ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 46 ดังทั่วทั้งเมือง



ภาพมัวในกระจกนั้น ฅนในจีนหลิงต่างก็ เห็นกันหมด มองเห็นพิธีแต่งงานที่ยิ่งใหญ่และ สวยงามมาก

ในขณะที่ทุกคนต่างพากันอิจฉานั้น ทุกคน ต่างก็พากันเดาไปต่างๆ นาๆ ว่าชายหญิงที่อยู่ใน นั้น เป็นใครกันแน่?

และทั้งสองคนก็ดูลึกลับมาก งานแต่งของ พวกเขานั้น มีแค่พวกเขาสองคน เพื่อนสักคนก็ ไม่มี แถมพยานรักของพวกเขาเองก็ไม่มีเลย!

บนเวทีคริสทัลนั้น เย่เฉินได้จับมือของเชียว ซู รัน และพลางหยิบเอาสร้อยหยกที่เตรียมไว้ ออกมา

“ซูหรัน นี่คือของขวัญวันครบรอบแต่งงาน ของเรา หวังว่าเธอจะชอบนะ!”

เซียวซูหรื้นหันไปมองสร้อยมรกตที่ทอแสง

ระยิบระยับ พลันพูดขึ้นอย่างอึ้ง “เอ่อ…นี่คง ไม่ใช่สร้อยของร้านซุ่ยเกือชวนหรอกนะ? เย่เฉิน คุณไปเอามาจากไหน?”

ในขณะที่เธอพูดออกมา ในใจเธอก็รู้สึก ตกใจอย่างมาก

หรือว่า หรือว่าเย่เฉินจะเป็นเศรษฐีลึกลับคนนั้นจริงๆ?

ไม่อย่างงั้นสร้อยมรกตเส้นนี้จะตกมาอยู่ใน มือเขาได้ยังไง ?

แต่ว่า….

มันดูเป็นไปได้ยาก!

เย่เฉินเป็นใครนั้น เธอเองก็รู้ดีแก่ใจ เขาจะ กลายเป็นเศรษฐีรวยล้นฟ้าไปได้ยังไง?

ดูจากเขาแล้ว ยังห่างไกลจากคำนั้นอยู่ มาก!

ตอนนี้เขาพอจะดูออกว่าเธอดูสงสัย แต่ใน ใจก็อยากจะบอกออกไป อยากจะบอกว่าตัวเอง เป็นใคร อยากจะให้เธอได้รู้ว่าเขาเป็นลูกหลานข องเย่เย่นจิง เป็นคนที่ต้องสืบทอดตระกูลเย่คนต่อ

แต่ว่า หลังจากนั้น เขาก็พลันนึกถึงเรื่องที่ สําคัญมากขึ้นได้

ว่าตอนนี้ตระกูลเย่อยู่ในสถานการณ์แบบ ไหน เขาเองนั้นรู้ดี!

ในความทรงจําของเขานั้น ตอนที่เขายัง เด็กก็เจอแต่ลุงกับน้า หรือพูดได้ว่า ในตระกูลเย่ รุ่นนั้น ไม่ได้มีแค่พ่อคนเดียว

ในเมื่อไม่ได้มีแค่พ่อเขาคนเดียว อย่างนั้นก็ หมายความว่าเหล่าลุงกับน้าก็ต้องมีลูกหลานอยู่อีก และต้องมีใครสักคนที่เล้งเขาไว้ ถ้าหากว่า ตอนนี้เขาก็ยังไม่แน่ใจ และยังไม่สามารถจะ ปกป้องเธอจากอันตรายพวกนี้ได้ การบอกสถานะ ตัวเองออกไปนั้น เกรงว่าจะเป็นการทำให้เซียวซู ร้นต้องตกอยู่ในชะตากรรมที่เลวร้าย!

การแก่งแย่งชิ่งมรดกภายในครอบครัวนั้น

เป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก เขาไม่ยอมที่จะให้คนรักของ

เขาต้องมาตกอยู่ในอันตรายเพราะตัวเขาเอง

พอคิดได้แบบนั้น เขาก็ทำเป็นพูดขึ้นเพื่อ กลบเกลื่อน “สร้อยเส้นนี้ ถึงจะเหมือนกับสร้อย ของร้านซุ่ยเก๋อซวน แต่ว่าเส้นนี้ผมสั่งให้คนทํา ขึ้นมาโดยเฉพาะ ถึงจะบอกว่าคุณภาพนั้นใช้ได้ แต่ก็ยังห่างกับของร้านซุ่ยเก๋อซวนอยู่มาก และ ทั้งหมดก็ใช้ไปหลายหมื่นหยวนอยู่เหมือนกัน”

พูดไปพลางหันไปถามเซียวซูหรัน: “ชูหรัน เธอคงไม่รังเกียจใช่มั้ย? เซียวซูหวั่นถอนหายใจอย่างโล่งอก!

ถ้าแบบนี้ก็น่าเชื่อขึ้นมาหน่อย!

ดังนั้นเธอจึงหัวเราะแล้วพูดขึ้น : “คนโง่ ฉัน จะไปรังเกียจทำไมล่ะ! คุณทำเพื่อฉันตั้งเยอะ จน ฉันไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว!”

เย่เฉินรีบเอาสร้อยในมือใส่ให้เธอทันที

แล้วเขาก็หันไปจ้องเธออย่างจริงใจ พลาง พูดขึ้น : “ซู รัน ตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาสามปีผมทําให้คุณต้องสาบากมามาก แต่ต่อจากนี้ ผม ขอรับประกันว่า จะไม่มีใครมาทําอะไรคุณได้ อีก!”

เซียวซูหวั่นพยักหน้าลงอย่างซึ้งใจ ในตอน นี้ เธอรู้แล้วว่า สามีของเธอคนนี้นั้น จะเช็ดหน้า ขึ้นมาได้แล้ว!

หลังจากพิธีแต่งงานเสร็จสิ้น เย่เฉินก็พา

เธอออกมาจากที่นั่นอย่างเงียบๆ

ทุกคนที่อยู่ด้านนอกต่างรู้สึกไม่พอใจ ทําไมพวกเขาถึงออกไปเร็วขนาดนี้?

พวกเขาออกมาทําให้ทุกคนรู้สึกอิจฉาตา ร้อน แล้วก็จากไปงั้นเหรอ?

ในขณะนั้น คนทั้งเมืองต่างพากันต่อว่าพิธี ฉลองงานแต่งครั้งนี้

เพราะว่า ไม่มีใครรู้เลยว่า ชายหญิงคู่นี้นั้น ตกลงเป็นใครกันแน่?

เย่เฉินขับรถบีเอ็ม760ที่เอาไปดัดแปลงเป็น รุ่น 520 แล้วพาเซียว หรืนกลับมาบ้าน

ระหว่างทาง เธอก็ยังนึกถึงเรื่องราวที่ทำให้ มีความสุขเมื่อครู่ไม่ยอมหยุด

เธออดไม่ได้จึงถามขึ้น : “คุณทํายังไงถึง จองที่นั่นได้? ได้ยินว่าที่นั่นไม่เคยมีใครสามารถจองได้มาก่อนเลย?”

เย่เฉินยิ้ม พลันพูดขึ้น : “ที่จริงแล้ว คนที่ ดูแลสูงสุดของป่ายจิน่านกง เป็นเพื่อนสนิทผม ที่อยู่ในบ้านก๋าพร้ามาด้วยกัน พวกเราต่างร่วม ทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน มีอะไรก็แบ่งกันกิน ดังนั้น ผมเลยไปขอร้องเขาให้ช่วย และเขาเองก็เป็นคน มีนํ้าใจมาก”

เชียวชูหนพยักหน้า : “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ นี่เอง แต่ทำไมไม่เคยได้ยินคุณพูดถึงเลยล่ะ?”

เย่เฉินพูดต่อ : “ในบ้านกำพร้าผมมีเพื่อน เยอะมาก พูดสามวันสามคืนก็ไม่หมดหรอก และ ผมก็นึกว่าคุณจะไม่ชอบฟังอะไรแบบนี้ ก็เลยไม่ ได้เล่าให้ฟัง

เซียวซูหรับพูดขึ้นด้วยท่าทางจริงจัง : “คุณ เป็นสามีฉัน สําหรับเรื่องราวที่ผ่านมาของคุณ ฉัน ก็ต้องอยากรู้อยู่แล้ว และก็อยากรู้มากเลย”

เย่เฉินหัวเราะออกมาทันที : “งั้นจากนี้ผมจะ เล่าให้ฟังละกันนะ”

“โอเค!”

พอกลับมาถึง เย่เฉินก็ขับรถไปจอดใต้ตึก

พอด้บรถ เขาก็ลงมาจากรถพร้อมกับเขียว ซู รัน และก็บังเอิญเจอกับพ่อแม่ของเธอเดินกลับ มาพอดี

แม่ยายเห็นพวกเขาสองคน ก็ตะลึงแล้วพูดขึ้น : “อาหรับ รถคันนี้เอามาจากไหน?” พอพ่อตาเห็นรถคันนี้ตาก็ลุกวาวทันที!

“ว้าว! บีเอ็ม! อาหรับลูกซื้อรถใหม่เหรอ? แพงมากด้าย!”

เขียว หนรีบตอบทันที “คุณพ่อ คุณแม่ รถคันนี้ไม่ใช่ของหนู เป็นของเย่เฉินต่างหาก”

“เย่เฉิน?” พ่อตาขมวดคิ้วแน่น : “เย่เฉิน ไป เอาเงินไหนมาซื้อรถคันนี้? หรือว่าใช้เงินของอาห ร้นเหรอ?”

แม่ยายก็ลากพ่อตาเดินวนรอบรถครั้งหนึ่ง แล้วพูดขึ้น : “ซิ! กินอยู่กับเราทุกวัน แถมอาศัยอยู่ กับเราอีก มีเงินเอาไปซื้อรถแต่ไม่รู้จักตอบแทน พวกเรา ช่างไม่รู้สํานึกจริงๆ ! ”

เซียว หนรีบพูดขึ้นทันที : “แม่ ท่านอย่า ต่อว่าเย่เฉินแบบนี้…

แล้วเสียงของพ่อก็ดังขึ้น : “ชิ แถมยังซื้อบี เอ็มรุ่น 520อีก คนอย่างแกมันคู่ควรกับรถดีๆ แบบนี้เหรอ? ซื้อบีเอ็มระบบ3 ยังไม่คู่ควรกับมัน เลย?”

แม่ยายก็พูดขึ้น : “ฉันจะบอกแกให้นะ ตอน นี้พอแกยังไม่มีรถใช้สักคันเลยตอนนี้ก็ค่อนชีวิต แล้ว ถ้ายังไม่ให้พ่อแกมีความสุขบ้าง ต่อไปก็คง ไม่มีเวลาแล้วล่ะ!”

แม่ยายพูดพลางชี้นิ้วสั่ง : “เอาแบบนี้มั้ย คันนี้ก็ให้พ่อแกเถอะ ถือซะว่าเป็นการตอบแทนคุณ พ่อแกนะ!”

หวั่นหันไปแล้วถามดู : “เย่เฉิน คุณคิดว่ายังไง?

เย่เฉินก็พลันคิด ได้อ่ะมันได้ แต่ว่าคันนี้ ไม่ใช่รุ่น 520 นะ แต่เป็นรุ่น 760 เลย!

พอครุ่นคิดสักพัก พ่อตาคนนี้ ช่างเป็นคนที่ เชื่อฟังภรรยาจริงๆ และเขาเองก็ไม่ใช่คนที่ คุณนายเขียวชอบอีกด้วย ดังนั้นเขาแล้ว รุ่น 760 นี่มันดูเปล่าประโยชน์มาก

พอคิดได้แบบนั้น เขาก็รีบพูดขึ้นมาทันที : “คุณพ่อ บีเอ็ม520 คันนี้ มันแค่ระบบ5 เอง แถม ยังเป็นรุ่นเก่า ถ้าหากว่าพ่อขับคันนี้ออกไป คนอื่น จะหัวเราะเยาะเอาได้นะ”

แม่ยายขมวดคิ้วขึ้นทันที : ทำไม? แกไม่ อยากให้งั้นเหรอ?”

เย่เฉินรีบส่ายมือพลางพูดขึ้น: “ไม่ใช่ไม่ใช่ จะไม่อยากให้ได้ยังไง ผมแค่คิดว่า ไม่อยากให้ คุณพ่อขับรุ่นเก่าแบบนี้ เอาแบบมั้ย คันนี้ไม่ ต้องเอาหรอกนะ ผมจะซื้อใหม่ รุ่น 530 ให้ รุ่น 530 ดีกว่า 520 เยอะเลย พ่อขับออกไปจะได้ไม่ ต้องอายใครนะ!”

แม่ยายยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้นอีก : แกยังมี อีกคัน รุ่น 530 เลยเหรอ?”197781796_1204675090048828_2041389638795765642_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ