ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 722



บทที่ 722

แต่ว่า ตำรวจบอกไว้ ตนเองนั้นไปพัวพันกับคดีใหญ่ ก่อนที่จะมี การตัดสินคดี ตนเองไม่สามารถพบหน้ากับคนในครอบครัว ไม่ สามารถติดต่อ และไม่สามารถจ้างทนายได้

ในใจหม่าหลันก็แค้นเข้ากระดูกดำ แต่ก็ไม่สามารถระบาย

ออกมาได้

เข้าไปยังกำแพงของเรือนจำ ตำรวจก็รีบนำตัวเธอไปทำเรื่อง เข้าเรือนจํา

ขั้นตอนมันซับซ้อนมาก ไม่เพียงต้องถ่ายรูป ตรวจร่างกาย แล้วยังจะต้องถอดเสื้อผ้าของตนเองทั้งหมด ให้กับเรือนจำไป จากนั้นก็สวมชุดของเรือนจำและใช้ของใช้ประจำวันที่เป็นแบบ เดียวกัน

พอหม่าหลันเปลี่ยนเป็นชุดนักโทษแล้ว ตำรวจ2นายที่นำตัว เธอมาส่ง ก็กลับไปแล้ว แต่นี้เป็นต้นไป ทุกอย่างของเธอก็ถูก ควบคุม โดยเรือนจํา

ผู้คุมผู้หญิงก็นำตัวเธอเข้าแดนนักโทษไป เดินไป แล้วก็พูด ตามระเบียบ แนะนำเธอไปว่า “นี่เป็นห้องขังที่มีจำนวน20คน ตื่น6โมงเช้าทุกวัน ปิดไฟตอน4ทุ่ม ข้าววันละ3มื้อ กินในห้องขัง นั่นแหละ”

พูดจบ เธอก็เหลือบมองหม่าหลัน แล้วก็พูดด้วยใบหน้าได้อารมณ์ว่า “แต่ว่าอาหารนั้นจะจำกัดจำนวน รูปร่างอย่างคุณไม่ น่าจะกินอิ่ม ถ้าคุณยังต้องการอะไรกินเพิ่มหรือสิ่งของจำเป็น อื่นๆ ก็สามารถให้ญาติคุณส่งเงินมาในภายใต้ชื่อคุณ จากนั้นก็ จะสามารถซื้อของในร้านค้าด้านในได้

“อย่างนั้นก็ดีเลย! ” หม่าหลันรีบถามว่า “แล้วฉันจะติดต่อกับ ญาติฉันอย่างไร?!

ผู้คุมหญิงก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่า เมื่อครูตำรวจที่มาส่งหม่าหลัน สั่ง เกี่ยวกับเรื่องของเธอเอาไว้ ดังนั้นก็เลยพูดหน้านิ่งตอบไปว่า “เกือบลืมไปเลย คุณเป็นผู้ต้องหาที่พัวพันคดีใหญ่ ยังไม่สามารถ ติดต่อกับภายนอกได้ชั่วคราว ดังนั้น ถ้าหากว่ารู้สึกกินไม่อิ่มล่ะก็ ก็ให้ถือว่าเป็นการลดอาหารก็แล้วกัน!

หม่าหลันได้ยินดังนั้น ในใจก็รู้สึกสิ้นหวัง

ตอนนี้เธอก็คิดขึ้นได้ว่า นายหญิงใหญ่เชียวและเซียวเวยเวย สองย่าหลาน ก็ถูกขังอยู่ที่เรือนจำเหมือนกัน ตนเองคงจะไม่เจอ กับพวกเธอหลอกมั้ง?

พอคิดถึงจุดนี้ เธอก็เริ่มกังวลเหมือนกัน

แต่ความกังวลมันก็หายไปในบัดดล

จะเจอนายหญิงใหญ่เซียวกับเซียวเวยเวยก็ไม่เป็นไร นาย หญิงใหญ่เซียวก็เป็นยัยแก่คนหนึ่ง ถ้ามาหาเรื่องตนเองล่ะก็ ตนเองเอาเท้าถีบไปก็จะเอาชีวิตมันได้แล้ว!

ส่วนเซียวเวยเวย ยัยนี่ถึงแม่จะยังเป็นวัยรุ่น แต่เธอก็เป็นแค่เด็กสาวที่ทำงานอะไรไม่เป็น รูปร่างอย่างนั้น อยู่ที่โต๊ะไพ่นก กระจอกก็ยกไม่ไหว ถ้าจะมาลงไม้ลงมือกับตนเองล่ะก็ ตบไปสอง ฉาดก็จบ

ในตอนนี้ ผู้คุมหญิงก็ชี้ไปยังห้องขังด้านหน้าไม่ไกล แล้วพูดว่า “หม่าหลัน นั่นก็คือห้องขังหมายเลข025 ต่อไปนี้คุณจะต้องอยู่ที่ นั่น!

หม่าหลินก็รีบพยักหน้า

ในขณะเดียวกัน ในห้องขังหมายเลข025 นายหญิงใหญ่เชียว ก็เพิ่งเริ่มสงบสติอารมณ์จากค่าปลอบโยนของทุกคน

เธอไม่คิดเลยว่า ว่าเพื่อนทักโทษด้วยกันของเธอ จะเห็นใจ ตนเองขนาดนี้ ทุกคนเข้ามาห้อมล้อมปลอบใจตนเอง ทำให้ ตนเองสบายใจขึ้นไม่น้อย

อารมณ์ของเซียวเวยเวยก็ดีขึ้นกว่าตอนที่เข้ามาในเรือนจำ

ใหม่ๆ

ก่อนหน้านี้เธอคิดว่า เรือนจำคงจะเหมือนกับในหนัง ด้านใน คงจะมีแต่คนที่ชอบรังแกคนอื่น คนใหม่ที่เข้ามาก็จะถูกรังแก ดูถูก จนถึงขั้นไม่ได้กินข้าว แต่ไม่คิดเลยว่าด้านในจะอบอุ่นอย่าง

ในตอนนั้นเอง ก็มีคนมองที่ประตู แล้วตะโกนว่า “มีใครมา ใหม่อีกแล้ว!

นอกประตูเหล็ก ผู้คุมหญิงคนนั้น ก็เปิดประตูห้องขังที่นายหญิงใหญ่เชียวพักอยู่ แล้วก็ผลักหม่าหลันเข้าไปในห้องขัง แล้ว พูดว่า “เข้าไปสำนึกผิดเสียเถอะ!

หม่าหลันเพิ่งถูกผลักเข้ามา ประตูเหล็กก็ปิดลงอีกครั้ง

เธอมองนักโทษคนอื่นๆ ในห้องด้วยความตื่นเต้น เห็นว่าพวก เธอกำลังห้อมล้อมที่นอนด้านล่างไว้ ในใจก็แปลกใจ แล้วคิดใน ใจว่า “ผู้หญิงพวกนี้ไปนั่งล้อมกันทำไม? ฟังนิทานรึไง?”

ในตอนนี้ นายหญิงใหญ่เซียวที่ถูกห้อมล้อมไว้ มองไปก็จำได้ ว่าเป็นหม่าหลัน ก็ตกใจจนตัวสั่น จากนั้นก็ตะโกนไปว่า “หม่า หลัน! ผู้หญิงอย่างแกก็มีวันนี้เหมือนกัน!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ