินก็ถอนหายใจ

ต่อมาเธอได้พูดด้วยความโกรธว่า: “ในจำนวนเด็กเหล่านี้ มี เด็กส่วนหนึ่งที่เคยถูกพ่อค้ามนุษย์จับตัวไป แล้วตำรวจไปช่วย ออกมาได้ แต่เด็กเหล่านี้อายุน้อยเกินไป และหาพ่อแม่ของเด็ก ไม่เจอ ทางตำรวจก็เลยต้องฝากให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าดูแลไป ก่อน รอให้หาพ่อแม่ของพวกเขาเจอแล้ว ค่อยส่งเด็กๆกลับไปหา ครอบครัว”
เย่เฉินเห็นว่าเด็กเหล่านี้ บางคนเป็นคนพิการ เย่เฉันอดไม่ได้ที่ จะถาม: “เสี่ยวเฟิน ทำไมเด็กบางคนถึงพิการ พิการมาตั้งแต่เกิด หรือ?”

“ไม่ใช่” หลี่เสี่ยวเฟินโมโหและพูดว่า “เด็กที่พิการ เป็นเด็กที่ ถูกช่วยออกมาจากพ่อค้าเด็ก ตอนแรกเด็กเหล่านี้ยังมีร่างกายที่ สมบูรณ์ แต่หลังจากที่ถูกพ่อค้าเด็กลักพาตัวไป พ่อค้าเด็กไม่ได้ ขายเด็กพวกนี้ไป แต่ทำให้เด็กพวกนี้พิการ แล้วให้เด็กพวกนี้ไป ขอทานตามถนน ชีวิตของเด็กเหล่านี้ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง แต่ พ่อค้าเด็กกลับนำเด็กเหล่านี้เป็นเครื่องมือหาเงิน

เซียวซูหนเมื่อได้ยินคำประโยคนี้ เธอโมโหขึ้นมาทันที “คน พวกนี้เลวเกินไปแล้ว เอาเด็กที่ร่างกายสมบูรณ์ไปทำให้พิการได้ อย่างไร?”

หลี่เสี่ยวเฟินเล่าต่อว่า: “มีคนร้ายบางกลุ่ม ที่ชอบทำเรื่องไร้ มโนธรรมแบบนี้ พวกเขาเป็นคนที่มีร่างกายสมบูรณ์ แต่พวกเขา กลับปลอมตัวเป็นคนพิการไปขอทานตามถนนต่างๆ ต่อมาพวก เขาพบว่าการขอทานได้เงินเยอะและเร็วแต่เงินก็หมดเร็วเหมือน กัน พวกเขาก็เลยอยากหาเงินให้ได้มากขึ้น ก็เลยไปตามหาคน พิการเพื่อทำให้ตัวเองมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ผ่านไปไม่นานก็ ไม่สามารถหาคนพิการได้แล้ว คนเหล่านี้ก็เลยไปซื้อเด็ก แล้ว ทำให้เด็กพวกนี้เป็นเด็กพิการ จะได้เอาไปขอทานแล้วได้ผลดียิ่ง ขึ้น”

เซียวซูหนได้ยินจบแล้วก็ได้โกรธจนตัวสั่นและพูดออกมาทัน ทว่า: “ไอ้คนเลวแบบนี้ เอาไปยิงตายให้หมดเสียดีกว่า ”
เยเฉินถอนหายใจและพูดว่า “ก่อนหน้านี้ที่ฉันทำงานก่อสร้าง อยู่ ฉันก็เคยได้ยินมาว่ามีแก๊งขอทานนี้อยู่ พวกเขาเป็นคนบ้าน เดียวกันหรือญาติกันแน่นอน แล้วรวมตัวกันไปขอทานในเมือง ใหญ่ บางคนในแก๊งนี้วิธีการที่โหดเหี้ยมมาก เป้าหมายของพวก เขาคือเด็กวัยรุ่น”

ต่อมา เยเฉันก็พูดกับเธอว่า “เธอลืมไปแล้วหรือว่า สองปีก่อน เราเคยดูหนังอินเดียด้วยกัน ชื่อหนังเรื่องเศรษฐีในสลัม ในหนัง ก็มีหัวหน้าแก๊งขอทานไม่ใช่หรือ? เขาไปเอาเด็กที่ร้องเพลง เพราะมาทําให้ตาบอด แล้วให้เด็กพวกนี้ไปร้องเพลงขอทาน ตามถนน ถึงจะดูเหมือนสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องไกลตัวพวกเรา แต่ ความจริงแล้วเรื่องเหล่านี้อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่เราคิดอีก

เซียวซูหนพูดด้วยความโกรธ “ไม่คิดเลยว่าจะมีปีศาจที่ชั่ว ร้ายเหล่านี้อยู่รอบๆตัวเราด้วย ถ้าฉันรู้อย่างงี้นะ ฉันไปสอบ โรงเรียนตำรวจเป็นตำรวจไปแล้ว ฉันจะจับคนพวกนี้ให้หมดไป จากสังคม”

หลี่เสี่ยวเฟินถอนหายใจและพูดว่า “พี่สะใภ้ ประเด็นก็คือการ หาเงินด้วยวิธีนี้มีกำไรมหาศาล ทำให้คนมากมายถึงรู้ว่าจะโดน ยิ่งและโดนจับ แต่ก็ไม่กลัวยังจะหาเงินด้วยวิธีนี้

พูดจบ เธอก็รู้สึกว่าหัวข้อที่คุยกันดูจริงจังไปหน่อยก็เลยพูด ออกมาว่า “โอ๊ย ได้เวลาแล้ว พวกเราไปที่ร้านอาหารกันเถอะ เพื่อนๆ น่าจะถึงกันหมดแล้ว”

เย่เฉินพยักหน้าและพูดว่า “เราไปกันเถอะ ไปร้านอาหารก่อน”

ทั้งสามคนได้ออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และเย่เฉินได้ แกล้งถามหลี่เสี่ยวเฟินว่า “เออ เสี่ยวเป็นช่วงนี้ทางสถานเลี้ยง เด็กกําพร้ามีความลำบากอะไรมั้ย?”

หลี่เสี่ยวเฟินยิ้มแล้วตอบว่า “ความลำบากมีอยู่แล้ว แต่ก็ยัง รับไหวอยู่ คุณภาพชีวิตของเด็กๆ ตอนนี้ดีกว่าตอนพวกเราอยู่ มาก แต่สิ่งที่ทำให้ลำบากใจก็หนึ่งเดียวคือห้องเรียน หอพักและ โรงอาหารของพวกเราเก่าไปหน่อย ผู้อำนวยการค่อยยื่นเรื่องขอ งบ หวังว่าจะได้เปลี่ยนและปรับปรุงสิ่งก่อสร้างใหม่ แต่ผู้บังคับ บัญชาบอกว่าช่วงนี้การเงินไม่คล่องตัว เลยไม่สามารถให้งบมา ปรับปรุงได้”

เยเฉันพยักหน้า และจำคำพูดของเธอไว้ในใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ