ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 792



บทที่ 792

หม่าหลันพยักหน้าติดต่อกันอย่างสะลึมสะลือ เอ่ยปากพูดว่า : “พี่กุ้ยเงิน ขอร้องคุณล่ะให้ฉันกินข้าวเถอะนะ ไม่อย่างงั้นฉันคง ต้องตายแล้วจริงๆ…….

จางกุ้ยเฟินพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา นำข้าวต้มในถ้วยเพลง บนพื้น ตามด้วยใช้เท้าบดขยี้ พูดด้วยความเย็นชาว่า “อยาก กินใช่ไหม? งั้นก็หมอบเงียบนพื้นเถอะ! ”

เมื่อวานจางกุ้ยเฟินให้หม่าหลินเลียข้าวต้มบนพื้น หม่าหลับไม่ ยอมอย่างเด็ดขาด

เพราะเธอคิดว่า ไม่ว่ายังไง ตัวเองไม่สามารถทำเพื่อกินค่า

เดียว ก็ยอมหมอบลงไปทำเรื่องที่ชั้นต่ำขนาดนี้

แต่ว่าตอนนี้ เธอไม่สามารถถือสาอะไรเยอะขนาดนี้แล้ว อะไร ชั้นไม่ชั้น ขอเพียงแค่ทำให้อิ่มท้อง หรือเพียงแค่รองท้อง หน่อยเท่านั้น ให้ตัวเองลงไปเลียบนพื้นแล้วมันจะยังไงกัน?

ดังนั้นเธอจึงรีบคุกเข่าลงทันที หมอบลงบนพื้นอย่างไม่ลังเล ใช้ลิ้นเลียข้าวต้มที่เย็นบนพื้นปูนซีเมนต์

เมื่อนายหญิงใหญ่เซียวเห็นภาพฉากนี้ในใจก็รู้สึกสบายใจขึ้น

เยอะ

เมื่อคิดถึงว่าอนาคตหม่าหลันจะต้องอยู่ในนี้สิบกว่าถึงยี่สิบปี หรืออาจจะมากกว่านั้น ในใจของเธอก็ยิ่งจะมีความสุขมากเลยทีเดียว

หม่าหลันเลียข้าวต้มที่อยู่บนพื้น ทีละคำๆจนสะอาดเกลี้ยง ถึง ขนาดกินจนมีดินทรายเต็มปากอยู่จํานวนมาก แต่ในเวลานี้ตัว เธอไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลย

ในเวลานี้ ผู้คุมเรือนจำเปิดประตูห้องขัง มองไปที่หมาหลับที่ อยู่ในห้อง พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า : “หม่าหลับคุณออกมา สถานีตำรวจจะทําการสอบปากคำแล้ว! ”

ขังอยู่ในสถานกักขังยังไม่มีการตัดสินลงอาญา เป็นที่เรียกกัน ว่าผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องสงสัยมักจะถูกตำรวจนำตัวกลับไปยังสถานี ตำรวจเพื่อดำเนินการสอบปากคำ นี้ก็ถือว่าเป็นการดำเนินการ ตามขั้นตอนทั่วไป

เมื่อหม่าหลันได้ยินว่าจะสอบปากคำตัวเองแล้ว ก็ไม่ได้สงสัย รับปีนขึ้นมาอย่างยากลำบาก ร้องไห้พุ่งไปที่ประตู มองไปยังผู้ คุมขังพูดวิงวอนว่า : “ขอร้องคุณล่ะค่ะ รีบเอาตัวฉันไปเถอะ”

เธอกลับว่าไม่รู้มาก่อน การสอบปากคำในครั้งนี้ มันเป็นเพียง เย่เฉินลูกเขยของตัวเอง ที่จัดเตรียมการแสดงครั้งใหญ่ไว้เพื่อตัว เองเท่านั้น!

เมื่อผู้คุมขังคนนั้นเห็นเธอที่น่าสังเวชเช่นนี้ มีแผลทั้งตัว แม้แต่ ฟันหน้าก็หักไปแล้วสองซี่ ในใจก็อดไม่ได้ที่จะแอบตกใจ

ทันใดนั้น เธอก็พูดกับหม่าหลันว่า : “รีบออกมาเถอะ ตำรวจ

ที่มารับคุณรออยู่นะ! ”
ตำรวจทั้งสองท่านนี้ ก็คือตำรวจสองท่านที่นำตัวหม่าหลั่นมา ส่งไว้เมื่อสองวันก่อน

ห่างกันไม่ถึง 48 ชั่วโมง หม่าหลันก็เปลี่ยนไปจนไม่หลงเหลือ ลักษณะของคนแล้ว ค่อนข้างทำให้พวกเขาตกใจจนอ้าปากค้าง

แต่ว่าพวกเขาก็รู้ว่า มีคนเคยบอกไว้แล้ว ไม่ให้พวกเขา ก้าวก่ายเรื่องของหม่าหลัน ดังนั้นพวกเขาจึงเสแสร้งเป็นมองไม่ เห็น พูดกับหม่าหลันไปว่า : “ไปเถอะ รถของเรารออยู่ข้างนอก

พูดจบแล้ว คนๆนั้นก็เอากุญแจมือมาตรงหน้าของหม่าหลับ นำมือทั้งสองข้างของเธอล็อกด้วยกุญแจมือไว้ด้วยกัน

หม่าหลันออกมากับพวกเขาทั้งสองคน ถามด้วยความตื่นเต้น ไม่น้อยว่า : “คุณตำรวจ ฉันถูกปรักปรำแล้วจริงๆนะ คดีนี้ของ พวกคุณมีความคืบหน้าอะไรบ้างไหม เมื่อไหร่ฉันถึงจะหลุดพ้น จากความอยุติธรรม แล้วปล่อยฉันกลับบ้านเหรอ ! ”

พูดจบ หม่าหลับไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ แล้วร้องไห้

ฮือๆออกมาแล้ว

ตำรวจพูดว่า : “ตอนนี้คุณพัวพันกับคดีการฉ้อโกงข้ามชาติ นี่ คือการฉ้อโกงข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยบันทึกไว้ และ ตอนนี้คุณก็เป็นบุคคลต้องสงสัยคนที่หนึ่งที่เราจับกุมได้ เป็น กุญแจสำคัญที่เราใช้คลี่คลายคดีและจับกุม

พูดแล้ว ตำรวจคนนั้นก็พูดอีกว่า : “ถ้าคุณเข้าใจ สถานการณ์หน่อย ทางที่ดีที่สุดให้ซัดทอดผู้ร่วมกระบวนการทั้งหมดออกมา แบบนี้จะเป็นการช่วยเหลือพวกเราในการ คลี่คลายคดี และสามารถช่วยเหลือตัวคุณด้วย จะพยายามช่วย จัดการผ่อนปรนให้

หม่าหลันร้องไห้ออกมา พูดอย่างมั่นคลอนว่า : “คุณตำรวจ คุณเชื่อฉันนะ ฉันยอมที่จะสาบานด้วยชีวิตของฉัน เรื่องนี้ฉันไม่รู้ อะไรทั้งนั้น คนที่พวกคุณต้องไปจับกุมคือลูกเขยของฉัน ฉันพา คุณไปจับกุมเขาได้ ถ้าหากมีปัญหาอะไรคุณก็ไปสอบปากค่าเขา ถึงขั้นจะยิงเป้าเขาก็ไม่มีปัญหา แต่ว่าพวกคุณจะมากล่าวหาคน ดีๆไม่ได้นะ! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ