บทที่ 77 การ์ดเชิญ
บริษัทวัสดุก่อสร้างเทียนเหาถูกทำลายล้าง คนที่เสียใจที่สุด กลับเป็นนายหญิงใหญ่เขียว
ตอนนี้การเงินของตระกูลเซียวหมุนไม่ทัน เธอยังหวังว่าเซียวซู หนจะสามารถเกลี้ยกล่อมให้บริษัทวัสดุก่อสร้างเทียนเหาให้ เครดิตเอาสินค้าหนึ่งล็อตออกมาก่อน แบบนี้ก็จะสามารถแก้ไข ความกดดันจากเงินทุนได้
ทว่านึกไม่ถึง ทั้งบริษัทวัสดุก่อสร้างเทียนเหา กลับกลายเป็น เถ้าในช่วงบ่ายนี้
ตอนนี้ นายหญิงใหญ่กังวลปัญหาเงินทุนมากที่สุด แล้วจะ
หาเงินทุนก้อนหนึ่งมายังไง จึงได้กลายเป็นความคาดหวังที่ใหญ่
สุด ในใจของเธอ
เซียวซูหนกลับไม่ได้บอกเรื่องที่เธอเจอในเมื่อวานนี้ พอมี ประสบการณ์ครั้งนี้แล้ว ภายในใจลึกๆ ของเธอจึงแอบตัดสินใจ อนาคตจะไม่ถามเรื่องอื่นของตระกูลอีก แล้วจะตั้งใจร่วมงานกัล มหากรุ๊ป เรื่องอื่น ต่อให้คุณย่าขอตัวเอง ก็จะไม่มีทางไปยุ่งเด็ด ขาด
วันที่สอง ความมีชีวิตชีวาและสภาพร่างกายของเซียวซูหน กลับสู่สภาวะปกติไปไม่น้อย จึงรีรอไม่ไหวที่จะรีบยุ่งกับงาน
ช่วงเช้าเยู่เฉินออกไปซื้อผัก ตอนที่ซื้อเสร็จกลับบ้าน ก็เห็นพ่อตาเซียวางควนทำสีหน้าที่หม่นหมองแล้วนั่งอยู่บนโซฟา พร้อมกับถอนหายใจออกมา
เขาขมวดคิ้วขึ้น แล้วเอ่ยถาม “พ่อ ทำไมถึงรู้สึกอารมณ์ไม่ดี ล่ะ? ใครทำให้ท่านรู้สึกไม่มีความสุขอีกล่ะ? ไม่ใช่เพราะว่าซื้อ วัตถุโบราณแล้วถูกหลอกอีกนะ? ”
เขียวฉางควนดื่มชามะลิไปหนึ่งคำ แล้วพูดด้วยความโมโห “อย่าพูดถึงวัตถุโบราณเลย ให้ตายเถอะ พูดถึงฉันก็รู้สึกเครียด!
“ทำไม? ” เย่เฉันอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “หรือว่าถูกคนหลอก จริงๆ? ”
เซียวฉางควนพูดขึ้น “ไม่ใช่ถูกคนหลอก เพราะว่าเป็นเป่าเก อมีรายชื่อการประมูล! ”
เย่เฉินเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “เจินเป่าเกือคืออะไร?
“คือสมาคมหนึ่งที่เล่นวัตถุโบราณของเมืองจีนหลัง ด้านในมี การจัดงานประมูลระดับสูงอยู่ประจำ แล้วจะประมูลของดีที่ไม่ ค่อยเห็นในตลาด ตระกูลทุกๆ ตระกูลต้องมีรายชื่อถึงจะร่วมได้ ตอนที่เขียวฉางควนพูด สีหน้าก็เผยความหลงใหลออกมา
ทว่าหลังจากนั้น เขาก็พูดด้วยสลดใจ “ตระกูลเซียวก็แค่ได้รับ การ์ดเชิญใบเดียวเท่านั้น คุณย่าของแกกลับให้เขียวไม่หลง เชียวให้หลงไอ้เด็กคนนั้นไม่เคยรู้เรื่องการเล่นวัตถุโบราณเลยแล้วไม่เข้าใจอะไรเลย แล้วจะไปทำอะไร? ไปอับอายขายหน้า หรอ!!”
เย่เฉันรู้สึกว่าพ่อตาของตัวเองหลงใหลในวัตถุโบราณมาก พอขาดโอกาสแบบนี้ไป สำหรับเขาแล้วก็ต้องรู้สึกลำบากใจอยู่ แล้ว
ดังนั้น เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม “พ่อ ถ้าพ่ออยากไปจริงๆ แต่ไป ซื้อการ์ดเชิญหนึ่งใบกับหวงหนิว การค้าหรือผู้ที่ค้าที่เอากำไร เกินควร )ก็พอแล้ว”
เขียวฉางควนผายมือ “เจ้าภาพที่จัดงานประมูลเงินเป่าเกือ คือตระกูลซ่ง ตระกูลซึ่งเป็นตระกูลที่เก่งที่สุดในเมืองจีนหลัง การ์ดเชิญของพวกเขา ไม่รู้ว่ามีมากแค่ไหนที่ต้องการมาก แล้ว จะได้มาได้ยังไง”
เย่เฉินพูดขึ้น
ทีแรกองค์กรของตระกูลซึ่งก็คืองานประมูล
คุณหนูใหญ่ตระกูลซงซึ่งหวั่นถึง ไม่ใช่ว่าสุดท้ายเธอก็ขอให้ ตัวเองช่วยตรวจเช็ควัตถุโบราณอีกหรือไง?
การ์ดเชิญเป็นเรื่องเล็กน้อย แค่คุยกับเธอก็สามารถจัดการ
ปัญหานี้ได้แล้ว
พอนึกถึงแบบนี้ เยเฉันก็พูดด้วยเสียงนิ่งเฉย “เพื่อนที่ผมรู้จัก ยังเป็นคนในตระกูลเมืองจินหลิงพอดี แค่ได้บัตรเชิญสองใบมา ก็น่าจะไม่น่าจะเป็นเรื่องยุ่งยากอะไร
เซียวางควนไม่เชื่อ แล้วส่ายหัว “ช่างเถอะ นายจะไปรู้สึก เพื่อนอะไรที่ได้เรื่องล่ะ ฉันว่าก็คงเป็นเพียงเพื่อนคนเสเพลเกเร เท่านั้น พวกเขาจึงมีความสามารถที่จะมีความสัมพันธ์กับตระกูล ซึ่งได้ยังไง”
เย่เฉินไม่ได้พูด แล้วไปที่ล่างตึกโดยตรง จากนั้นก็โทรหาซึ่ง หวั่นถึง แล้วพูดขึ้น “คุณหนูซ่ง ไม่รู้ว่าคุณจะสามารถเอาบัตรเชิญ งานประมูลเงินเปาเก๋อให้ผมสักสองใบได้ไหม? ”
ซึ่งหวั่นถึงพูดขึ้นโดยตรง “คุณเย่ สองใบพอหรอ? ถ้าไม่พอ ฉันให้ได้อีกหลายใบ
เย่เฉินรับการ์ดเชิญพลางมองเพียงพริบตา แล้วพูดขึ้น “พอแล้ว มีเพียงผมกับพ่อตาไปร่วมงานเท่านั้น”
เขียวฉางควนเป็นคนที่หลงใหลในการเล่นวัตถุโบราณมาก เซียวซูหนและแม่สามีไม่รู้สึกสนใจเลยสักนิด ต่อให้พวกเธอทั้ง สองคนไป พวกเธอก็คิดว่าเป็นการเสียเวลา
ส่วนเเฉิน หลังจากที่ผ่านตลาดการเล่นวัตถุโบราณ ในครั้ง นั้น ก็รู้ถึงคุณธรรมของพ่อตา กลัวว่าพ่อตาจะตามืดตามัว แล้ว ถูกคนอื่นโกงจนไม่เหลืออะไรเลย จึงไม่สามารถไม่ติดตามไป ด้วยไม่ได้
เขาจึงอยากจะไปดูหน่อย ในงานประมูลมียาอะไรหายากไหม หรือว่าของสําค่าอะไรก็ได้
พอพูดถึงของล้ำค่า เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงก้อนหิน “สุขสันต์มั่งมี”
หลังจากช่วยต่ง งหลินเสร็จ ก้อนหินนี้ก็หายใจ เขาคิดว่าน่า จะหายไปตอน ช่วยต่งรั้งหลิน
หลังจากเรื่องที่เกิด เขายังกลับไปทางเดิมแล้วตามหาไปหนึ่ง
รอบในวันนั้น ก็หาไม่เจอ โชคดีที่เรกของก้อนหินก้อนนั้นถูกตนเองดูดซึมไปแล้ว ไม่งั้นก็
คงจะน่าเสียดายมาก
ต่อให้ของที่ “เจ๋งเป่าเกือประมูลวัตถุโบราณ ล้วนเป็นของ ค่าบนโลกใบนี้ ไม่แน่เขาอาจจะได้รับอะไรมาก็ได้
จนถึงตอนที่เซียวซูหนเลิกงานกลับบ้าน เซียวฉางคานยังคง ทำสีหน้าที่ไร้ชีวิตชีวา แม้กระทั่งมือ ยังไม่มีกะจิตกะใจที่จะกิน
เยเฉันรู้ว่าเพราะว่าเขากำลังเคร่งเครียดเรื่องของการ์ดเชิญ
งานประมูล
เวลานี้ ซึ่งหวั่นถึงเพิ่งจะโทรไป แล้วพูดขึ้น “คุณเย่ ต้องขอ โทษจริงๆ นะ ตอนบ่ายฉันต้องไปทำธุระที่เมืองไห้ ตอนนี้ถึงได้ ตึกบ้านของคุณแล้ว นี่กำลังเอาการ์ดเชิญมาให้คุณ
เย่เฉินพูดด้วยความเร่งรีบ “ผมลงไปเอาเถอะ! ”
พูดจบ ก็รีบออกจากประตู
ซึ่งหวั่นถึงนั่งอยู่บนรถโรลส์รอยซ์ของตัวเอง พอมาถึงใต้ดึก ก็ เห็นเเฉินออกมา จึงรีบลงจากรถแล้วยื่นการ์ดเชิญให้เขาสองไป
เเงินกล่าวขอบคุณ แล้วไม่ได้พูดมากอะไรกับเธออีก จากนั้น รบกลับมาในบ้าน
พอกลับบ้าน พ่อตาก็ยังโกรธอยู่
เซียวซูหนเกลี้ยกล่อมเขา “โธ่พ่อ อย่าโกรธเลย คุณย่าเอา การ์ดเชิญให้เขียวไห่หลิง ก็หวังว่าเขียวไหหลงจะถือโอกาสนี้ รู้สึกกับคนชั้นสูงสองสามคน เพื่อที่จะสานความสัมพันธ์ด้วยกัน
พ่อตาถอนหายใจพลางพูด “เฮ้อ ย่าของนายลำเอียงตั้งแต่ เด็ก ไม่ค่อยเข้าข้างฉัน แค่จะรักและเอ็นดูลุงใหญ่และไม่หลง พวกเขาสองคน ถึงตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนี้ ทำให้ฉันเครียดจะตาย แล้ว! ”
เชียวชูหนพยักหน้าอย่างประหม่า เธอก็รู้ว่าคุณย่าล่าเอียง ตอนแรกคุณย่ารู้สึกว่าพ่อไม่ได้เรื่อง ไม่สามารถสืบทอดธุรกิจ ทางตระกูล ดังนั้นจึงได้รักใคร่เอ็นดูเซียวไม่หลงมากกว่า
หลังจากตัวเองแต่งงานให้กับเย่เฉิน คุณย่าก็เหมือนจะตัดหาง ปล่อยวัดครอบครัวของตัวเอง
เวลานี้ เยเฉันเดินไปตรงหน้า แล้วเอาการ์ดเชิญสีทองสองใบ ให้กับพ่อตา แล้วพูด “พ่อ การ์ดเชิญที่พ่อจะเอา ผมได้มาแล้ว”
“อะไรนะ!! ”
เขียวฉางควนเหมือนมีระเบิดติดตั้งไว้บนตูด จึงได้กระโดดขึ้นทันที!
เขาจึงแย่งการ์ดเชิญในมือของเย่เฉินไป แล้วรีบเปิดออกมาดู เพียงพริบตาเดียว ทันใดนั้นก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจจนพูดอะไรไม่ออก
เซียวซูหนที่อยู่ข้างๆ ก็รู้สึกตกตะลึงเป็นพิเศษ แล้วเอาการ์ด เชิญในมือของพ่อแล้วดู กลับเป็นการ์ดเชิญ “เจ๋งเป่าเก๋ ” จริงๆ ด้วย
“เยี่ยมจริงๆ! เย่เฉิน นายเป็นลูกเขยที่ดีของฉันจริงๆ ” เซียว ฉางควนดีใจจนหน้าแดงระเรื่อ แม้กระทั่งตอนพูดยังติดๆ ขัดๆ
เขายื่นมือไปตบไหล่ของเเฉิน “ลูกสาวของฉันแต่งงานกับ นาย แต่งถูกคนจริงๆ ” “ซิ ก็แค่การ์ดเชิญหนึ่งใบเท่านั้น ทำไมคุณถึงต้องดีใจจนไม่
ได้สติแล้วล่ะ” แม่ยายหม่าหลับก่นด่าด้วยเสียงไม่เป็นมิตร
เซียวฉางควนจึงจับการ์ดเชิญไว้แน่นๆ แล้วพูดกับหม่าหลัน ด้วยความไม่พอใจ “คุณเข้าใจอะไรล่ะ นี่มันการ์ดสุดล้ำค่าของ เจิงเป่าเก๋อเชียวนะ!”
พูดจบเขาก็มองเย่เฉินด้วยความดีใจ “รีบกินข้าวเถอะ”
จากนั้นก็เรียกเซียวซูหน “ไป ไปเอาเหล้าไหโกว์ในห้องของ ฉัน คืนนี้ฉันจะดื่มดีลูกเขยดีเด่นสักสองแก้ว”
หม่าหลั่นมองเซียวฉางควนดีใจแบบนี้ จึงยังตามองเยเงินอ ย่างไม่เป็นมิตร แล้วไม่พูดไม่จาอะไรอีก
เซียวซูหนก็รู้สึกดีใจ ทว่าก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย หลังจากที่เอา เหล่ายาออกมา เธอก็นั่งลงข้างเย่เฉิน แล้วใช้ข้อศอกชนเขา “การ์ดเชิญใบนี้คุณไปเอามายังไง? ”
ตอนบ่ายเธอก็ได้ยินมาแล้ว อยากจะเอาการ์ดเชิญให้พ่อเธอ หนึ่งใบ ทว่าพอถามแล้วถึงจะรู้ การเชิญชวนของเจ๋งเป่าเกือกลับ จำกัดจำนวนในแต่ละตระกูล
เย่เฉินได้มายังไงกันแน่
เย่เฉินยิ้มพูด “ผมไปขอกับเพื่อนคนหนึ่ง เขาก็เอาการ์ดเชิญ ให้ผมสองใบ ทว่าเขาไม่กล้าไป จึงให้ผม
“บังเอิญขนาดนี้เลยหรอ? ” เซียวซูหนกึ่งสงสัยกึ่งเชื่อ “ทำไม ฉันถึงไม่เคยได้ยินคุณพูด คุณมีเพื่อนที่มีฐานะทางตระกูลดีขนาด นี้เลยหรอ? เขาชื่ออะไร? ”
เย่เฉินจึงพูดด้วยเสียงเรียบ “แซ่ฉิน การเล่นวัตถุโบราณครั้งที่ แล้ว ผมเคยช่วยเขาหนึ่งครั้ง พอรู้
เซียวฉางควนพยักหน้าไม่หยุด “แน่นอนๆ คนๆ นั้นแซ่ฉัน ยัง ส่งกำไลหยกให้หนึ่งอัน บอกว่ามีมูลค่าห้าหกร้อยล้าน! “
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ