ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 61 ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว



บทที่ 61 ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว

เมื่อได้ยินเสียงนี้ เย่เฉินขมวดคิ้วเป็นปม เงยหน้ามองหาต้นเสียง

เห็นเพียงชายหนุ่มสวมชุดจีนสีขาว รองเท้าผ้าสีดำ ทั้งตัวเต็ม ไปด้วยกำไลข้อมือประเภทต่างๆ กำลังสาวเท้าก้าวใหญ่เดินมา

ถึงแม้จะเป็นตอนกลางวัน แต่เขากลับสวมแว่นขอบทองทรง โบราณ เลนส์แว่นเป็นสีดำทรงกลม เป็นแว่นที่ชายหนุ่มช่วง ปลายราชวงศ์ชิงนิยมสวมใส่ “แว่นคนมีการศึกษา

ด้านหลังชายหนุ่มมีบอดี้การ์ดติดตามมาด้วยสี่ถึงห้าคน เมื่อ เทียบกับรูปลักษณ์ที่ดูมีการศึกษาของเขา บอดี้การ์ดเหล่านี้ดู เหี้ยมโหดมาก ผู้คนที่อยู่รอบๆพากันหลีกหนี เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิด ปัญหา

“ว้าว ที่แท้ก็คือคุณชายฉันนี่เอง!!

เมื่อเถ้าแก่เห็นชายหนุ่ม คลี่ยิ้มทันที คำพูดประจบประแจงอ อกมาจากปากของเขาราวกับน้ำที่รินไหล: “คุณชายฉัน วันนี้ คุณชายจะมาก็ไม่บอกผมล่วงหน้าเสียหน่อย ผมจะได้ไปต้อนรับ คุณ ปากทาง…….

“พอได้แล้วไม่ต้องพูดมาก วันนี้ฉันแค่มาดูอะไรเรื่อยเปื่อย เท่านั้น” ชายหนุ่มผายมือด้วยความรำคาญ

เดินสาวเท้าก้าวใหญ่ไปตรงหน้าเขา มองดูก้อนหินในมือของ เยเงิน เงยหน้าขึ้นหน้าเถ้าแก่ : “จางเอ๋อเหมา เก็บก้อนหินพวกนี้ให้ฉันที! โต๊ะหนังสือของพ่อฉัน กำลังขาดก้อนหินทับ กระดาษ ก้อนหินนี้กำลังพอดี! ”

“อันนี้…” เถ้าแก่ตาเท่าเมล็ดถั่วเขียวยิ้มแห้ง มองไปทางเดิน ด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน พูดด้วยน้ำเสียงประจบประแจง : “คุณชายฉินครับ ไม่บังเอิญจริงๆ ครับ! น้องชายคนนี้ได้ซื้อ ก้อนหินไปแล้ว! ความเป็นจริงก้อนหินนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษ นอกจากเอาทับกระดาษแล้วก็ไม่สามารถทําอะไรได้ ผมเก็บของ ชั้นดีเอาไว้ให้คุณชาย ก้อนหินที่ไม่มีค่านั้นมีอะไรสวยครับ ต้อง เป็นของชั้นดีเท่านั้นถึงจะคู่ควรกับฐานะของคุณชาย

เย่เฉินเพิ่งรู้ เถ้าแก่ชื่อจางเอ้อเหมาคนนี้ ดูท่าจะรู้จักกับชาย หนุ่มคนนี้

แต่ว่า ฝีปากของจางเอ้อเหมา ทำให้เขาตกตะลึงจริงๆ เจอกับคนแบบไหน ก็ใช้ทักษะในการพูดที่ไม่เหมือนกัน

จางเอ้อเหมารีบหยิบม้าพลาสติกหยกออกมาทันที พูดจน น้ำลายกระเด็นออกมา: “คุณชายฉินครับ นี่เป็นของที่กุ้ยเฟย ใน ราชสมัยก่อน โปรดปราน คุณชายดูความใสของหยกสิครับ หยก ที่ดีควรคู่กับคนมีวาสนา ผมไม่พูดอะไรมากแล้วครับ เห็นแก่หน้า ของคุณชายฉิน ให้ราคาเดียวกับถ้วยไก่ที่คุณชายซื้อเมื่อวาน อัน ละเก้าพันหยวนครับ! ”

เขียวฉางควนได้ยินถึงกับพูดไม่ออก ถ้วยไก่ปลอมเหมือนกัน ให้คนซื้อสามร้อยหยวนยังรู้สึกเสียเปรียบ คิดไม่ถึงว่าคุณชาย ฉันจะเสียเงินไปกว่าเก้าพันหยวน
“แกไม่ต้องพูดมาก ไสหัวไป! “คุณชายฉันขี้คร้านจะฟัง เตะ จางเอ๋อเหมาทิ้ง หน้าต่อว่าด้วยความโมโห “ฉันชอบก้อนหิน ก้อนนั้น แกขายมันให้ฉัน ฉันให้แกสองหมื่นหยวน

จางเอ้อเหมาได้ยินคำว่าสองหมื่นหยวน กระตือรือร้นขึ้นมาทัน หันไปพูดกับเเฉิน: “น้องชาย ไม่อย่างนั้น น้องชายให้คุณชาย ฉันได้ไหม?”

เย่เฉินขมวดคิ้วเป็นปม พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “นี่เป็น ของที่ฉันซื้อแล้ว ไม่ต้องยกให้คนอื่น

“ใครบอกให้แกยกให้? แกยังไม่ได้จ่ายเงิน ใครจ่ายเงินคน นั้นมีสิทธิ์ซื้อ! “คุณชายฉันพูดด้วยความหงุดหงิด จากนั้นหยิบ กระเป๋าตังค์หนังออกมา โยนธนบัตรสีแดงไปตรงหน้าจางเอ้อ เหมาหนึ่งปีก

“สองหมื่นหยวนไม่ต้องทอน ฉันจะเอาไป

ดวงตาจางเอ้อเหมาเป็นประกาย รีบรับธนบัตรสีแดงมาทันที หันไปยิ้มขอโทษเย่เฉิน : “น้องชาย ฉันยังมีก้อนหินทับ กระดาษของฮ่องเต้คังซี รับรองว่าดีกว่าอันนี้แน่นอน

เย่เฉินยิ้ม พูด: “จางเอ้อเหมา ของพวกนั้นของนาย ไม่ต้อง ให้ฉันพูดหรอกมั้ง? ที่ทับกระดาษนี้ฉันซื้อก่อน ฉันไม่มีอารมณ์จะ ยกให้ใคร”

เมื่อเห็นเเฉินไม่ยินยอม จางเอ้อเหมาก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะจากกฎการซื้อขายวัตถุโบราณ ก็คือใครซื้อก่อนคนนั้นก็ได้ไป ถ้าเขาทําผิดต่อกฎ ข่าวนี้แพร่ออกไปต้องไม่สามารถ ทำการค้าในตลาดวัตถุโบราณอย่างแน่นอน

จางเอ้อเหมาทําได้เพียงหมุนตัวหันหลัง ก้มหน้าค้อมตัวลง แล้วพูดกับคุณชายฉิน: “คุณชายฉันครับ ที่ทับกระดาษไม่ใช่ ของดีอะไรจริงๆครับ ที่บ้านผมยังมีของที่ดีกว่า……..

เขายังไม่ทันพูดจบ คุณชายฉันก็เตะไปที่เอวของเขาอย่างแรง พร้อมกับดุด่า: “แกมีความกล้ามากขึ้นแล้วใช่ไหม? ฉันเคยซื้อ ของหลายอย่างที่ร้านของแก แต่ตอนนี้แกกลับเข้าข้างคนนอก ช่วยคนจนๆพูด?”

จางเอ้อเหมาถูกเตะจนนั่งลงกับพื้น จับเอวขึ้นมาพร้อมกับโอด ครวญ พูดบ่นความทุกข์ในใจ “คุณชายฉันครับ เขาไม่ให้ผม ผมก็ไม่สามารถอะไรได้ครับ”

ขณะที่เขาพูด ก็ส่งสายตาให้กับเเฉิน อยากให้เขายกก้อน หินให้

เพียงแค่มองเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเยเฉิน ก็รู้ทันทีว่าเขา ไม่มีเงิน ไม่มีกำลังและไม่มีอำนาจ

แต่คุณชายฉันนั้นไม่เหมือนกัน เขาคือเพลย์บอยรวยของ วงการของโบราณที่มีชื่อเสียง ตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยขาดเหลือ เรื่องเงิน

จางเอ้อเหมาไม่อยากมีปัญหากับคุณชายจีน และไม่อยากทำ ผิดกฎ จึงได้ทำเพียงส่งสายตาไปให้เย่เฉิน
เยเฉันเห็นสายตาที่จางเอ้อเหมาส่งมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เขา กลับไม่สนใจ พูดเสียงเรียบ : “ไม่ให้

จางเอ้อเหมาจนปัญญาแล้วจริงๆ ทำได้เพียงร้องครวญคราง อยู่บนพื้น จะได้ไม่ถูกคุณชายฉินลากมาระบายอารมณ์อีก

“ดูสภาพคนไม่เอาไหนอย่างนายสิ! ”

คุณชายฉันสบดหยาบ จึงทำได้เพียงเงยหน้าขึ้น เหล่ตามองเ เฉินอย่างพิจารณา พูดด้วยความร่ำรวย : “แกคงจะซื้อแค่สาม ร้อยหยวน ใช่ไหม ฉันให้แกสามหมื่น ยกมันให้ฉัน! ”

กลุ่มคนที่มองอยู่รอบๆสูดลมหายใจเข้า ทุกคนมองไปทางเ เฉิน ด้วยแววตาอิจฉา

ของที่ซื้อมาในราคาสามร้อยหยวน เก็บเอาไว้ยังไม่ทันอุ่น

ราคาก็ขึ้นไปกว่าร้อยเท่า นี่มันกำไรงามอย่างเห็นได้ชัด!

พูดถึงก้อนหินไข่ห่านก้อนนั้น คนที่รู้เพียงแค่มองก็มองออก แล้ว เป็นก้อนหินที่เก็บมาจากริมแม่น้ำ ก้อนหินเน่าๆ แบบนี้ ริม แม่น้ำมีเยอะแยะไป ใช่ที่ทับกระดาษของจักรพรรดิเฉียนเสีย ที่ไหน!

เซียวฉางควนหวั่นไหวเล็กน้อย เพราะเพียงแค่ขายให้คนอื่น ก็ได้กำไรกว่าสองหมื่นหยวน ไม่เพียงแต่เอาเงินที่เสียไปเมื่อวาน ชดเชยกลับมาได้จนหมด ทั้งยังได้กำไรเพิ่มอีกเล็กน้อย

เยเฉินเงยหน้าขึ้น หันไปยิ้มให้คุณชายฉัน แล้วพูด “เมื่อกี้ ผมพูดไปแล้ว ไม่ขาย ต่อให้คุณจะซื้อในราคาสามแสน ผมก็ยังยืนยันคําเดิม”

“แก! ”

สีหน้าของคุณชายฉันเปลี่ยนไปทันที แววตาของเขาฉายแสง เหี้ยมโหด

รอบๆเต็มไปด้วยผู้คน เยเงินปฏิเสธต่อหน้าสาธารณะ เป็นการทําให้เขาขายหน้า

“ไอ้คนตา! ต้องการจะมีปัญหากับฉัน ให้ได้เลยใช่ไหม? คุณชายฉันหัวเราะในลำคอ “ไม่รู้จักสืบดูหน่อย ในตลาดของ โบราณ ของที่ฉินเอ้าตงหมายตา มีอันไหนบ้างที่ไม่ซื้อกลับไป?”

“วันนี้ต่อให้นายขายก็ต้องขาย ไม่ขาย ก็ต้องขาย! ” คุณชายฉันพูดจบ หันไปผายมือให้กับลูกน้อง บอดี้การ์ดทั้งสี่ห้าคน “วูบ” ครู่หนึ่ง ยืนล้อมเเฉิน กลุ่มคนที่อยู่รอบๆ สีหน้าเปลี่ยนไป แม้แต่เขียวฉางควนก็อยู่ไม่นิ่งแล้ว ตระกูลฉินของเมืองจีนหลัง

เป็นตระกูลที่ร่ำรวยและมั่งคั่ง ยิ่งกว่าตระกูลหวังเหวินเฟยเสีย อีก!

ถึงว่าคุณชายฉินซื้อถ้วยไก่ปลอมราคาเก้าพันหยวน ไม่ปวด ใจแม้แต่น้อย เขาไม่แคร์เงินพวกนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นของจริง หรือของผม ซื้อมาเล่นๆก็เท่านั้น!
บอดี้การ์ดยืนล้อมเย่เฉิน ด้วยท่าที่เคร่งขรึม

เขียวฉางควนกลัวจะเกิดเรื่อง จึงรีบส่งสายตาไปให้เยเฉิน บอกให้เขารับเอาก้อนหินให้คุณชายเฉิน

สีหน้าเเฉินนิ่งสงบ กวาดตามองบอดี้การ์ดที่อยู่รอบ แล้ว พูด “ฉันยังคงยืนยันคำเดิม ไม่ขาย! ถ้านายอยากจะใช้กำลัง แย่งไป ฉันพูดได้คำเดียว ของของฉัน ไม่ว่าใครหน้าไหนก็เอาไป ไม่ได้! เทพเซียนบนสวรรค์มาก็เอาไปไม่ได้!

“ฉันจะแย่งซึ่งๆหน้าแล้วทำไม?” ฉันเอาตงพูดด้วยสีหน้า โอหัง เงยคางขึ้นแล้วสบ หยาบ : “ฉันจะบอกอะไรให้แกฟัง ฉันนี่ แหละเทพเซียนบนสวรรค์! ไอ้คนตาอย่างแกคิดอยาจะสู้กับ ฉัน คงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วมั้ง! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ