ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 861



บทที่ 861

“ไม่ได้! ”

พอเห็นเย่เฉินยอม เจียงหมิงก็มาเล่นงานเขาไม่ยอมปล่อย

เขาตั้งใจเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น แล้วพูดว่า “ทุกคนได้ยินแล้วใช้ ไหม ถึงพูดเองนะว่า ไม่มีรถที่ช้าหรอก มีแต่คนขับว่าจะกล้าขับไว รึเปล่า ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกเราก็มาแข่งกันต่อหน้าเพื่อนๆ ทุกคนเลยสิ”

เย่เฉิน โบกปัด แล้วก็พูดแทงใจดำว่า “ไอ้หยาเจียงหมิง ไม่ ต้องแข่งกันหรอก ทุกคนล้วนมีถึงภาพรถไม่เท่ากัน แข่งกันแบบ นี้ไม่ยุติธรรม”

ไม่ยุติธรรมจริงๆ รถBMWรุ่น760 มาขยี้เบนซ์E300L มันจะ ต่างอะไรกับเอาหมาป่ามากัดหมาพันธุ์ไซบีเลี่ยนฮัสกี้ล่ะ

เจียงหมิงเห็นเย่เฉินบอกว่าตัวแปรของรถที่จะแข่งมันไม่เท่า กัน ก็นึกว่าเย่เฉินจะกลัว ก็เลยรีบพูดประชดว่า “เย่เฉิน เมื่อครู่ยัง อวดเก่งอยู่เลยไม่รึไง? พอบอกให้แข่งกันดู ก็ขี้ขลาดตาขาวเสีย แล้วล่ะ? ต่อหน้าภรรยาของมึง ให้มันดูเป็นลูกผู้ชายหน่อยสิ วะ? ”

เย่เฉินก็แกล้งทำเป็นหัวเสีย พูดว่า “เฮ้อ เงี่ยงหมิง กูว่ามึงพูด ไม่ได้เรื่องเลย ทุกคนต่างก็เป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน จะต้องมา บีบบังคับกันขนาดนี้ไหม? ใช่อยู่ว่าสิ่งนั้นขับรถอย่างดี แล้วมันมีอะไรให้อวดเก่งอะ? มึงคิดว่ารถของมึงดีกว่ากหน่อย ก็จะ เอาชนะได้อย่างนั้นรึไง? ”

เจียงหมิง กว่าเย่เฉินจะหลงกลตนเองแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่า เป็นตนเองห่างหากที่หลงกลเสียเอง ก็รีบพูดขึ้นมาว่า “จะ เอาชนะมึงได้หรือไม่นั้น มันก็ขึ้นอยู่กับว่า มึงกล้าแข่งกับกูรึเปล่า ถ้ามึงไม่กล้า ไม่ใช่ลูกผู้ชาย งั้นก็ทำอะไรกับมึงไม่ได้แล้วล่ะ

เย่เฉินก็รีบพูดอย่างอับอายจนกลายเป็นโมโห ว่า “ได้! แข่ง ก็แข่ง กลัวที่ไหนล่ะ

เจียงหมิงก็รีบพูดหัวเราะคิกๆ ว่า “งั้นก็ดีเลย! งั้นพวกเราก็ มาแข่งกัน เอาอย่างนี้ เรามาแข่งกันว่าใครสามารถไปถึงโรง แรมชายเยวก่อนกัน ใครถึงก่อน คนนั้นชนะ มึงว่าไง? ” เย่เฉินพยักหน้า “จะว่าได้ก็ได้อยู่ แต่ว่าต้องมีเดิมพันเสีย

หน่อยดีไหม? ”

“เอาเลย! ” เจียงหมิงพูดอย่างมั่นใจมาก ว่า “ของเดิมพัน ถึงก็ว่ามาเลย อะไรก็ได้! ”

เย่เฉินก็คิดๆ แล้วพูดว่า “เอาอย่างนี้ วันนี้ก็ได้ยินเสี่ยวเป็นพูด ว่า ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิงกำลังขาดแคลนทุนทรัพย์ เอา อย่างนี้ไหม พวกเราไม่ว่าใครจะชนะ ก็เอารถของตนเองไป บริจาคที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ให้ที่นั่นเป็นคนจัดการเอง จะ มากลับไม่ได้ จึงว่าไง? ”

จ้าวเห้า เพื่อนสนิทสมัยก่อน ก็รีบมาลากเขาไว้ แล้วพูดว่า “เย่ เฉิน อย่าไปหลงกลมันเชียวนะ! ไอ้คนนี้มันไม่ได้คิดอะไรหรอก!

เย่เฉินก็ยิ้มๆ ปากก็บอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ในใจก็คิดว่า “ไอ้ เพื่อนเอ๋ย จริงๆ แล้วอยากจะให้มันมาหลงกลเสียมากกว่า เพราะว่ากูเองแหละ ที่ไม่ได้คิดอะไร

แต่ว่า คำพูดพวกนี้ไม่สามารถพูดออกมาได้

ตอนนี้เจียงหมิงก็หัวเราะเสียงดังออกมา แล้วพูดว่า “เย่เฉิน รถBMW520คันนี้ เป็นชื่อมึงรึเปล่า? มึงเป็นพวกแต่งงานไปอยู่ บ้านเมียไม่ใช่รึไง? นี่น่าจะเป็นรถของเมียมึงมากกว่านะ? ทำไม มึงถึงได้กล้าเอารถของเมียมึง มาโอ้อวดได้ล่ะเนี่ย? ถ้าเกิดว่าแพ้ ขึ้นมา แล้วเมียมึงไม่ยอมบริจาครถให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แล้วถึงจะทําอย่างไร? ”

เซียวซูหนที่อยู่ข้างๆ ก็ไม่พอใจกับความโอหังของเจียงหมิง เป็นอย่างมาก แล้วก็พูดออกมาว่า “ถึงแม้รถจะเป็นชื่อของฉัน แต่นายวางใจเถอะ ฉันเอาหัวเป็นประกันเลย ว่าถ้าสามีฉันแพ้ ฉันก็จะบริจาครถคันนี้ให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแน่นอน แต่ถ้า นายแพ้สามีฉันล่ะก็ นายก็บริจาครถของนายให้สถานเลี้ยงเด็ก กําพร้าด้วยแล้วกัน มีคนมากมายดูอยู่ นายรับปากไหมล่ะ? ”

เจียงหมิงได้ยินดังนั้น ก็เบาใจขึ้นมา

ในใจคิดว่า รถเบนซ์E300Lของกูเนี่ย จะวิ่งสู้ รถBMW520ของมึงไม่ได้เชียวรึ?

ในเมื่อถึงหาเรื่องขายหน้าเอง งั้นก็เตรียมตัวSay Goodbyeเลยแล้วกัน!
ดังนั้น เงี่ยงหมิงก็พูดว่า “ในเมื่อมีสาวพูดออกมาแบบนี้แล้ว งั้นผมก็ไม่มีอะไรคัดค้าน มีเพื่อนๆ มากมายเป็นพยานให้ และป้า หลี่ก็อยู่ที่นี่ด้วย พวกเราก็ตกลงตามนี้แล้วกัน ใครแพ้ก็บริจาครถ ให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

ป้าหลี่ก็รีบพูดว่า “ไอ้หยา พวกนายทำอะไรกันเนี่ย? ต่างก็โต มาด้วยกันทั้งนั้น มีเรื่องอะไรก็คุยกันดีๆ สิ จะมาหาเรื่องกัน ทำไม? ฟังป้านะ อย่าพนันอะไรกันแบบนี้เลย พวกเราไปข้าวกัน ดีๆ เถอะ คุยเรื่องเก่าๆ กัน กระชับความสัมพันธ์กันหน่อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ