บทที่ 534
“โธ่เอ๊ย!” ฉันกางถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วพูดขึ้น “แก กำลังทำร้ายอาจารย์เย่! ตอนนี้คนของตระกูลเริ่มตามหาเขา แล้ว! แล้วก็ได้เรียกตระกูลใหญ่ๆ ในจินหลิงมาพบแล้วด้วย ทุก คนกำลังตามหาเบาะแสเขาอยู่
“ห้ะ? ” ฉันเอาเสงี่ยนตกใจจนเกือบสติหลุด แล้วพูดขึ้น “พ่อ ตระกูลคงไม่ได้จะทำอะไรอาจารย์เย่หรอกใช่ไหม?
ฉันการพูดขึ้น : “ตระกูลต้องการเอาชีวิตเขาไงล่ะ! ”
ฉันเอ้าเสงี่ยนตกใจจนร้องไห้ออกมา แล้วรีบพูด “พ่อ เรื่อง นี้เกิดขึ้นเพราะหนู บอกตระกูลได้ไหม บอกว่าหนูเป็นคนทำร้า ยอู๋เอง? หนูไม่อยากเป็นคนทำให้อาจารย์เย่เดือดร้อน….
“แกบ้าไปแล้วเหรอ? ” ฉินกางถอนหายใจออกมา : “ตระ กูลจะฟังเหตุผลที่ไหนละ? ในเมื่อคนที่ลงมือทำร้ายคืออา จารย์เย่ อย่างนั้นตระกูล ไม่มีทางปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน และถ้าพวกนั้นรู้ว่าแกเป็นคนไปหาอาจารย์เย่ให้ช่วย พวกนั้นก็ จะจัดการเก็บทั้งแกแล้วก็อาจารย์ทั้งสองคน
“แล้วจะทำไงดี? ” ฉันเอ้าเสงี่ยนทั้งร้องไห้ ทั้งพูด “พ่อ หนู ไม่ได้ตั้งใจหาเรื่องมาให้อาจารย์เย่จริงๆ นะ อาจารย์เย่คงจะไม่ ตกอยู่ในอันตรายใช่ไหม? ”
ฉันการพูดขึ้น :
“ตอนนี้ตระกูลยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมืออาจารย์เแต่ว่า แกต้องบอกพ่อให้ละเอียด ว่าเรื่องนี้มีใครบ้างที่รู้เรื่อง ฉันเอ้าเสงี่ยนพูด : “มีแค่หนูกับอาจารย์เที่รู้
“มีแค่แกรู้สองคนเหรอ? ” ฉันกางถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “แล้วเพื่อนสนิทแกล่ะ? ไม่รู้เรื่องด้วยเหรอ? ”
ฉันเอ้าเสวียนจึงพูดขึ้น : “มันน่าแปลกมาก เพราะหล่อนไม่มี ความทรงจำอะไรเกี่ยวกับอาจารย์เย่เลย พอนึกถึงเรื่องนี้ ก็ อะไรเกี่ยวกับอาจารย์เย่ไม่ได้เลย จำได้แค่ว่าอยู่ดีๆ ตัวเองก็รู้สึก สำนึกขึ้นมาได้ แล้วก็ต้องใช้ชีวิตให้ดี และเสียสละเพื่อสังคม
ฉินกางอดไม่ไหวเลยถอนหายใจออกมา “อาจารย์เป็นเทพ แปลงกายมาจริงๆ ด้วย! ไม่ใช่แค่ที่จำเขาไม่ได้ เพื่อนของ แกคนนั้นก็จําเขาไม่ได้เหมือนกัน”
พูดถึงนี่ ฉินกางก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้น : “ ในเมื่อเป็นแบบ นี้แล้ว พ่อก็วางใจแล้ว แต่แกอย่าไปพูดเรื่องนี้กับใครสุ่มสี่สุ่มห้า ละเข้าใจไหม? ”
ฉันเอ้าเสงี่ยนรีบตอบทันที “เข้าใจแล้วค่ะ!”
“ดี” แล้วเขาก็พูดกำชับอีก “เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องกับ อาจารย์เย่ ช่วงนี้ แกก็พยายามอยู่ในมหาลัย แล้วก็อย่าไป ติดต่อกับอาจารย์ เพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นรู้ เข้าใจไหม? ”
พอฉันเอ้าเสวียนได้ยินพ่อบอกไม่ให้ติดต่อกับอาจารย์เย่ ใน
ใจก็รู้สึกสิ้นหวังและเสียใจ แต่พอมานึกดูแล้ว นี่ก็เพื่อเป็นการไม่หาเรื่องให้อาจารย์เย ดังนั้นเธอเลยตอบอย่างเชื่อฟัง “เข้าใจแล้วค่ะ พอวางใจ หนูจะ ทําตามที่พ่อบอก”
“ดีแล้ว” ฉินกางถึง โล่งใจแล้วพูดขึ้น “โอเค งั้นก็ตามนี้ พ่อ ยังมีเรื่องต้องทํา”
พูดจบ เขาก็ตัดสายทันที
พอวางสายโทรศัพท์ หวังเจิ้งกางก็รีบถามขึ้นทันที “คุณฉัน เรื่องอู๋ฉี เป็นฝีมือของอาจารย์เย่จริงๆ งั้นเหรอ?”
ฉันกางมีท่าทีไม่ดีแล้วพยักหน้า แล้วเขาก็หันไปถามหงห้า อย่างจริงจัง : “หงห้า คุณวิเคราะห์แม่นยำมาก
หวังเจิ้งกางพูดขึ้น : “ท่านทั้งสอง พวกเราควรจะไปบอกอา จารย์เดีไหม? เพื่อให้เขาได้เตรียมตัว และจะได้ป้องกันไป ด้วย?
“ต้องบอกอยู่แล้ว! ” ฉันกางรับตอบทันที “ไม่เพียงแต่ต้อง เล่าให้ละเอียด พวกเราเองก็ต้องแสดงท่าทีออกมา ไม่อย่างนั้น ถ้าหากว่าอาจารย์เย่รู้ว่าพวกเรามากินข้าวกับตระกูล แล้ว เข้าใจผิดว่าพวกเราอยู่ข้างตระกูล มันต้องเกิดเรื่องแน่…….
ฉินทางพูดพลางถอนกายใจออกมา “ถ้ารู้แต่แรกว่าสองคน พ่อลูกตระกูล ต้องการจัดการอาจารย์เย่ ถึงจะตีให้ตายยังไง ผม ก็ไม่มีทางมางานนี้แน่นอน!
“ใช่! “หงห้าพูดขึ้นด้วยความโมโห : “ผมก็คิดว่ายังไงซะ พวกเขาเป็นคนตระกูลอู๋เป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเจียงหนาน ในเมื่อต้องการจัดงานที่เทียนเชียง ผมก็ต้องดูแลเป็นอย่างดี แต่ ไม่นึกว่า สองคนพ่อลูกสารเลวนี้จะคิดจัดการอาจารย์เย่ ถ้ารู้แต่ แรก ผมยอมไม่ไว้หน้าพวกเขา ไม่ให้จัดงานเลี้ยงที่นี่แน่นอน และยิ่งไปกว่านั้นยังจัดห้องให้นั่งตรงที่อาจารย์เย่เคยนั่งมา ก่อน……..
หวังเจิ้งกางพูดเสริม: “พวกเราทั้งสามต่างก็ได้รับโอกาส จากอาจารย์เย่ ยาที่อาจารย์มอบให้ตอนนี้ผมก็ติดตัวไว้ตลอด ดังนั้นเราทั้งสามคนถึงยอมศิโรราบให้อาจารย์เย่ และในเวลา วิกฤตแบบนี้ ต้องรีบไปหารือกับอาจารย์ให้เร็วที่สุด และต้อง แสดงให้อาจารย์เย่เห็นว่าพวกเราจงรักภักดีต่อเขา! ”
ฉันกางพยักหน้าแล้วพูดขึ้น : “งั้นเอาแบบนี้ ผมจะโทรไปหา อาจารย์เย่ตอนนี้!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ