ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 883



บทที่ 883

เมื่อเจียงหมิงได้ยินว่าเเฉินจะบริจาคเงินล้าน ก็ไม่เชื่ออย่าง แน่นอน พูดเยาะเย้ยว่า : “เย่เฉิน คุณจะโอ้อวดอะไรก็ไม่คิดให้ดี ก่อนเลยนะ บริจาคเงินให้แก่สถานสงเคราะห์ 1ล้าน นายน่ะถึง ตายก็ต้องรักษาหน้าไว้ แม้ว่ามีชีวิตอยู่เพื่อรับกรรมก็ตามแต่ก็ยัง จะไม่ยอมรับ นายสามารถเอาเงินล้านออกมาได้ไหม? ”

เย่เฉินพูดอย่างราบเรียบว่า : “ในเมื่อฉันพูดแล้ว ก็จะต้องเป็น ไปตามที่พูดไว้ คงจะไม่เหมือนกับนายหรอกนะ หาเรื่องให้เกิด อุบัติเหตุรถชนเพื่อปลีกตัว!

เจียงหมิงรู้ว่าเธ่เฉินจงใจที่จะเยาะเย้ยตัวเอง เมื่อคิดถึงเรื่อง รถชน เขาก็รู้สึกโมโหอย่างมาก

รู้ตั้งนานแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ตัวเองคงไม่เล่นลูกไม้อย่าง หน้าด้านๆนี้หรอก อย่างมากก็บริจาครถหนึ่งคัน น่าจะดีกว่าตอน นี้นะ?

ดูตัวเอง ในตอนนี้สิ สูญเสียอย่างสาหัสสากรรจ์มากแค่ไหน! แต่ว่า เขาก็ยังคงไม่เชื่อว่า เย่เฉินจะสามารถบริจาค1ล้านได้

ดังนั้นจึงพูดเยาะเย้ยว่า : “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าตอนนี้นายมี คุณธรรมอะไร ลูกเขยคนหนึ่งที่แต่งเข้าบ้านเจ้าสาวต้องพึ่งพาให้ ภรรยาเลี้ยง นายจะเอาเงินเยอะแยะขนาดนี้มาจากที่ไหนกัน ไป ปล้นธนาคารมาเหรอ?
เจิ้งเสียงที่อยู่ข้างๆก็ช่วยพูดเสริมว่า : “เย่เฉิน นายก็อย่าทำ อะไรเกินตัวเลยนะ เสแสร้งแบบนี้จะมีความหมายอะไร มีความ สามารถแค่ไหนกัน ถึงได้ทําเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อย่าทำให้ ครอบครัวต้องล่มจมเพียงเพราะการเสแสร้งเลยนะ สุดท้ายก็จะ โยนความผิดมาให้พวกเราอีก!

เย่เฉินยิ้มอย่างไม่แยแส : “นายไม่ต้องมาสนใจว่าฉันจะปล้น มาจากธนาคารหรือว่าอะไร สรุปแล้วคือเงิน1ล้านฉันสามารถเอา ออกมาได้ แล้วนายล่ะ ถ้าหากฉันสามารถบริจาคเงิน1ล้านได้ งั้น นายจะบริจาคเท่าไหร่?

เจียงหมิงพูดเยาะเย้ยว่า : “ถ้าหากนายสามารถบริจาคเงิน 1ล้านได้ กูก็จะบริจาค 10 ล้าน พูดโอ้อวดใครจะทำไม่เป็นบ้าง ล่ะ นายคงพูดพล่อยๆออกมาแล้วใช่ไหม? ” คนทั้งโต๊ะต่างก็หัวเราะเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

เพราะว่า ทุกคนต่างก็คิดว่าเธ่เฉินคนนี้ถึงตายก็จะรักษาหน้า ไว้ แม้ว่ามีชีวิตอยู่เพื่อรับกรรมก็ตาม

ถ้าพูดว่าเย่เฉินบริจาคเงินหนึ่งแสนแปดหมื่นกลับว่ามีคนเชื่อ ถึงอย่างไรภรรยาของเขาก็พึ่งพาได้ และก็มีรถBMWขับ สันนิษฐานว่าในครอบครัวก็น่าจะไม่ขัดสนเงินจำนวนนี้

แต่ถ้าพูดว่าบริจาคเงิน 1ล้าน งั้นก็ไม่ค่อยจะสมจริงเท่าไหร่ ถึง แม้ว่าจะขายรถBMWแล้วก็ยังไม่พอเลย!

ในบรรดาคนเหล่านี้ คนที่พอจะเชื่อมั่นในเยเฉินจริงๆ ก็มี เพียงแค่ป้าหลี่ หลี่เสี่ยวเฟิน และเชียวชูหมั้นภรรยาของเขาเท่านั้น

หลี่เสี่ยวเฟินและป้าหลี่ต่างก็รู้จักนิสัยของเเฉินดี ถ้าหากไม่ เป็นเรื่องที่มั่นใจ เขาจะไม่มีทางพูดออกมาจากปากแน่นอน

ส่วนเซียวซูหน เห็นสิ่งแปลกประหลาดจนชินไปนานแล้ว

ปกติเย่เฉินจะดูฮวงจุ้ยให้แก่คนอื่น ล้วนแต่หาเงินกลับมาได้ กว่าสองล้าน บริจาคเงินล้าน ให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก็ เป็นเรื่องที่สามารถทําได้อย่างง่ายดาย

แต่ว่าเธอกลับกระซิบถามเเฉินหนึ่งประโยคว่า : “เย่เฉิน คุณ แอบไปดูฮวงจุ้ยให้คนอื่น ลับหลังฉันอีกแล้วใช่ไหม? ”

เย่เฉินพยักหน้า หัวเราะด้วยใบหน้าที่มีความสุขพร้อมกล่าว ว่า : “ก็คือลูกชายของคุณน้าหานนะ พอล เพื่อนคนนี้มาเปิด สำนักงานทนายความที่จินหลิงไม่ใช่เหรอ ก็เลยเชิญให้ผมไป ช่วยดูฮวงจุ้ยให้ ผมก็ไป

เซียวซูหนพูดอย่างเก้ๆกังๆว่า : “คนสนิทคุณก็หลอกเหรอ? มันเหมาะเหรอ?

“แบบนี้จะเรียกว่าหลอกกันได้ยังไงล่ะ? ” เย่เฉินพูดอย่าง จริงจังว่า : “คุณและผมล้วนแต่เต็มใจนะ!

เชียวชูหนจนใจ ถามว่า : “คุณเรียกเงินจากคนเขามาเท่า ไหร่? ”

เย่เฉินหัวเราะเฮยเฮย : “1ล้าน
เซียวซูหวั่นถูที่ขมับแล้ว “คุณใจมาก…….คนสนิทกันยัง เรียกเงินขนาดนี้…….

จริงๆแล้ว เซียวซูหนไม่รู้ พอล ให้เย่เฉินทั้งหมดสิบล้าน แต่ว่าเงินสิบล้านนี้แบ่งเป็นสองก้อน

ให้เช็คจํานวน 1 ล้านมาก่อน

หลังจากนั้นค่อยให้เช็คจํานวน 9 ล้านมาอีก

เดิมทีเย่เฉินคิดว่า แม้ว่าจะบริจาคให้สถานสงเคราะห์ทั้งหมด

10ล้าน จริงๆแล้ว ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ